ได้เห็นคุณพ่อคุณแม่พาลูกมาฝึกตีปิงปองแล้วรู้สึกดีใจ คุณพ่อบางคนถึงกับลงแรงเรียนปิงปองด้วยอีกคนเพื่อจะได้เอาความรู้มาสอนต่อให้กับลูก เด็กบางคนโชคดีถึงกับได้ทุนไปฝึกตีปิงปองถึงต่างประเทศกลับมาแข่งได้เป็นแชมป์ สร้างความภาคภูมิใจให้กับทุกคนที่พบเห็น ถูกยกย่องว่าสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ใครก็ตามที่ตั้งใจอยากจะเป็นแชมป์ปิงปองยุคนี้ต้องเริ่มฝึกตั้งแต่วัยเด็ก ต่างคนต่างต้องทุ่มเทเวลาเพื่อฝึกฝนหนักมากๆจนไม่มีเวลาให้ทำเรื่องอื่นโดยเฉพาะเรื่องการเรียนซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าการเล่นปิงปอง

ความภูมิใจที่สามารถตีปิงปองได้ดี เอาชนะคนอื่นได้ เป็นแรงกระตุ้นสำคัญที่ทำให้อยากจะทุ่มเทให้กับการตีปิงปองอย่างเต็มที่ แต่เด็กๆอย่าลืมว่าตัวเองยังคงมีหน้าที่ต้องเล่าเรียนอยู่ด้วย ถ้าเอาแต่เล่นจนเกรดตกต่ำก็ใช้ไม่ได้  อย่าไปฝันว่าตัวเองจะใช้ชีวิตแบบนักกีฬาอเมริกันฟุตบอล ซึ่งในความเป็นจริงเขาจะได้ทุนให้เล่นกีฬาต่อไปได้ก็ต่อเมื่อมีผลการเรียนไม่ต่ำเกินไปนัก ส่วนนักปิงปองจีนจะได้เงินจากทางการตามผลการแข่งขันและพออายุมากขึ้นก็จะได้รับหน้าที่เป็นโค้ชมีเงินเดือนให้ตลอดชีวิต แต่ก็ได้รับโอกาสนี้เพียงบางคนเท่านั้น

ส่วนนักปิงปองไทยต้องหาเลี้ยงชีพด้วยตนเอง หากตอนเด็กๆเอาแต่ตีปิงปองจนสอบอะไรไม่ผ่าน จะสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับเข้าทำงาน เมืองไทยยังไม่มีนักปิงปองอาชีพที่หาเงินเลี้ยงชีพได้ด้วยฝีมือการตีปิงปอง ถึงจะเป็นโค้ชปิงปองก็มีรายได้น้อยและไม่แน่นอน เงินรางวัลที่แจกให้กับผู้ชนะก็ใช้ได้ไม่นานก็หมด ตำแหน่งที่ราชการมอบให้ก็เป็นตำแหน่งระดับท้ายๆ สุดท้ายก็ต้องหาทางประกอบอาชีพอื่น นักปิงปองน้อยคนนักที่ประสบความสำเร็จทั้งการแข่งขันและมีตำแหน่งหน้าที่การงานระดับสูง

คิดวางแผนชีวิตให้ดีว่าอยากเป็นแชมป์ปิงปอง แต่เรียนได้แค่เกรด C - D ทำงานหาเงินได้แค่เลี้ยงตัวเองไปวันๆ ไม่มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่แน่นอน โด่งดังแค่ช่วงยังหนุ่มสาวแต่บั้นปลายชีวิตถูกหลงลืม

หรือจะเล่นปิงปองให้สนุก ให้รู้จักแพ้รู้จักชนะ ได้เป็นแชมป์ของระดับโรงเรียนก็พอ แล้วมุ่งการเรียนให้ได้เกรด B เป็นอย่างต่ำ มีอนาคตกับการทำงาน มีรายได้เป็นแสนต่อเดือน และมีเงินเก็บเป็นล้านไว้ใช้ในช่วงบั้นปลายชีวิต

ถ้ามีลูกมีหลานเป็นแชมป์ปิงปอง แต่เรียนได้เกรด D ตกซ้ำชั้น เรียนไม่เอาถ่าน หรือพูดไม่ออกเมื่อถูกถามเรื่องการเรียน แบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่าภูมิใจสำหรับพ่อแม่ โค้ช หรือประเทศชาติเท่าใดนัก

โปรดอ่าน http://www.thairath.co.th/content/508894


 

ขอยกคำแนะนำจาก FB มาให้อ่าน ซึ่งผมเน้นข้อสุดท้ายว่า ควรเป็นจุดมุ่งหมายของการเล่นปิงปอง

20 ข้อ ที่ควรรู้และปฏิบัติก่อนอายุ 45...

  1. ไม่ต้องตั้งใจเรียนมากไปในสายวิชาที่ตนเลือก แต่ภาษาอังกฤษ จำเป็นมากๆ จงให้ใส่ใจ ส่วนวิชาอื่นๆ เอาแค่ดีพอหางานดีๆทำก็พอ เพราะโลกแห่งความเป็นจริง วัดกันที่ผลงาน ไม่ใช่ที่เกรด ภาษาอังกฤษสร้างผลงานได้
  2. การทำกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นสำคัญมากพอๆ กับการคร่ำเคร่งหน้าตำราเรียน
  3. เลือกงานที่เราชอบนั้นใช่ แต่อย่าลืมด้วยว่า อาชีพนั้น.. สามารถเลี้ยงดูตัวเราได้จริงหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็อย่าหลอกตัวเอง
  4. เมื่อถึงวัยทำงาน ใครเก็บเงินก่อน รวยเร็วกว่าและสิ่งสำคัญ ที่ต้องจำไว้ คือ "ชีวิตที่ไม่มีหนี้ คือชีวิตที่ประเสริฐที่สุด"
  5. หาเป้าหมายในชีวิตให้เจอโดยเร็วที่สุด เพราะมันจะเป็นเครื่องนำทางของคุณ ในชาตินี้ตลอดไป
  6. ซื้อบ้านก่อน ที่จะซื้อรถ เพราะบ้านมีแต่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น รถมีแต่มูลค่าลดลง ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า รถ=ลด
  7. ดอกเบี้ยบ้านนั้นมหาโหดมาก รีบใช้ให้หมดโดยเร็วพลัน ก่อนที่จะแก่ แล้วผ่อนไม่ไหว
  8. การเก็บเงินเป็นแค่บันไดขั้นแรก สู่ความร่ำรวย แต่ขั้นต่อมา คือ ต้องรู้จักลงทุน. อย่าลืมคบกับที่ปรึกษาการเงินไว้เป็นเพื่อน
  9. อย่าเป็นศัตรูกับใครก็ตามบนโลกใบนี้ เพราะคุณจะไม่มีทาง รู้ว่าวันหนึ่งเขาอาจจะยิ่งใหญ่มาก จนกลับมาทำร้ายคุณก็เป็นได้
  10. คอนเน็คชั่นหรือสายสัมพันธ์เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ต่อให้เก่งแค่ไหน ก็สู้การมีเพื่อนเยอะไม่ได้
  11. ควรมีงานทำมากกว่า 1 งาน เพราะความมั่นคง ไม่เคยมีบนโลกใบนี้
  12. อย่าคิดว่าตัวเองทำอะไรได้แค่อย่างเดียว เพราะความสามารถของคนเรา มีมากกว่า 1 เสมอ
  13. เมื่อมีโอกาสใดก็ตามเข้ามา จงอย่าปฏิเสธ ถึงจะล้มเหลว แต่มันก็คือ ประสบการณ์
  14. สร้างเนื้อ สร้างตัว ให้ได้เร็วที่สุด ในขณะที่คุณยังมีกำลัง ยังเป็นหนุ่ม-สาว เพราะการฝ่าฟันอุปสรรคในช่วงอายุมาก ไม่ใช่เรื่องสนุก
  15. ออกเดินทางท่องเที่ยวตั้งแต่ยังหนุ่มสาว เพราะเมื่อมีครอบครัว การเดินทางจะเป็นเรื่องยุ่งยากกว่าเดิม
  16. เลือกคู่ชีวิต จงคิดให้ดีๆ อย่าดูแต่ข้อดีของเขา แต่ต้องดูด้วยว่าเราสามารถรับข้อเสียของเขาได้มากแค่ไหน
  17. การมีแฟน หรือสามีภรรยา ยังเลิกกันได้ แต่ความเป็นพ่อแม่ลูก นั้นเลิกกันไม่ได้ เพราะฉะนั้น ควรดูแลพวกเขาให้ดีๆ
  18. ความสำเร็จที่มากมายแค่ไหน ก็ไม่สามารถ ทดแทนความล้มเหลวของครอบครัวได้
  19. ลองหาเวลาอยู่ว่างๆ ไม่ต้องทำอะไรเลยดูบ้าง อย่าแบก โลกทั้งใบไว้คนเดียว และอีกอย่างงานก็ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต
  20. สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญอันหนึ่ง โปรดถนอม ตัวเองให้มาก เมื่อยังเป็นวัยรุ่น อย่าใช้ชีวิตให้หนักเกินไป

วงการปิงปองทุกวันนี้แตกต่างจากหลายสิบปีก่อนมาก เดี๋ยวนี้อะไรๆก็เป็นเงินเป็นทองกลายเป็นเรื่องธุรกิจกันไปหมด จากสมัยแรกที่ผมเริ่มตีปิงปอง ลูกปิงปองนิตากุ 3 ดาวราคาลูกละ 3.50 บาท กลายมาเป็นลูกละ 50-60 บาท ไม้ปิงปองกับยางปิงปองราคาจากไม่กี่ร้อยกลายมาแพงหลายพันบาท แถมไม่รู้ว่าราคาที่แท้จริงแพงหรือไม่ เพราะใช้วิธีตั้งราคาแพงไว้ก่อนแล้วโฆษณาว่าลดราคา 30-40% บางช่วงลดพิเศษ 50-60% นี่แสดงว่าเขาตั้งราคาเผื่อไว้ตั้งเยอะ พอต้นทุนในการใช้ชีวิตแพงขึ้น แทนที่จะสอนปิงปองให้กันฟรีๆ เดี๋ยวนี้ก็คิดค่าสอนชั่วโมงละ 200-300 บาท คิดเสียว่าพอเป็นค่าขนมของครูปิงปองที่ไม่ได้มีรายได้จากการทำอาชีพอื่น

ไม่ว่าจะอ้างเหตุผลการคิดค่าสอนปิงปองกันอย่างไร การสอนให้ความรู้กับผู้อื่นย่อมเป็นสิ่งที่ดีควรทำอยู่แล้ว เพียงแต่หากสอนโดยไม่คิดเงินได้จะดีกว่ามาก อย่างที่ผมทำเว็บ TableTennisTip.com นี้ไม่ได้หวังจะรับเงินทองหรือต้องการสิ่งของตอบแทนจากผู้ใด ขอแต่เพียงให้ความรู้ของตัวเองไม่สูญหายไปโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งนอกจากเว็บสอนปิงปองนี้แล้วยังสร้างเว็บที่ให้ความรู้ด้านอื่นฟรีอีกหลายเว็บ การให้โดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนเป็นความรู้สึกดีและภาคภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก

สมัยเป็นเด็กได้เรียนปิงปองฟรีกับครูจันทร์ ชูสัตยานนท์ ทำให้ผมรู้สึกมาตลอดว่า ท่านเป็นครูที่เหนือกว่าครูอาจารย์ทุกคน เป็นตัวอย่างทำให้อยากจะให้แบบนั้นบ้าง

ถ้าช่วยกันสอนปิงปองฟรี จะเป็นโอกาสสำหรับนักปิงปองที่อยากเก่งแต่ขาดทุนทรัพย์อีกมาก

ส่วนตัวโค้ชหรือครูสอนปิงปองที่ดี ควรมีความรู้จริงทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ แม่นยำในเทคนิคพื้นฐาน เน้นยุทธวิธีเอาชนะ สามารถสอนให้นักปิงปองสามารถปรับตัวได้ตามสถานการณ์และมียุทธวิธีของตัวเองที่หลากหลาย

ไม่ใช่ว่าตัวเองรู้แค่งูๆปลาๆแล้วสอนคนนั้นคนนี้ได้ไปหมด ก่อนจะเริ่มสอนใครควรปล่อยให้ลูกศิษย์ตีให้ดูนานระยะหนึ่งก่อน ท่าบางท่าที่ตีแปลกๆหากไม่เสียหายมากนักก็ปล่อยไว้บ้างก็ได้เพราะอาจจะเป็นอาวุธลับที่ตีเอาชนะคนอื่นได้ อย่าสอนคนที่เขามีโค้ชอยู่แล้วเพราะจะทำให้ไขว้เขวว่าจะตีปิงปองอย่างไรกันแน่ พึงระลึกไว้ว่าการสอนวิธีผิด ผิดที่ ผิดคน และผิดเวลาเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด

ส่วนตัวนักปิงปองควรเลือกโค้ชให้ดี ไม่ใช่ว่าเห็นเขาชอบสอนฟรีเลยชอบให้เขาสอน ไม่ใช่ว่าเห็นเขาตีได้ดีเอาชนะคนอื่นได้เลยมั่นใจว่าเขาต้องรู้จริง คนที่จับไม้แบบสากลหรือไม้จีนควรเรียนกับโค้ชถนัดสอนในการจับไม้แบบเดียวกัน อย่าเลือกโค้ชที่มีลูกศิษย์ตีปิงปองสไตล์เดียวกันทุกคน

จะสอนหรือจะเรียนปิงปองกับใครสักคนต้องสอนต้องเรียนได้ต่อเนื่องในระยะยาว ไม่ใช่ว่าเพียงเพราะวันนี้แค่ได้เจอกัน

  1. เรียนรู้และฝึกท่าตีประเภทต่างๆจนกว่าจะคล่อง เน้นเทคนิควิธีตีที่ถูกต้อง
  2. ฝึกแต่ละท่าซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกว่าจะตีได้โดยอัตโนมัติ โดยฝึกตีโต้ท่าเดิมกันไปมาหรือป้อนลูกให้ตี
  3. ตีหลายๆแบบผสมกันในลักษณะที่ซ้ำแล้วซ้ำอีก เช่น ตีโฟร์แฮนด์สลับกับแบ็คแฮนด์ หรือเสริฟแล้วบุกไม้สาม
  4. เมื่อฝึกขั้นตอนข้างต้นจนมั่นใจแล้ว ให้ทุ่มเทเวลาฝึกส่วนใหญ่ให้กับการทดลองใช้ท่าตีที่ฝึกในการแข่งขัน
  5. ถ้าฝึกแข่งขันแล้วยังพบว่าไม่สามารถทำได้ดี ให้ย้อนกลับไปฝึกซ้อมตีท่าซ้ำๆอีก
  6. ปรับเงื่อนไขการฝึกแข่งขันให้ยากหรือมีข้อจำกัดมากขึ้น เช่น กำหนดให้เสริฟคนละครั้ง หรือคนเก่งกว่าให้เสริฟได้ครั้งเดียว ถ้าเสริฟแล้วอีกฝ่ายตีไม่โดนลูกให้ชนะไปเลย ถ้าใครตีลูกเสียเองติดต่อกัน 2 ครั้งให้ถือว่าแพ้ หรือให้ฝ่ายหนึ่งเสริฟข้างเดียว (ไม่ควรต่อคะแนนให้กันเพราะไม่ได้เพิ่มความยากให้กับฝ่ายที่เป็นรอง)
  7. ทดสอบในการแข่งขัน

ขั้นตอนข้างต้นดูแล้วเข้าใจได้ง่าย แต่ที่สำคัญที่สุดนักปิงปองต้องเข้าใจให้ถ่องแท้ถึงเหตุผลก่อนว่า ทำไมจึงต้องฝึกแต่ละท่าซ้ำแล้วซ้ำอีก นี่เป็นเพราะ Muscle Memory

MuscleMemory LiuShiwen 

Muscle Memory แปลตามศัพท์ว่า ความจำของกล้ามเนื้อ แต่ไม่ได้หมายถึงว่ากล้ามเนื้อมีเซลล์อะไรที่สามารถจดจำท่าตีได้หรอกนะ การฝึกตีท่าเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีกจะช่วยทำให้สมองจดจำท่าตีเอาไว้ พอจำได้ขึ้นใจแล้วเมื่อถึงเวลาจะใช้งานก็ไม่ต้องเสียเวลาคิดซ้ำ ก็เหมือนกับการที่คุณเดินได้วิ่งได้โดยไม่ต้องมีใครช่วย เหมือนกับการพิมพ์ที่ไม่ต้องมองแป้นพิมพ์ เหมือนกับการเล่นเปียโนที่นิ้วจะร่ายรำไปตามตัวโน้ตได้เอง ยิ่งมีกล้ามเนื้อแข็งแรง ยิ่งจะทำให้ระบบประสาทสั่งการได้เร็วขึ้น

MuscleMemory wttc2013 

การฝึกเทคนิควิธีตีที่ถูกต้องเป็นจุดเริ่มต้นของความทรงจำที่ดี โค้ชหรือครูปิงปองต้องสอนเทคนิควิธีตีที่ถูกต้องเป็นด้วย หากสอนท่าผิดๆแล้วใช้การซ้อมป้อนลูกให้แบบ multi-ball จะกลับกลายเป็นการป้อนความทรงจำที่ผิดตามไปด้วย โค้ชต้องแก้ไขท่าทางการตีให้ถูกต้องก่อนแล้วจึงซ้อมป้อนลูกให้

อย่างไรก็ตามคนเรามักจำแต่เรื่องที่ไม่ดี พอตีเสียมักจะจำเรื่องราวนั้นไว้ชัดเจนกว่าเรื่องอื่น ดังนั้นจึงต้องหัดลืมอดีตแล้วฝึกเทคนิคท่าตีที่ดีเอาไว้เรื่อยๆ หลังจากฝึกซ้อมเสร็จแล้วในช่วง 24 ชั่วโมงถัดไปนักปิงปองควรใช้เวลานึกคิดทบทวนถึงการฝึกของตนในช่วงวันที่ผ่านไป เพื่อช่วยให้สมองจดจำได้ชัดเจนขึ้น

การฝึกตีซ้ำๆ พอมั่นใจว่ามีท่าตีที่ถูกต้องใช้ได้แล้วจึงค่อยเพิ่มระดับความยาก เริ่มจากตีโต้กันไปมาช้าๆก่อน แล้วเพิ่มความเร็วความแรงทีละเล็กทีละน้อย เมื่อสามารถตีได้แม่นยำแล้วจึงเริ่มผสมท่าตีหลายๆท่าต่อเนื่องกัน อย่ารีบร้อนเพิ่มความยากให้กับตัวเองหากยังตีไม่แม่น ซึ่งต้องอาศัยพละกำลังและฟุตเวิร์คที่ดีมาช่วยทำให้ขยับตัวไปมาตีท่าหลายๆท่าได้ต่อเนื่อง

พึงระลึกไว้ว่า การฝึกเล่นเกมนับแต้มเป็นเพียงวิธีทดสอบหาว่าท่าตียังมีข้อบกพร่องอะไรบ้าง เพื่อจะได้กลับไปฝึกซ้อมปรับปรุงการตีให้ดีขึ้น แต่อย่าเอาแต่เล่นเกมนับแต้มกันอย่างเดียว เพราะนั่นเป็นการใช้ความจำจาก Muscle Memory แต่ไม่ได้ทำให้เกิด Muscle Memory

ครั้งแรกที่ผมลงสมัครแข่งขันเพื่อชิงแชมป์ประเทศไทย สมัยนั้นผมยังเด็กและตื่นเต้นมาก เมื่อถึงเวลาลงแข่งขันก็ซ้อมน้อคลูกกับคู่ต่อสู้ตามปกติ พอซ้อมตีกันได้สักพักคู่ต่อสู้ก็ขอตัวบอกว่าขอขึ้นไปเอาของก่อนเดี๋ยวค่อยมาเริ่มแข่งกัน แต่คนที่ลงมาแข่งกับผมกลับเป็นอีกคนหนึ่ง กรรมการก็ไม่ว่าอะไรทั้งๆที่เห็นได้ชัดว่าคนที่ลงมาตีกับผมคนแรกนั้นลงมาเพื่อถ่วงเวลารอเพื่อนที่ยังไม่มา น่าเสียดายที่ครั้งนั้นผมไม่ได้โวยวายทั้งๆที่ถูกโกงซึ่งๆหน้า ถ้ามีการตรวจสอบบัตรประชาชนดูชื่อนามสกุลของคนที่ลงแข่งจะหมดปัญหาการลงแข่งแทนกัน ตัวกรรมการต้องไม่รู้จักสนิทสนมกับคู่แข่งขัน

การโกงอื่นๆที่เห็นได้ไม่ชัดเจนแต่มีเจตนาเอาเปรียบคู่ต่อสู้ก็ยังถือว่าเป็นการโกงอยู่ดี ส่วนใหญ่มักเกิดจากการใช้ช่องโหว่ของกติการที่ไม่ได้เขียนไว้ เช่น

  • เอามือซ้ายวางไว้บนโต๊ะช่วงที่รอรับเสริฟ อ้างว่ากติกาห้ามวางมือข้างที่ไม่ใช้ตีในช่วงที่กำลังเริ่มเล่นกันเท่านั้น ไม่ได้ห้ามวางมือบนโต๊ะช่วงก่อนเสริฟสักหน่อย
  • เตะถ่วงไม่ยอมเสริฟเสียทีถ่วงเวลาเดินไปเดินมานานเกินควร
  • พอจับลูกได้ก็เสริฟเร็วทันทีโดยไม่วางลูกบนอุ้งมือที่นิ่งให้เห็นชัด
  • แทบไม่ช่วยเก็บลูกปิงปองให้หรือพอเก็บลูกปิงปองได้ก็โยนข้ามโต๊ะมาให้โดยไม่รอดูว่าอีกข้างเขาพร้อมหรือยังทำให้ต้องเดินไปเก็บลูกกลับมาเสริฟอยู่ดี
  • ใช้เวลาช่วงซ้อมก่อนแข่งตบลูกแรงๆไปอีกทางหรือตีไม่ลงโต๊ะเพื่อให้ไปเก็บลูก
  • ชอบกระทืบเท้า
  • ชอบออกเสียงดังๆเพื่อกวนประสาท ถ้าใช้ตอนที่คู่ต่อสู้ทำเสียเองหรือตีไม่ได้เพราะลูกเฉี่ยวเน็ตหรือลูกกู้ดถือว่าเสียมารยาทอย่างแรง แต่ถ้าออกเสียงเพื่อกระตุ้นตัวเองหรือใช้ตอนที่ตัวเองทำแต้มได้ก็ไม่ว่ากัน ทางที่ดีไม่ควรออกเสียงใดๆเลยเพราะการออกเสียงเป็นอาการแสดงออกให้คู่ต่อสู้ทราบว่าตัวเองกำลังเครียดหรือวิตกกังวล

... อะไรๆที่ทำให้คู่ต่อสู้เสียอารมณ์เป็นต้องหาทางนำมาแหย่คู่ต่อสู้ไว้ก่อน ทุกทางที่เอาเปรียบได้แม้นิดๆหน่อยๆก็เอามาทำกัน ทำทุกวิธีเพื่อเอาชนะแม้ไม่ขาวสะอาดนักก็จะทำ ซึ่งคนพวกนี้เชื่อในแบบของเขาเองว่าไม่ได้ผิดกติกาใดๆ

 

 

ผมถือว่าเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อข้อมูลในเว็บ TableTennisTip.com ถูกลอกไปใช้ต่อ ไม่ว่าจะลอกไปทั้งหมดหรือนำไปดัดแปลงแก้ไขเพื่อให้เข้ากับเนื้อหาที่ตนกำลังสื่อสาร เพราะนั่นแสดงว่าเนื้อหาในเว็บนี้มีคุณค่า สมควรนำไปเผยแพร่ต่อ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อนักปิงปองไทยทุกคนมากขึ้น หากใครอยากลอกก็เชิญตามสบาย ขอเพียงช่วยอ้างอิงทำลิงก์ถึงเว็บนี้สักหน่อยจะได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย ช่วยเป็นกำลังใจให้ผมเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับปิงปองให้ศึกษากันนะครับ อย่างไรก็ตามผมขอสงวนลิขสิทธิ์ไว้บ้าง ดังนี้

ห้ามผู้อื่นใดนำข้อมูลบนเว็บนี้ไปเผยแพร่เพื่อประโยชน์ใดๆก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการมุ่งค้าหากำไรทั้งทางตรงและทางอ้อม หรือมีส่วนได้เสียหรือหวังผลประโยชน์อื่นให้กับตัวเองหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ

ความรู้ที่ได้จากเว็บ TableTennisTip.com น่าจะเป็นแหล่งเรียนรู้วิธีเล่นปิงปองได้สนุกกว่าเดิม แทนที่จะศึกษาความรู้จากเว็บนี้แล้วเอาไปสอนคนอื่น ควรช่วยกันแนะนำเว็บนี้ตามไปด้วยจะเกิดประโยชน์กว่ามาก ดีกว่าที่สักวันเขาพบว่าสิ่งที่เอาไปโม้ไปสอนคนอื่นนั้น ที่แท้ก็ลอกมาจากที่นี่เอง ความเชื่อถือหรือศรัทธาที่มีต่อกันก็จะหมดไป

ผู้ใดนำความรู้ที่ได้จากที่นี่ไปใช้เพื่อการค้าขายหาประโยชน์ส่วนตัวหรือแม้จะเกิดประโยชน์กับคนบางกลุ่มแต่กลับสร้างผลเสียหรือความทุกข์ให้กับผู้อื่นหรือประชาชนโดยส่วนรวม ขอให้มีอันเป็นไปใน 7 วัน ไม่ทันใน 7 เดือน ไม่เคลื่อนใน 7 ปี หรือในชั่วชีวิตนี้ไม่มีทางได้พบกับความสุขความเจริญ

ที่ผ่านมาข้อมูลที่ผมเขียนบนอินเตอร์เน็ตเคยถูกลอกนำไปเขียนเป็นหนังสือเล่มหนึ่งทีเดียว พอผมแจ้งไปที่สำนักพิมพ์ซีเอ็ดให้ทราบว่านี่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญาของผม ทางสำนักพิมพ์ก็นำหนังสือไปตรวจสอบกับเว็บของผม เมื่อพบว่าตรงกันจริงทางสำนักพิมพ์ก็ขอโทษและแจ้งว่าไม่ทราบมาก่อน รับปากผมว่าจะไม่พิมพ์หนังสือเล่มนั้นเพิ่มอีกแล้ว และจะช่วยทำหน้าแทรกให้หน้าหนึ่งเพื่อแจ้งให้ผู้ซื้อหนังสือทราบถึงเว็บที่มาของข้อมูลในหนังสือเล่มนั้นให้ด้วย

ฝ่ายคนที่ลอกก็โทรมาขอโทษ บอกผมว่าเพื่อนพิมพ์บทความมาให้ เขาเห็นว่าน่าสนใจเลยลอกไปส่งสำนักพิมพ์ เขาจะส่งเงินค่าต้นฉบับหนังสือมาให้ผม

ผมตอบกลับไปว่า ข้อมูลบนเว็บที่ผมเขียนนั้นมีเจตนาให้กับสังคมไทยได้นำไปใช้ให้เป็นประโยชน์อยู่แล้ว ไม่ได้หวง แต่ห่วงคนที่ลอก เพราะเอาของที่ผมให้กับคนไทยใช้ฟรีไปหาผลประโยชน์ใส่ตัว ผมห่วงว่ากรรมที่เขาทำนี้จะส่งผลไม่ดีกับเขา ขอให้เอาเงินที่ได้ไปทำบุญเถิด

เขาบอกว่าจะเขียนเป็นหนังสือเป็นสัญญาว่าจะทำบุญมาให้ ผมก็ตอบกลับไปว่า ขอให้รับปากกับผมก็พอ ไม่ต้องรีบทำบุญทันทีก็ได้ รอให้มีเงินรวยก่อนแล้วจึงแบ่งเงินไปทำบุญก็ได้

ต่อมาเขาโทรมาแจ้งว่า ได้นำเงินไปทำบุญที่สภากาชาดแล้ว

ผมก็อนุโมทนาด้วย

นักปืงปองมือใหม่ที่เป็นมือใหม่จริงๆหรือต่อให้เป็น Ma Long หรือนักปิงปองที่เล่นมานานแต่ให้ใช้มือซ้ายแทนมือขวา แรกๆจะยังตีไม่โดนลูกกันทุกคน นั่นเป็นเพราะยังไม่คุ้นเคยกับการใช้สายตาและร่างกายประสานงานกัน แค่โยนลูกให้ใช้มือรับก็ยังยาก ไหนเลยพอให้จับไม้แล้วต้องตีให้โดนไม้ที่ยื่นออกไปจากมือยิ่งยากขึ้นไปอีก ถ้าเริ่มต้นมาฝึกเล่นปิงปองกันบนโต๊ะตั้งแต่แรกจะเสียเวลาอย่างมาก หากไปจ้างครูมาสอนก็ต้องจ่ายชั่วโมงละ 300 บาท เสียเวลาไปกับการโยนลูกกับเก็บลูกอยู่นั่นแหละ ไม่คุ้มกับเงิน 300 ที่จ่ายไปแม้แต่น้อย

นักปิงปองมือใหม่โดยเฉพาะเด็กหรือคนที่เพิ่งเริ่มฝึกตีปิงปอง ต้องเรียนรู้วิธีจับไม้ปิงปองให้ถูกแล้วใช้เวลาฝึกให้ตัวเองคุ้นเคยกับไม้ปิงปอง ยางปิงปอง และลูกปิงปองก่อน โดยฝึกเดาะลูกปิงปองให้คล่องเพื่อทำให้สายตาและมือประสานงานกัน

 

kidhttps://youtu.be/c7mnjsDBQYc

 

  • เริ่มแรกฝึกเดาะลูกปิงปองบนหน้าไม้หน้าโฟร์แฮนด์
  • ต่อมาฝึกเดาะลูกปิงปองบนหน้าไม้ด้านแบคแฮนด์
  • เดาะลูกปิงปองสลับไปมาระหว่างหน้าไม้ทั้งสองข้าง
  • เพิ่มความสูงของลูกปิงปองให้มากขึ้น
  • เดินไปเดาะลูกไป
  • วิ่งเดาะลูกปิงปอง

การเดาะลูกปิงปองที่ดี ต้องฝึกจนกระทั่งมือที่จับไม้สามารถรับรู้ถึงแรงจากน้ำหนักลูกปิงปองที่ตกกระทบลงมาบนยางปิงปองได้ด้วย ไม่ใช่แค่เดาะลูกให้ลอยขึ้นไปเฉยๆ จากนั้นให้ฝึกปั่นลูกปิงปองให้หมุนมากน้อย โดยสังเกตให้ดีว่าต้องปล่อยให้หน้ายางสัมผัสกับลูกปิงปองนานแค่ไหน ต้องออกแรงเสียดสีมากหรือน้อย หรือใช้ส่วนใดของหน้าไม้สัมผัสลูกปิงปองจึงจะเกิดการหมุนได้เร็วที่สุด โดยปล่อยให้ลูกปิงปองกระเด้งบนพื้นหรือพื้นโต๊ะปิงปองก็ได้แล้วดูว่าลูกปิงปองที่ตกลงไปตรงๆนั้นมีมุมกระเด้งต่างไปแค่ไหน

พอคุ้นเคยกับไม้และยางปิงปองแล้ว ให้หาลูกปิงปองราคาถูกมาใช้เพื่อฝึกตีลูกปิงปองไปหากำแพงให้โดนตำแหน่งเดิมบนกำแพงให้ได้ทุกลูก โดยเริ่มจากลูกที่ไม่หมุนก่อน พอตีได้แม่นยำแล้วจึงเพิ่มการหมุนเข้าไปและปรับระยะห่างยืนให้ห่างจากกำแพงมากขึ้น

 

ball2wallhttps://youtu.be/i8Pv8vWdyL8

 

ระหว่างการฝึกตีลูกเข้าหากำแพงต้องฝึกปรับวงสวิงในการตีพร้อมกันไป ฝึกการถ่ายน้ำหนัก การใช้ขาและเอวช่วยในการถ่ายน้ำหนัก

ถ้าที่บ้านมีโต๊ะปิงปอง ให้พับโต๊ะอีกข้างหนึ่งขึ้นเพื่อฝึกตีลูกกระเด้งไปมา หรือใช้โต๊ะปิงปองทั้งตัวเพื่อฝึกเสริฟลูกไปลงยังตำแหน่งที่ต้องการ 

ฝึกเหวี่ยงไม้ไปมาจนคล่อง (shadow play) ให้ใช้จินตนาการสมมติด้วยว่าไม้กระทบลูกตรงตำแหน่งไหน ควรฝึกหน้ากระจกจะได้เห็นท่าทางของตัวเอง ดูการเหวี่ยงแขน ก้าวขา ขยับตัว

 

ShadowPlayhttps://youtu.be/i8Pv8vWdyL8

 

นักปิงปองมือใหม่ควรเก็บเงิน 300 บาทไว้ใช้สร้างประโยชน์อย่างอื่นดีกว่าจ่ายไปกับการจ้างผู้ฝึกสอนที่ไม่ได้สอนอะไรมากไปกว่านี้

ลูกปิงปองลูกนี้มีอายุกว่า 20 ปี เดิมมีสีขาวแต่เก่าเก็บจนเหลือง เป็นลูกปิงปองที่ครูจันทร์ ชูสัตยานนท์ให้ไว้ ข้างลูกมีคำว่า "อย่าลืมตัว"

 

doNOTforget1

 

ตอนผมเป็นเด็กเรียนอยู่ชั้นมัธยม ครูจันทร์ถูกลูกศิษย์ที่ท่านสอนและกลายมาเป็นนักปิงปองทีมชาติรวมหัวกันไล่ แอบงัดตู้เก็บของของท่านที่ห้องปิงปองใต้ถุนยิมเนเซียม 1 สนามกีฬาแห่งชาติ ปทุมวัน ครูจันทร์บอกว่าท่านรู้ว่าใครเป็นตัวการงัดตู้ คนเหล่านี้ท่านสอนมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็กกว่าผมเสียอีก ท่านสอนผมว่า "โตขึ้นอย่าลืมตัวนะ" จากนั้นพอย้ายมาสอนที่ห้องปิงปอง ศูนย์ฝึกกีฬาในร่มที่หัวหมาก นักปิงปองจะเห็นลูกปิงปองที่แจกมีคำว่า "อย่าลืมตัว" เขียนไว้

จากวันนั้นจวบจนวันนี้ ผมเห็นนักปิงปองลืมตัวหลายคน มีอยู่คนหนึ่งรู้จักกับผมตั้งแต่เขาเพิ่งเริ่มจับไม้ปิงปอง มาเรียนกับครูจันทร์ตั้งแต่ไม่เป็นอะไรเลย เดี๋ยวนี้กลายเป็นโค้ชปิงปองชื่อดัง แต่ไม่รู้จักทักทายกันเสียแล้ว พอผมพูดทักทายด้วยก็ไม่พูดจาอะไรกลับมา ทดลองทักเขามาหลายรอบก็ยังเหมือนเดิม ต่างจากสมัยก่อนที่เป็นคนนิสัยดี ร่าเริงสดใส อาจเป็นเพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาทำให้นิสัยคนเปลี่ยนไปจากเด็กที่โตขึ้นต้องวางตัวเป็นผู้ใหญ่

เหตุที่ทำให้ลืมตัวมักหนีไม่พ้น เมื่อมีตำแหน่งเป็นใหญ่เป็นโต มีเกียรติยศชื่อเสียง กลายเป็นแชมป์ เป็นโค้ชเป็นครูสอนปิงปอง หรือพอขึ้นชื่อว่าเป็นนักกีฬาทีมชาติก็ลืมตัวว่ามีสิทธิ์เหนือประชาชนทั่วไป อ้างแต่ว่าจะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ลืมนึกไปว่าอีกไม่กี่ปีตัวเองก็จะไม่ได้เป็นทีมชาติ ส่วนประชาชนที่เล่นปิงปองได้แค่แบบงั้นๆหลายคนเขาไม่ได้แค่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศเท่านั้นแต่ยังทำคุณประโยชน์ให้กับชาติมามากกว่านักปิงปองทีมชาติเสียอีก

บางคนไม่ได้มีอะไรดีเด่นอย่างที่เอ่ยมานี้แม้แต่น้อย แต่เมื่อมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมากก็อวดเบ่งลืมตัวเสียแล้ว

ผลกรรมของพวกชอบใส่ร้าย คุณคงคิดว่าทำคนอื่นให้ทุกข์อย่างไร คลื่นความทุกข์แบบนั้นๆก็คงย้อนกลับมาหาตัว ก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่ความจริงไม่ใช่แค่นั้นครับ ขอแจกแจงเป็นข้อๆถึงผลที่อาจเป็นไปได้ดังนี้

      ๑) หากคนถูกใส่ร้ายเป็นผู้ทรงศีล เป็นผู้มีพลังแห่งศีลสัตย์คุ้มตัว ผลคือจะทำให้ผู้ใส่ร้ายโดนใส่ร้ายคูณสองคูณสิบ หรืออาจคูณร้อยคูณพันเข้าไปจากที่ทำ และในเวลาอันรวดเร็วทันตาด้วย เนื่องจากการใส่ร้ายโดยมากมักอาศัยใจที่หลงผิดหนักแน่น ประกอบด้วยโทสะรุนแรง พอเจอภาคขยายอย่างใหญ่เข้าด้วยอย่างนี้ เลยไม่ค่อยจะต้องรอดูผลกันในชาติหน้าไกลตัวกัน

      ๒) เป็นผู้มีปากเหม็น หรือกลิ่นตัวเหม็น หรือโทษสถานเบาที่สุดคือเวลาพูดจาจะดูน่ารังเกียจ เพราะความร้ายกาจจะแพลมออกมาทางสีหน้าและแววตา แม้บุญเก่าส่งให้มีปากหอม กลิ่นกายหอม และกิริยาท่าทางน่ารักน่าใคร่ แต่หากเพาะนิสัยใหม่ ชอบใส่ร้ายคนอื่นอย่างต่อเนื่องเป็นแรมปี คุณสมบัติด้านดีเดิมๆก็จะพลิกเปลี่ยนไปเป็นตรงข้ามได้อย่างน่าทึ่ง

       ๓) เป็นผู้มีวาจาขาดน้ำหนัก คือต่อให้มีอำนาจล้นฟ้าปานใด หากติดนิสัยชอบใส่ไคล้แล้ว คนทั่วไปฟังเขาพูดแล้วจะรู้สึกเลยว่าไม่อยากเชื่อถือ แม้พูดเรื่องธรรมดาอย่างที่สุด ก็คล้ายขาดอะไรที่ทำให้อยากปลงใจยอมรับ

       ๔) เบื้องหน้าหลังตายจากความเป็นมนุษย์ หากกรรมที่ชอบใส่ร้ายชาวบ้านมีน้ำหนักล้ำหน้ากรรมอื่นๆ ก็จะไปเสวยอัตภาพอันน่ารังเกียจ และตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความเสียดแทง เร่าร้อนทรมาน เพราะจิตที่คิดประทุษร้ายด้วยการใส่ไคล้นั้น มีลักษณะเสียดแทง ต้องการให้ผู้ถูกใส่ไคล้เดือดร้อนในทางใดทางหนึ่ง นี่คือกฎธรรมดา จิตมีกิริยาในการก่อเหตุอย่างไร ก็เท่ากับเข้าไปยึดภพแห่งความเป็นเช่นนั้น ภพที่ต้องรับผลทำนองนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ

       ขอให้ทราบว่า ๔ ข้อข้างต้นนี้เป็นเพียงผลที่ว่ากันตามหลักการ ส่วนของจริงจะได้รับโทษานุโทษมากหรือน้อยกว่านี้ ก็ต้องดูรายละเอียดปลีกย่อยในแต่ละราย เช่นประพฤติด้วยความละอายหรือไม่ละอาย ประพฤติเป็นอาจิณหรือถูกสถานการณ์บังคับเป็นคราวๆ ประพฤติด้วยความอาฆาตพยาบาทหรือด้วยความเห็นแก่ประโยชน์เฉพาะหน้า ฯลฯ

       อย่าง เช่นถ้าใครใส่ร้ายผู้ทรงศีลโดยปราศจากความละอายอยู่เรื่อยๆเพราะความมีใจ ริษยา ผลก็อาจสนองคืนอย่างรวดเร็วและดูรุนแรงเกินเหตุ คือไม่ใช่แค่ถูกคนอื่นใส่ร้ายคืน แต่อาจลุกลามไปถึงขั้นเกิดความวิบัติแก่ชีวิตหลายๆประการ อย่างสมัยพุทธกาลก็มีมาแล้ว ตัวอย่างคนใส่ร้ายพระพุทธเจ้าโดนพิบัติภัยทางธรรมชาติลงโทษถึงขั้นสิ้นชีพ กะทันหัน

       เศษของกรรมที่ใส่ร้ายคนอื่นจนติดเป็นนิสัยนั้น ถ้ากลับมาเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งของแรงบันดาลรูปชีวิตที่ไม่ดี ไม่น่าพอใจ กล่าวคือมีอายุสั้น มีผิวพรรณทราม ชีวิตเต็มไปด้วยเรื่องไม่เป็นสุข และเป็นผู้มีกำลังน้อย

ที่มา https://www.gotoknow.org/posts/496814

การบริหารจัดการสถานที่ฝึกซ้อมเทเบิลเทนนิสโดยเฉพาะการให้บริการแก่สมาชิกทั้งเด็กวัยรุ่นและผู้ใหญ่หลังวัยเกษียณซึ่งเป็นประชากรกลุ่มที่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆมีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นใครเข้ามาใช้บริการ ในเมื่อรับเงินค่าสมาชิกไปแล้วต้องมุ่งให้บริการอย่างมีคุณภาพ และเปิดให้ใช้สถานที่เพื่อฝึกซ้อมปิงปองอย่างเต็มที่ มีตารางกำหนดการให้บริการแสดงไว้อย่างชัดเจนเพื่อช่วยให้นักปิงปองสามารถวางแผนการฝึกซ้อมไว้ก่อนล่วงหน้า และจัดเตรียมโตีะปิงปองให้พร้อมไว้เสมอ ไม่ใช่ปล่อยให้นักปิงปองอุตส่าห์เสียเวลาเดินทางมาตั้งไกลแล้วเสียเที่ยวเพราะไม่มีโต๊ะว่างให้เล่น ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิ์ที่พึงมีพึงได้ของสมาชิกโดยเฉพาะสมาชิกรายปี กลายเป็นคำครหาทำให้ผู้บริหารสถานที่เสียชื่อเสียง หรือแสดงถึงการไม่ใส่ใจในการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค เนื่องจากไม่สามารถให้บริการตามที่สัญญาเอาไว้ทั้งๆที่รับเงินค่าสมาชิกไปแล้ว

สังคมไทยกำลังก้าวสู่สังคมของผู้สูงอายุ โดยคาดว่าภายในปี 2568 ประเทศไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ซึ่งจะมีจำนวนผู้สูงอายุประมาณ 14.4 ล้านคน จากการศึกษาของสำนักพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ พบว่าในสังคมมีผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ประมาณ 6 ล้านคนที่สามารถดูแลตนเองได้ และมีผู้สูงอายุจำนวนมากกว่า 1 ล้านคน ที่ต้องนอนอยู่บนเตียงในบ้าน

การบริหารจัดการสถานที่ฝึกซ้อมเทเบิลเทนนิสในยุคโซเชียลมีเดียต้องระมัดระวังในความโปร่งใสของการบริการ ควรประชาสัมพันธ์สื่อสารระเบียบและข่าวสารผ่านระบบอินเตอร์เน็ตอย่างทันเหตุการณ์ และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เสนอแนะและแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ ดีกว่าจะปล่อยให้ประชาชนแสวงหาข่าวสารกันเองซึ่งอาจผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง หรือใช้ระบบโซเชียลมีเดียกระพือข่าวลือต่อกันไปอย่างรวดเร็วจนยากจะแก้ไข

ทุกวันนี้แค่เขียนคำติชมไว้ใน facebook หรือฟอรัมพูดคุยกัน จะมีผู้สนใจนำข้อความส่งต่อกันไปทันที ถ้าได้รับคำชมก็ดีไป แต่ถ้าถูกประจานแม้จะไม่ใช่เรื่องจริงก็ตามจะทำให้เสียชื่อเสียงในพริบตา

ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ซึ่งให้บริการฟรีหรือเก็บเงินค่าสมาชิก ระเบียบการใช้สถานที่ฝึกซ้อมเทเบิลเทนนิส จะช่วยป้องกันมิให้นักปิงปองต้องมาทะเลาะกันเอง ไม่ต้องคอยแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันทุกครั้ง หรือปล่อยให้ต่างฝ่ายต่างหาเหตุผลต่างๆนานามาเอาชนะกันเพื่อแย่งสถานที่ ซึ่งในที่สุดคนที่มีพรรคพวกมักใช้เสียงข้างมากที่ดังกว่าเอาชนะไป ระเบียบที่ชัดเจนจะช่วยป้องกันมิให้ผู้ที่มีอำนาจมากกว่าใช้อำนาจไปในทางที่แสวงหาประโยชน์ให้กับตัวเองหรือพวกพ้อง และไม่ยอมให้คนหมู่มากอยู่เหนือกติกาหรือกฎหมายหรืออยู่เหนือประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นหลักการของประเทศที่เจริญแล้วยึดถือกัน

ไม่ใช่แค่ชื่อสถานที่ฝึกซ้อมจะเสียหาย แต่ชื่อและรูปภาพหน้าตาของผู้จัดการสถานที่อาจถูกนำไปประจานบนอินเตอร์เน็ต หากไม่เห็นความสำคัญของระเบียบเพราะไม่เคยพบว่ามีใครแจ้งปัญหาให้ทราบหรือคิดไปเองว่าสมาชิกจะตกลงกันได้เอง แล้วละเลยปล่อยปัญหาให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะนิสัยคนไทยซึ่งไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับปัญหาของคนอื่น เมื่อได้รับแจ้งก็ปัดเป็นหน้าที่ของผู้อื่นเพราะไม่ใช่งานในหน้าที่ของตน เมื่อเกิดปัญหาก็มักเก็บเงียบไว้หรือเลือกเห็นใจกับฝ่ายที่ตนไม่เสียหน้า ไม่แสดงออกจนกว่าจะกระทบกับตัวเองหรือทนไม่ไหวหลายครั้งเท่านั้น และเมื่อแสดงออกมาก็มักเป็นปัญหาที่ทำให้นักปิงปองขัดใจกันจนมองหน้ากันไม่ได้แล้ว

มาดูกันว่าในต่างประเทศกำหนดระเบียบการใช้สถานที่ฝึกซ้อมเทเบิลเทนนิสแต่ละแห่ง(ผ่านระบบไอที)ไว้อย่างไร เพื่อช่วยทำให้นักปิงปองสามารถใช้สถานที่ฝึกโดยเฉพาะโต๊ะปิงปองที่มีจำนวนจำกัดให้ทุกคนมีสิทธิ์ได้ฝึกฝนกันอย่างทั่วถึง ใช้สถานที่ร่วมกันได้อย่างสงบ และให้บริการประชาชนทุกคนอย่างเสมอภาค

 

ระเบียบทั่วไป

  1. นักกีฬารวมทั้งโค้ชและผู่ช่วยต้องลงนามทุกวันที่มาใช้ห้องฝึกซ้อม
  2. ห้ามวางสิ่งของใดๆบนโต้ะปิงปอง เว้นแต่ไม้และลูกปิงปองเท่านั้น
  3. ห้ามเคาะไม้บนโต๊ะปิงปองอย่างเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะถูกยกเลิกสมาชิกทันที
  4. ห้ามนำอาหารและน้ำมาใกล้โต๊ะ ขวดน้ำดื่มต้องมีฝาหมุนปิดอย่างมิดชิด ห้ามรับประทานอาหารสำเร็จรูปหรือใช้ถ้วยชากาแฟ
  5. ห้ามสูบบุหรี่ ติดกาวยางปิงปองในพื้นที่ฝึกซ้อม
  6. นักปิงปองต้องสวมรองเท้ากีฬาที่เป็นพื้นยางที่จะไม่ทำให้พื้นเป็นรอย
  7. ใช้ลูกปิงปองเพียง 1 ลูกต่อโต๊ะเท่านั้น ห้ามใช้ลูกปิงปองหลายลูก
  8. สถานที่ฝึกซ้อมต้องติดประกาศให้สมาชิกทราบถึงระเบียบ วันเวลาที่เปิดให้ใช้สถานที่ และต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าหากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

 

การใช้โต๊ะปิงปองร่วมกัน

  1. นักปิงปองจะเลือกใช้โต๊ะใดที่ว่างอยู่ก็ได้
  2. โต๊ะใดที่ใช้แข่งขันกัน ต้องยอมให้ผู้เล่นอื่นมาขอคิวเข้าร่วมแข่งด้วยโดยนำไม้ปิงปองหรือซองไม้ปิงปองมาวางไว้ต่อกันที่ใต้โต๊ะบริเวณเน็ต และยอมให้ต่อคิวได้เพียงโต๊ะเดียวเท่านั้น (ห้ามจองคิวกันด้วยวาจาตกลงกันเอง)
  3. ผู้ที่ต่อคิวสามารถสละสิทธิให้คิวต่อไปเล่นก่อนได้แต่ห้ามสละสิทธิ์ให้ผู้อื่นที่ไม่ได้ต่อคิวไว้
  4. ถ้ามีคนรอคิวเพื่อแข่งขันอยู่ ห้ามฝึกแบบ multi-ball และเป็นมารยาทที่ดีของนักปิงปองมือใหม่ที่จะไม่เข้าไปต่อคิวด้วย
  5. ขณะที่มีคนรอคิว ถ้าเพิ่งเริ่มเล่นกัน ยอมให้ออกกำลังอุ่นร่างกาย 5 นาทีเท่านั้น แต่ถ้าฝึกซ้อมกันอยู่ก่อนแล้วมาคนมารอคิว ให้เวลาอุ่นร่างกาย 2 นาทีแล้วต้องเริ่มแข่งขันกัน
  6. ควรเก็บลูกที่ออกนอกโต๊ะอย่างรวดเร็ว ถ้าลูกกระเด็นไปที่โต๊ะอื่นให้รอจนกว่าโต๊ะนั้นจะเล่นลูกเสร็จก่อนจึงเดินเข้าไปเก็บลูก
  7. ถ้ามีคนรอคิวตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ผู้ที่เล่นชนะติดต่อกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปต้องยอมสละโต๊ะแล้วไปต่อคิวใหม่ โดยให้ผู้เล่นที่รอคิว 2 คนมาใช้โต๊ะแทน
  8. ห้ามผู้ชนะมอบสิทธิให้คนอื่น
  9. ถ้าผู้ชนะไม่ต้องการเล่นต่อ ห้ามมอบสิทธิให้ผู้แพ้ได้เล่นต่อ แต่ต้องให้ผู้ต่อคิว 2 คนถัดไปได้เล่นแทน
  10. ถ้ามีคนรอคิวเพียงคนเดียว การแข่งขันให้ใช้ 3 ใน 5 เกมๆละ 11 คะแนน แต่ถ้ารอคิวตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปให้แข่งขัน 2 ใน 3 เกม
  11. ถ้าไม่ได้แข่งกัน หากใช้โต๊ะเพื่อฝึกซ้อมและมีคนรอคิวอยู่ ให้ใช้โต๊ะได้ 20 นาที หลังจากนั้นให้ไปต่อคิวใหม่
  12. ถ้ามีการใช้เต็มทุกโต๊ะ ให้ใช้โต๊ะเพื่อฝึกซ้อมได้เพียง 20 นาที หรือถ้าแข่งกันให้ผู้ชนะสละโต๊ะให้ผู้อื่นเมื่อแข่งชนะ 2 คนเสมอ

 

ระเบียบการฝึกสอน

  1. ผู้ฝึกสอนไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกสอนประจำแบบคิดค่าสอนหรือไม่ก็ตาม ต้องได้รับอนุมัติก่อนจึงจะใช้สถานที่ได้
  2. หากมีคนมารอคิว โต๊ะที่ใช้ฝึกสอนสามารถใช้สำหรับฝึกได้สูงสุดเพียง 60 นาทีเท่านั้น

 

ระเบียบสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้โต๊ะ

  1. ให้นั่งพักนอกพื้นที่ฝึกซ้อม
  2. การเดินไปที่โตีะ ให้เดินติดกำแพงหรือนอกบริเวณโต๊ะให้มากที่สุดและรอจนกว่าจะเล่นลูกนั้นเสร็จก่อนจึงเดินเข้าไป
  3. ช่วยเก็บลูกปิงปองส่งให้ผู้ที่กำลังฝึกซ้อมอยู่จะได้ไม่ต้องเดินไปเก็บเอง
  4. ห้ามส่งเสียงดัง ตะโกน หรือโยนไม้ ควรทำตัวสุภาพเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ
  5. เคารพโต๊ะปิงปอง ห้ามนั่ง วางเท้า เตะ หรือใช้ไม้กระแทกโต๊ะ
  6. วางสิ่งของส่วนตัวไว้บนพื้นเท่านั้น
  7. ช่วยกันรักษาความสะอาด เก็บขวดน้ำทิ้งขยะ และเก็บอุปกรณ์ฝึกซ้อมกลับที่เดิมเสมอ 

โปรดสังเกตว่า ระเบียบเหล่านี้ไม่มีการให้สิทธิพิเศษกับใคร

 

ที่มา

http://www.alamedattc.org/rules.htm

http://www.sttc.net/club-rules.html

http://www.concordtabletennis.com/content/club-table-rules

http://www.spttc.net/rules.htm 

 

จะไม่ใช่แบบนี้ หากมีระเบียบ !!!

clubrules

 

10923289 702504076523090 6103341614689609154 n


 

bowingjps

 

ความเข้าใจด้วยหลักเหตุและผลคือสิ่งที่นักปิงปองพึงได้รับจากเว็บ TableTennisTip.com นี้ สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ด้วยตนเอง เมื่อรับลูกเสริฟต้องเข้าใจเรื่องลูกปิงปองที่วิ่งมาหาไม้กับไม้ปิงปองที่ตีไปหาลูกว่าให้ผลต่างกันเช่นไรจะได้ไม่ต้องกลัวลูกเสริฟอีกต่อไป เมื่อถึงเวลาจะเล่นลูกท้อบสปินก็ต้องเข้าใจว่าจะตีโดนลูกในจังหวะที่ลูกกระดอนขึ้น จังหวะสูงสุด หรือจังหวะที่ลูกวิ่งลงโดยต้องตั้งหน้าไม้และออกแรงเหวี่ยงไปอย่างไร ด้วยความเข้าใจนี่เองจะช่วยทำให้นักปิงปองสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและเกิดความหลากหลายในท่าตีของตัวเองมากขึ้น

เนื้อหาบางเรื่องหรือหลายเรื่องอาจเข้าใจกันดีอยู่แล้ว แต่ความอยากรู้อยากเห็นและการเป็นคนช่างสังเกตต่างหาก คือ สิ่งที่เว็บนี้อยากกระตุ้นให้นักปิงปองทุกคนพึงมีให้มาก จงอย่าเชื่อเพียงเพราะหลายๆคนทำตาม จงอย่าเชื่อง่ายๆเพราะคนที่บอกเป็นครูอาจารย์ ขอให้เปิดใจรับฟังไว้เสมอแล้วหวนกลับมาคิดพิจารณาด้วยหลักเหตุผล เมื่อทดลองจนเห็นผลชัดเจนแล้วจึงเชื่อ

ฝ่ายครูหรือโค้ชผู้ฝึกสอนเมื่อสามารถอธิบายด้วยหลักการได้ชัดเจนขึ้น ย่อมเป็นที่น่าเชื่อถือกว่าการบอกให้นักปิงปองตีอย่างนั้นตีอย่างนี้แล้วเมื่อถูกถามว่าทำไม จะได้สามารถแก้ปัญหาตอบกลับได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

ตราบใดที่คุณยังเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีใครรู้จัก ตราบนั้นคุณจะทำตัวอย่างไรก็ได้ จะพูดคุยส่งเสียงดัง ไม่ต้องเก็บอารมณ์ ไม่ต้องคอยระมัดระวังว่าจะเป็นที่สนใจของใคร แต่เมื่อใดที่คุณกลายเป็นคนมีชื่อเสียง มีตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โต กลายเป็นคนที่สังคมรู้จัก หรือเพียงแค่สวมเสื้อที่มีตราสโมสรหรือมีรูปธงชาติปักไว้ เมื่อนั้นคุณไม่ใช่คนธรรมดาอีกต่อไปแล้ว ทุกอย่างที่คุณทำ ทุกอย่างที่คุณแสดงออก ไม่ใช่จะมีผลกระทบกับชื่อเสียงของตัวเองเท่านั้น แต่ยังจะกระทบกับหน้าตาของสโมสรและชื่อเสียงของประเทศชาติอีกด้วย

เรื่องเล็กน้อยที่คิดว่าไม่เป็นไรซึ่งเคยทำจนคุ้นอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่สร้างผลเสียหายที่คิดไม่ถึง จึงต้องระมัดระวังตัวให้มาก อย่านึกว่าเมื่อไม่ได้สวมชุดนักกีฬา ไม่ได้อยู่ในห้องซ้อมปิงปองแล้วจะไม่ใครรู้จัก เดี๋ยวนี้แค่ส่งรูปให้กด like ต่อๆกันไป เดี๋ยวเดียวใครต่อใครก็จะจำหน้าตาของคุณได้แล้ว แค่เดินข้ามถนนตรงที่ไม่ใช่ทางม้าลาย สวมเสื้อผ้าไม่เรียบร้อย เล่นปิงปองแล้วไม่เก็บลูกปิงปองที่แตกไปลงถัง ทิ้งขวดน้ำเรี่ยราด หรือใช้สถานที่ฝึกซ้อมเกินเวลาที่ประกาศไว้ไม่กี่นาที ก็อาจส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของตัวคุณ สถาบันของคุณ และประเทศ

ข้อเสียของคนไทยมักขาดความเป็นตัวของตัวเอง ไม่กล้าแสดงออกถึงความคิดเห็นที่ถูกต้องของตัวเองหากขัดแย้งกับคนอื่น มักแก้ตัวว่าทำไปเพราะคนส่วนใหญ่ทำกัน เพราะครูผู้ฝึกสอนยังทำหรือยังไม่ได้สั่ง หลายคนถึงกับคิดว่าการยอมเห็นใจกันในเรื่องผิดนิดผิดหน่อยไม่เป็นไร คิดไปว่าเป็นนิสัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ที่ดีของสังคมไทยเสียด้วยซ้ำ

ครูผู้ฝึกสอนต้องเข้มงวดในระเบียบวินัย ช่วยกันอบรมสั่งสอน ตักเตือน นักปิงปองซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชนหรือวัยรุ่นให้รู้จักคิดและวางตัวอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะในการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานซึ่งมีผู้แทนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นประธาน

อย่าคิดแบบเข้าข้างตัวเองว่า ไม่เป็นไร อย่าให้ชาวต่างชาติมองประเทศไทยอย่างดูถูกว่าเป็น "ไม่เป็นไร country"

อยากฝึกเล่นปิงปองอย่างมีหลักการ จะไปเล่นที่ไหนดี สถานที่ซ้อมดีๆเท่าที่เห็นก็มีแต่สอนเด็กหรือนักกีฬาที่ซ้อมกันอย่างเอาเป็นเอาตายทั้งนั้น น่าหาที่ซึ่งไว้ใจได้ว่าให้คำแนะนำได้ดี เชื่อถือได้

ผมเชื่อว่าสถานที่แรกที่ใครๆจะแนะนำให้คุณไปเล่นปิงปองก็คือ การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท) ใช่ไหมครับ

ศูนย์ฝึกกีฬาในร่ม การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท) มีประตูทางเข้าอยู่ติดกับสถานีตำรวจหัวหมาก โดยมีห้องฝึกซ้อมเทเบิลเทนนิส ซึ่งเป็นสถานที่ฝึกซ้อมปิงปองที่ดีแห่งหนึ่งของประเทศ มีโต๊ะปิงปองระดับแข่งขัน 11 ตัว พื้นปูยางกันลื่นอย่างดี มีพื้นที่กว้างขวางสำหรับวางโต๊ะและแผงกั้นให้ห่างกันพอสมควร สามารถฝึกลูกใกล้ไกลได้สะดวก โดยเฉพาะหลังคาสูงช่วยให้สามารถโยนลูกโด่งให้ฝึกตบได้สบาย แต่ออกจะร้อนอบอ้าวมากหน่อยในฤดูร้อนหรือช่วงกลางวัน ดังนั้นจึงมักมีผู้มาเล่นปิงปองกันตั้งแต่ช่วงบ่ายแก่ๆที่อากาศเริ่มหายร้อนเรื่อยไปจนถึงสามทุ่ม

SATRoom

ในการมาฝึกซ้อม สำหรับบุคคลทั่วไปสามารถเข้ามาใช้สถานที่ได้โดยซื้อคูปองวันละ 30 บาทหรือสมัครเป็นสมาชิกประชาชนทั่วไปประมาณ 800 บาทต่อปี หากเป็นนักเรียนนักศึกษาจะถูกกว่านี้อีก เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 9.00 - 21.00 น (พักเที่ยง 1 ชั่วโมง) โดยวันจันทร์จะเปิดตั้งแต่บ่ายโมง หยุดในวันหยุดนักขัตฤกษ์และวันหยุดชดเชย

อย่างไรก็ตามห้องฝึกซ้อมนี้จะว่างให้ใช้โต๊ะปิงปองได้ทุกตัวก็ต่อเมื่อไม่มีทีมชาติมาซ้อมหรือไม่ถูกใช้ห้องกันไว้สำหรับแข่งขัน ดังนั้นก่อนจะเดินทางมาควรติดต่อสอบถามให้แน่ชัดก่อนว่าห้องว่างไหม ประชาชนมักจะมากันแน่นในวันเสาร์อาทิตย์หรือในช่วงเย็นตั้งแต่ 4 - 5 โมงไปแล้วของทุกวัน มารอคิวแบ่งกันใช้โต๊ะปิงปองที่บ่อยครั้งจะเหลืออยู่เพียง 3 - 4 ตัว

ห้องที่ใช้ฝึกซ้อมนี้ หลายปีก่อนเคยถูกแบ่งพื้นที่ไปใช้สำหรับฝึกซ้อมยูโดกับมวยจนเหลือโต๊ะสำหรับฝึกซ้อมเพียง 2 ตัวและเหลือไฟส่องสว่างเพียงไม่กี่ดวง ต่อมาเมื่อสมาชิกร้องเรียนไปยังคุณสันติภาพ เตชะวณิช อดีตผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยจึงได้กรุณาจัดการให้ใช้ห้องนี้สำหรับฝึกซ้อมเทเบิลเทนนิสโดยเฉพาะ จึงเรียกได้ว่าเป็นผลงานจากฝีมือของสมาชิกทีเดียวที่ทำให้ประชาชนมีสถานที่ฝึกซ้อมกลับคืนมา

ในห้องนี้ ปัจจุบันมีโต๊ะปิงปอง 11 ตัว แต่เหลือให้สมาชิกได้ใช้ฝึกซ้อมกันเพียง 3 - 4 ตัวในช่วงเย็นถึงค่ำ เพราะต้องกันไว้ให้กับนักกีฬาทีมชาติ 6 ตัว และสำหรับใช้ฝึกสอนให้กับเด็กๆเฉพาะในตอนเย็นๆ 1 - 2 ตัว สมาชิกที่มาใช้สถานที่ต้องฝึกซ้อมกันเองอย่างผิดบ้างถูกบ้าง หากจะจ้างครูของกกทมาสอนก็ต้องจ่ายชั่วโมงละ 300 บาท ซึ่งใครที่เพิ่งมาเห็นจะต้องประหลาดใจทุกคนว่า ทำไมที่ฝึกซ้อมระดับประเทศจึงมีโต๊ะปิงปองให้ประชาชนแค่นี้เอง

ส่วนนักกีฬาทีมชาติชุดปัจจุบันหรือในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมาล้วนเติบโตหรือเก่งมาจากทีมอื่นหรือสโมสรอื่นซึ่งใช้สถานที่อื่นฝึกซ้อมทั้งสิ้น

 

IMG 3977a

 

ประวัติของห้องฝึกซ้อมเทเบิลเทนนิส

การกีฬาแห่งประเทศไทยจัดเตรียมห้องฝึกซ้อมเทเบิลเทนนิสไว้ตั้งแต่เปิดศูนย์ฝึกกีฬาในร่มในปีพ.ศ.2520 สมัยนั้นยังใช้ชื่อองค์การส่งเสริมกีฬาแห่งประเทศไทยโดยช่วงแรกแบ่งใช้ห้องร่วมกับพื้นที่ฝึกซ้อมแบดมินตันซึ่งเป็นห้องแรกทางขวามือตรงปากประตูทางเข้าด้านหน้า แล้วจึงย้ายมาใช้ห้องที่ใช้อยู่ในปัจจุบันหลังจากที่มีการเพิ่มห้องเพื่อจัดแข่งเทเบิลเทนนิสระหว่างประเทศ ซึ่งในสมัยนั้นผู้ที่จะเข้ามาฝึกซ้อมปิงปองต้องนำบัตรสมาชิกมาเสียบไว้ที่โต๊ะของโค้ชและลงนามเพื่อแสดงตน ทุกคนต้องแต่งตัวสวมชุดและรองเท้ากีฬาให้เรียบร้อย และต้องผลัดกันใช้โต๊ะโดยมีโค้ชคอยกำกับไม่ให้ใช้เวลาเล่นนานเกินไป ถ้าใครที่ตั้งใจฝึกซ้อมก็จะได้รับคำแนะนำสอนวิธีตีปิงปองให้ฟรีอีกด้วย ซึ่งสร้างผลงานได้อดีตนักกีฬาทีมชาติหลายคน แม้แต่โค้ชทีมชาติเองก็เติบโตมาจากที่นี่

"ความมุ่งหมายของการสร้างศูนย์ฝึกกีฬาในร่มแห่งนี้ ก็เพิ่อมุ่งให้เยาวชนและประชาชน ได้เข้ามารับการฝึกเล่นกีฬาที่ถูกวิธีอย่างจริงจัง โดยมีครูฝึกที่เชี่ยวชาญในกีฬาประเภทต่างๆเป็นพิเศษคอยฝึกสอนให้อย่างใกล้ชิด โดยมิได้หวังผลประโยชน์ใดๆตอบแทน" ... นี่คือข้อความจากภาพซึ่งน่าเสียดายที่กลายเป็นอดีตไปแล้ว

 

SATHistorySML

คลิกรูปเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

จุดอ่อนของนักปิงปองไทยอยู่ที่ภาษานี่แหละ จะไปฝึกซ้อมที่ต่างประเทศหรือเชิญโค้ชต่างชาติมาสอน พอสื่อสารกันไม่ได้เรื่องก็หมดท่า ต้องพึ่งล่ามที่ไม่รู้ว่าเขาแปลถูกต้องหรือไม่ ถ้าพูดเป็นอ่านเป็นภาษาอังกฤษเสียหน่อย ความรู้เทคนิคการเล่นปิงปองจะเปิดกว้างอีกไม่รู้จบ มีข้อมูลอีกเยอะแยะที่เหนือชั้นกว่าที่เรารู้กันอีกเต็มไปหมด

ในวัยที่ผมยังเป็นเด็ก ด้วยความอยากรู้ว่าชาวต่างชาติเขาตีปิงปองกันอย่างไร แม้จะมีรูปภาพที่แสดงแต่ละจังหวะที่เหวี่ยงแขนเข้าหาลูกให้เห็นชัดแล้วก็ตาม ก็ยังขวนขวายที่จะแปลคำอธิบายที่เขียนประกอบภาพจะได้รู้ชัดเจนดีกว่าที่จะเอาแต่ดูรูปอย่างเดียว ซึ่งบางทีเขาอาจจะเขียนไว้ว่า สิ่งที่เห็นนี้คือการตีปิงปองอย่างผิดวิธี

ภาษานี่แหละที่จะช่วยให้ก้าวหน้าในการเล่นปิงปอง แทนที่จะเอาแต่ฟังหรืออ่านคำอธิบายภาษาไทย ถ้าสามารถอ่านภาษาอังกฤษออกสักหน่อยจะช่วยเปิดหูเปิดตาว่าต่างชาติเขาพัฒนาวิธีเล่นปิงปองไปไกลแค่ไหนแล้ว ยิ่งสามารถสื่อสารฟังออกพูดภาษาอังกฤษได้ จะช่วยทำให้อนาคตในวงการปิงปองไปได้ไกลมากขึ้น จะเดินทางไปประเทศไหน ฝึกสอนปิงปองที่ชาติใดก็ไม่มีปัญหา

ถ้าอยากจะค้นคว้าว่าจีนหรือญี่ปุ่นเขาฝึกปิงปองกันอย่างไร ให้ลอกคำต่อไปนี้ค้นหาใน google

如何打乒乓球

卓球をプレイする方法

ขยันเล่นปิงปองแล้วต้องขยันเรียนด้วย อย่าเอาแต่เล่นอย่างเดียว อย่าลืมว่า ปิงปองไม่ใช่สิ่งเดียวในชีวิต

จากสถิติแบบสอบถามเด็กอยุระหว่าง 7 - 14 ปี ว่าอาชีพในฝันอยากจะเป็นอะไร พบว่าอันดับหนึ่งยังคงเป็นแพทย์เพื่อจะได้ช่วยเหลือผู้อื่น รองลงไปอยากจะเป็นนักกีฬาเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ อันดับสามคือเชฟทำอาหารเพราะรักในการทำอาหาร ตามด้วยความอยากจะเป็นวิศวกรและครูตามลำดับ ส่วนไอดอลต้นแบบถ้าไม่อยากจะเป็นเพราะพ่อแม่หรือแพทย์ ก็มาจากชื่อเสียงของนักกีฬา ดารา และท่านนายกฯตามลำดับ

 

IMG 4282sml

IMG 4283smlJPG

 

ในขณะที่แพทย์และวิศวกรเป็นอาชีพที่กำลังขาดแคลนและมีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศในอนาคต แต่ความฝันของเด็กไทยและของเด็กอีกหลายชาติในโลกคงไม่ได้ต่างกันนักที่ว่าอยากมีอาชีพที่อิสระ นั่นคือได้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการและมีความใฝ่ฝันอยากจะทำตามความสำเร็จของคนอื่น

ลูกสาวของเศรษฐีชาวไต้หวันอยากจะทำร้านขายกาแฟ คุณพ่อจึงสร้างห้างสรรพสินค้าขนาดมหึมาขึ้นมาแล้วจัดให้มีมุมหนึ่งเป็นร้านขายกาแฟให้ลูกได้ทำตามความฝันของตัวเอง

ส่วนเด็กที่อยากเป็นนักกีฬานั้น เด็กคนหนึ่งคุยโอ้อวดให้คุณแม่ของเขาฟังว่าแค่เล่นฟุตบอลให้เก่งมีชื่อเสียง แค่ใช้เวลาไม่กี่ปีก็สามารถหาเงินได้มากกว่าที่พ่อแม่หามาได้ชั่วชีวิต แต่หลังจากนั้นไม่นานนักขณะที่กำลังเล่นฟุตบอลอยู่นั้นเด็กคนนี้ก็หัวเข่าแตกเส้นเอ็นขาดจนต้องนั่งรถเข็นแล้วต้องลาพักเรียน เสียทั้งการเรียนและดับความฝันที่ตัวเองเคยคุยโอ้อวดเอาไว้

ความฝันของเด็กๆมักจะใสซื่อและบริสุทธิ์โดยไม่ได้ใคร่ครวญให้ชัดเจนว่าโอกาสที่ตัวเองจะได้ทำตามความฝันนั้นมีมากน้อยหรือไม่ และถ้ามุ่งจะเอาดีทางกีฬาแล้วจะเสียโอกาสอื่นที่ดีกว่าซึ่งตัวเองมีอยู่พร้อมแล้วหรือไม่

เด็กส่วนใหญ่มีโอกาสดีที่ได้เล่าเรียนก็ไม่ควรเล่นกีฬาจนทำให้ตัวเองเสียโอกาสดีๆที่จะได้เล่าเรียนมีการศึกษาสูง เพื่อทำให้มีอาชีพการงานที่ดีและยกระดับชีวิตให้ดีขึ้นในอนาคต ส่วนคนที่ไม่มีโอกาสหรือยากจนนั้นเล่า ย่อมต้องหาทางเอาตัวรอดโดยการทุ่มเทเล่นกีฬาให้เด่นดังเป็นทางออกหนึ่ง แต่ไม่ง่ายที่จะแข่งขันจนติดอันดับหนึ่งในห้า อีกทั้งต้องพึ่งโชคและคนสนับสนุนอีกจึงจะถูกคัดเลือกตัวมาเข้าทีมหรือได้เป็นโค้ชทีมชาติซึ่งมีโอกาสแค่ 1 ในหลายล้าน และยังมีความเสี่ยงในการบาดเจ็บอีกซึ่งสามารถดับฝันของนักกีฬาชื่อดังหลายคนมาแล้ว

ที่สำคัญที่สุดคือจะเล่นกีฬาต่อไปได้สักกีปีกัน เมื่อมีอายุมากขึ้นร่างกายย่อมทรุดโทรมลงไปเป็นธรรมดา พออายุ 30 ปีขึ้นไป จะสู้แรงนักปิงปองอายุอ่อนกว่าไหวหรือ

ทุกวันนี้นักปิงปองและแชมป์ปิงปองมีอายุน้อยลง เป็นนักกีฬาเด็กๆซึ่งอยู่ในวัยเรียนกันทั้งนั้น จงอย่าเล่นปิงปองจนทำให้ตัวเองหมดโอกาสที่ดีกว่าในอนาคต ทุกอาชีพสามารถสร้างชื่อเสียงและคุณประโยชน์ให้ประเทศได้เช่นกัน

วิ่ง เป็นการออกกำลังที่ทุกคนวิ่งเป็นกันตั้งแต่เด็ก แต่วิธีวิ่งในท่าทางที่ถูกต้องนั้นต่างจากวิธีที่หลายคนวิ่งกันอยู่ หลายคนตั้งใจวิ่งเพื่อออกกำลังแต่กลับกลายเป็นการทำลายหัวเข่าหรือทำให้เกิดอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็น

โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่ห่างเหินจากการออกกำลังมานานทำให้ขาไม่มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงเพียงพอ ส่งผลทำให้เวลาวิ่งก็จะต้องทิ้งน้ำหนักลงที่ข้อเข่าโดยตรงหรือกระดูกหัวเข่าโดยไม่มีกล้ามเนื้อมารองรับแรง พอวิ่งได้สักพักก็จะปวดเข่า เมื่อหาหมอแล้วผ่าหัวเข่าจะพบขี้เลื่อยจากกระดูกหัวเข่าที่บดกันจนละเอียด

ก่อนจะวิ่งต้องบริหารเตรียมกล้ามเนื้อขาให้พร้อมก่อนโดยการฝึกเดิน และก่อนจะวิ่งทุกครั้งต้องยืดเส้นยืดสายเพื่อให้ร่างกายพร้อมต่อการออกกำลัง

ท่าวิ่งที่ถูกต้องมีลักษณะสำคัญ ดังนี้

  1. ลำตัวตรง เอนตัวเล็กน้อยไปข้างหน้า ศีรษะตรง มองไปข้างหน้า ไม่ใช่เอาแต่มองเท้าตัวเอง อย่างอตัวไปข้างหน้าหรือด้านหลังที่เอว ปล่อยหัวไหล่ตามสบายให้มีระดับขนานกับพื้น
  2. ก้าวในระยะพอดีๆ อย่าก้าวยาวเกินไปจนขาเหยียดตรง
  3. ทิ้งน้ำหนักลงที่ฝ่าเท้า (ball of your feets) แล้วเลื่อนน้ำหนักไปที่ปลายนิ้วเท้า อย่าทิ้งน้ำหนักลงที่ปลายเท้าเพราะจะทำให้เอ็นเท้าบาดเจ็บ อย่าทิ้งน้ำหนักลงที่ส้นเท้าเพราะแสดงว่าคุณก้าวเท้ายาวเกินไปจนขาเป็นเส้นตรง
  4. ปลายเท้าชี้ตรงไปด้านหน้า เมื่อเท้าเหยียบพื้นแล้วให้ดีดลากเท้าไปด้านหลังเพื่อส่งลำตัวไปด้านหน้า อย่าวิ่งแบบกระโดดหรือยกเข่าสูงเกินไป
  5. ปล่อยมือตามสบาย วางไว้ในระดับเอว
  6. งอแขนในมุมประมาณ 90 องศา แล้วเหวี่ยงที่หัวไหล่กลับไปกลับมาไปทางด้านหลังขนานกับลำตัว ไม่ใช่เหวี่ยงแขนไปข้างหน้าหรือไขว้ไปมาบนหน้าอก ไม่ยกไหล่ขึ้นลง
  7. หายใจลึกๆเป็นจังหวะโดยผ่านจมูกหรือปากก็ได้ อย่าหายใจเร็วเกินไป โดยอาจหายใจรอบหนึ่งต่อการก้าวเท้าสองครั้งหรือมากกว่านั้นก็ได้

เมื่อวิ่งเสร็จ ให้เดินออกกำลังแบบเบาๆต่ออีกสักพักแล้วยืดเส้นยืดสายอีกครั้ง

 

 

 

 

สิ่งหนึ่งที่ช่วยทำให้จีนมีนักปิงปองที่เก่ง คือ การที่ประเทศของเขาให้ความสำคัญกับกีฬาปิงปอง มีห้อง Hall of Fame แสดงประวัติศาสตร์แสดงชื่อและหน้าตาว่าแต่ละยุคมีใครบ้างที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ ทั้งนักกีฬา ครูผู้ฝึกสอน หรือบุคคลที่ช่วยเหลือวงการปิงปองในอดีตทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ไม่ใช่ว่าพอฝีมือตกหรือผ่านยุดผ่านสมัย ไม่มีโอกาสเป็นทีมชาติแล้วก็ลืม

การให้เกียรติกันเช่นนี้ย่อมเป็นแรงกระตุ้นสำคัญทำให้คนที่มีฝีมือและมีความรู้ มีใจพร้อมออกมาช่วยกันพัฒนาปิงปองให้ก้าวไกลไปเรื่อยๆโดยไม่แสวงหาผลประโยชน์ตอบแทน

ประเทศไทยของเรามีคนที่เคยเก่งปิงปองเยอะมาก เพียงแต่ว่าเขาไม่สามารถเล่นปิงปองได้เก่งเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ด้วยวัยที่ไม่แข็งแรงว่องไวเหมือนแต่ก่อน บางคนติดภาระกิจการงานทำให้ไม่มีเวลามาฝึกซ้อมปิงปอง แต่เขาเหล่านั้นล้วนเป็นผู้มีความรู้และประสบการณ์สามารถสอนและให้คำแนะนำชั้นเยี่ยม บางคนสามารถเป็นครูสอนได้ดีกว่านักปิงปองที่เป็นแชมป์แต่พูดถ่ายทอดไม่เป็นเสียด้วยซ้ำ

Do as I Say, Not Do as I Do แปลว่า ขอให้ทำตามสิ่งที่ฉันพูด แต่ไม่ต้องทำตามสิ่งที่ฉันทำ

 

Takashima

 

ประโยคนี้เป็นสิ่งที่นักปิงปองทุกคนพึงทำความเข้าใจไว้ให้ดีเสมอ อย่าดูเผินๆว่านักปิงปองคนนั้นคนนี้เล่นไม่เอาไหน ตีใช้ไม่ได้ บางทีเขาอาจเป็นแชมป์ประเทศไทยมาหลายสมัย เป็นทีมชาติมาก่อน หรือเป็นผู้มีประสบการณ์มายาวนานที่สามารถสอนให้ความรู้ที่ถูกต้องให้กับคุณได้ แม้ว่าตัวเขาจะไม่สามารถทำท่าตีตามแบบที่เขาสอนก็ตาม

Go to top