คุณเป็นคนหนึ่งใช่ไหมที่ลงแข่งปิงปองเจอกับคู่แข่งที่ไม่เห็นจะตีได้ดีกว่าสักเท่าใดแต่กลับแข่งแพ้เขาอย่างไม่เป็นท่า หรือพอเริ่มเสียคะแนนให้กับคู่แข่งที่เด็กกว่า หัวใจก็จะเต้นแรงขึ้น เกร็งมือไม้จนตีไม่ออก พอแข่งแพ้แล้วก็เดินออกมาบ่นว่า วันนี้ตีไม่ออก วันนี้ตีไม่ดี และแล้วพอเจอกับคู่แข่งเช่นนี้อีกก็ยังคงแพ้เขาเหมือนเดิม นี่แสดงว่าที่แพ้นั่นไม่ได้ขึ้นกับฝีมืออย่างเดียวหรอกนะ หากขึ้นกับวิธีคิดที่จะตีปิงปองอีกด้วย
จากการวิจัยพบว่า ความสนุกเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่ชัยชนะของแชมป์ เวลาฝึกก็ต้องคิดให้เหมือนกับว่ากำลังแข่งขัน มีความคิดและรู้สึกว่าตีปิงปองนี่สนุกมาก ยิ่งพบกับคู่แข่งหลากหลายมากเท่าใด ยิ่งรู้สึกสนุกและท้าทายที่ได้ลองตีปิงปองให้เต็มที่
พยายามรักษาการตีให้คงเส้นคงวาไว้ไม่ว่าคู่แข่งจะเป็นใคร
- ถ้าคู่แข่งเก่งกว่า ต้องคิดหาทางตีลูกย้ำไปที่จุดอ่อนที่สุดของเขาให้ได้ตามแผนเท่าที่จะเป็นได้
- ถ้าคู่แข่งด้อยกว่า ต้องพยายามตีลูกที่ชำนาญให้เสียน้อยที่สุดและเสียน้อยกว่ามาตรฐานเดิมของตัวเอง
ให้สนใจวิธีการเล่นโดยไม่ต้องสนใจกับผลแพ้ชนะ อย่าสนใจว่าต้องตีให้ดีเพื่อให้คนรอบข้างชมหรือเพื่อคุณพ่อคุณแม่หรือโค้ชจะได้ไม่ผิดหวัง
ซึ่งนอกเหนือจากการตีปิงปองเพราะความสนุกและท้าทายของตัวเองแล้วยังมีปัจจัยสำคัญอื่นอีกที่จะนำไปสู่ชัยชนะ ได้แก่
- สามารถผสมใช้ความชำนาญสามารถตีลูกได้หลากหลายร่วมกับความท้าทายได้อย่างสมดุล
- มีความมั่นใจในการตี
- มีสมาธิจดจ่อกับการตี ไม่สนใจกับสิ่งเร้าภายนอก
- มีเป้าหมายแผนการเล่นที่ชัดเจน
อย่างที่เห็นกันอยู่ว่านักปิงปองส่วนใหญ่ถนัดตีโฟร์แฮนด์กันมากกว่าแบ็คแฮนด์ ในการแข่งขันจึงพยายามตีเข้าทางด้านแบ็คแฮนด์ของคู่ต่อสู้มากกว่าตีไปทางด้านโฟร์แฮนด์ เพราะเชื่อกันว่าด้านแบ็คแฮนด์เป็นจุดอ่อนของแทบทุกคน นักปิงปองทราบประเด็นนี้กันดีหลายๆคนจึงคิดแก้ไขจุดอ่อนโดยฝึกฟุตเวิร์คก้าวไปตีโฟร์แฮนด์ทางด้านแบ็คแฮนด์ ส่งผลให้เปิดพื้นที่ทางด้านโฟร์แฮนด์ของตัวไว้ตลอด กลายเป็นจุดอ่อนของคนที่ชอบตีโฟร์แฮนด์ว่ามีจุดบอดทางด้านโฟร์แฮนด์ ถ้าขยับตัวไปทางไหนเพื่อเอาแต่ตีโฟร์แฮนด์ จะเปิดพื้นที่อีกด้านหนึ่งไว้เป็นจุดอ่อนเสมอ เช่น ถ้าขยับตัวไปทางซ้ายก็จะเปิดพื้นที่ทางขวา ถ้าขยับตัวไปทางขวาก็จะเปิดพื้นที่ทางซ้าย
แม้การมุ่งตีเข้าทางแบ็คแฮนด์เป็นวิธีที่ใช้ได้และใช้ได้ดี แต่ถ้าคู่ต่อสู้สามารถตีทั้งด้านโฟร์แฮนด์และแบ็คแฮนด์ได้เก่งพอๆกัน แถมตีได้ดีกว่าคุณเสียอีก ยุทธวิธีนี้ย่อมไม่เหมาะ
แทนการตีเข้าที่จุดอ่อนของคู่ต่อสู้ ให้ตีเข้าไปทางด้านที่คู่ต่อสู้ถนัดแต่ทำให้เขาตีท่าที่ถนัดได้ลำบาก เช่น ส่งลูกที่ไม่สั้นไม่ยาวพอกระเด้งอีกฝั่งหนึ่งแล้วอาจลอยยาวไม่พอที่จะข้ามปลายโต๊ะ ส่งผลให้ตีได้ไม่แรงและไม่หมุนเต็มที่ หรือตีลูกเข้าไปทางโฟร์แฮนด์ใกล้ตัว ทำให้คู่ต่อสู้ต้องขยับตัวเพื่อตีโฟร์แฮนด์ เปิดโอกาสให้คุณบุกสวนกลับส่งลูกโยกไปในพื้นที่ซึ่งเปิดโล่งไว้
ยุทธวิธีเอาชนะไม่จำเป็นต้องใช้ความแรงเอาชนะเสมอไป ให้ใช้ความเร็วและเล่นทิศทางเพื่อทำให้คู่ต่อสู้ขยับตัวตีลูกได้ไม่ถนัดก่อนเพื่อตัดกำลัง
- ตีลูกให้แรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ตราบใดที่ยังสามารถตีลูกลงโต๊ะ ทั้งนี้ต้องทราบขีดจำกัดของตัวเองก่อนว่าสามารถตีลูกได้แรงมากเท่าใดโดยยังไม่เสียความสามารถในการควบคุมลูกปิงปอง
- การควบคุมลูกปิงปองได้อย่างคงเส้นคงวาเป็นหลักสำคัญที่สุด สิ่งที่จะช่วยให้ควบคุมลูกปิงปองได้ดีก็ด้วยการตีลูกให้หมุนทุกลูก
- เมื่อตีโต้ได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว ให้ใช้ความแม่นยำโยกซ้ายขวาจี้จุดอ่อนของคู่ต่อสู้ตามแผนที่วางไว้
ถ้าไม่มั่นใจให้ตีลูกปิงปองลงบริเวณกลางโต๊ะ (อย่าตีลงชิดเส้นขอบ) และเลือกใช้ท่าตีที่เหมาะกับลูกระยะต่างๆ
- ถ้าคู่ต่อสู้ส่งลูกสั้นหน้าเน็ตและกระเด้งไม่สูง ให้หยอดสั้นๆกลับไป
- ถ้าลูกกระเด้งบริเวณกลางโต๊ะ ให้ flip หรือ push กลับไป
- ถ้าลูกยาวหรือสูงกว่าเน็ต ให้บุกด้วย smash หรือ loop กลับไป
การตีโต้ลูกยาว
- ให้ตีโต้ทะแยงมุมกลับไปซ้ำแล้วซ้ำอีกเพราะมีระยะทางที่ยาวที่สุดและปลอดภัยที่สุด การเปลี่ยนทิศทางการตีกลับแบบขนานเส้นจะเสี่ยงมากขึ้น
- เมื่อตีลูกทะแยงมุมไป คู่ต่อสู้มักตีสวนทะแยงมุมกลับมาที่เดิม จึงไม่จำเป็นต้องเคลื่อนตัวกลับไปเตรียมพร้อมให้ห่างจากจุดเดิมนัก
- ถ้าคู่ต่อสู้ตีกลับมาเป็นลูกตรงขนานกับเส้นข้าง ให้ตีลูกยาว sidespin ทะแยงมุมโยกไปลงขอบด้านข้าง และกระเด้งโค้งออกห่างไปอีกทำให้เป็นมุมกว้างยากที่คู่ต่อสู้จะรับทัน
- ถ้าอยากจะตีลูกตรงขนานกับเส้นข้าง ต้องใช้ลูกบุกที่มั่นใจว่าเอาชนะได้
- ถ้าตีโต้ขนานกับเส้นข้าง แต่ละฝ่ายต้องคอยระวังพื้นที่ที่เปิดโล่งอีกด้านหนึ่ง พอเขาขยับตัวไปทางนั้นให้ตีจังหวะช้าหน่อย ตีลูกตรงขนานกับเส้นข้างย้อนกลับไปด้านหลังของคู่ต่อสู้
- การตีลูกอัดเข้าข้อศอกขวาของคู่ต่อสู้ ควรใช้ลูกหมุนแบบ sidespin ที่จะกระเด้งโค้งเข้าหาตัวของคู่ต่อสู้ทำให้ดัดหน้าไม้รับยาก
- เมื่อเสียหลักหรือตีไม่ถนัด ให้ตีลูก loop ยาวและโด่งลงปลายโต๊ะเพื่อซื้อเวลาให้ตัวเอง ถ้าคู่ต่อสู้เคลื่อนตัวเก่งให้ตีลูกเข้าหาตัว
- ตีโฟร์แฮนด์ทะแยงมุมจากด้านแบ็คแฮนด์ โดยตีลูก sidespin แบบ inside-out ที่กระเด้งโค้งออกขอบโต๊ะ ทำให้คู่ต่อสู้ตีไม่ถนัดกลับมา
- เปลี่ยนกลยุทธ หากทิศทางที่คู่ต่อสู้ชอบตีเมื่อตีได้ไม่ถนัดมักโต้กลับมาลงจุดที่คุณตีไม่ถนัดเสียเอง เช่น เขามักตีกลับไปทางแบ็ดแฮนด์ที่คุณเองก็ไม่ถนัดด้วย
- ตีโต้โยกซ้ายขวาหรืออัดเข้าข้อศอกขวายังไม่พอ ต้องตีลูกสั้นยาวให้คู่ต่อสู้วิ่งเข้าออกด้วย เพื่อทำให้เขาเปิดพื้นที่อีกด้านไว้ให้คุณบุก
โปรดจำไว้ว่า...
- การเอาชนะไม่จำเป็นต้องตีได้ดีกว่า หาทางตีให้ได้ตามแผนการเล่นโดยตีลูกที่คุณชำนาญไปยังจุดอ่อนของคู่ต่อสู้
- สามารถปรับแผนการเล่นให้ยืดหยุ่นตามวิธีการตีของคู่ต่อสู้
- ฉลาดเลือกตีให้ถูกกาละเทศะ อย่าบุกถ้ายังเสียหลักหรือยังไม่พร้อม ถ้าอยู่ในภาวะกดดัน ให้ตีโต้ลูกยาวไปทางจุดอ่อนของคู่ต่อสู้เพื่อซื้อเวลาไว้ก่อน
- ถ้าคู่ต่อสู้ตีลูกแรงและยาว ให้ถอยออกมาบ้าง แต่ถ้าถูกโยกให้เคลื่อนเข้าหาโต๊ะเพื่อปิดมุมโยก
- คอยวิเคราะห์สถานการณ์ในภาวะคับขันเสมอและตัดสินใจเลือกกลยุทธให้เหมาะสม
- ทำเสียเองให้น้อยที่สุดโดยโต้กลับไปทิศทางเดิม อย่าเปลี่ยนทิศทางการตีโต้
- ตีลูกยาว topspin ลงปลายโต๊ะใกล้เส้นสกัดเสมอ
- พยายามบุกไม้สามเสมอเพื่อสร้างแรงกดดันให้กับคู่ต่อสู้
รวบรวมจากหนังสือ Play Winning Tennis with Perfect Strategy ดัดแปลงเล็กน้อยให้เหมาะกับปิงปอง
ปิงปองเป็นกีฬาที่ต้องใช้สมอง จะว่าต้องคิดก็ไม่ได้เพราะถ้ามัวคิดก็ช้าไป จะว่าไม่คิดก็ไม่ได้เพราะไม่ได้ปล่อยให้ตีโต้กันไปมาแบบไม่ได้ใช้เหตุผล พอลูกปิงปองกระเด้งออกจากไม้ไปแล้วต้องเหลือบตาไปมองพฤติกรรมของฝ่ายตรงข้ามว่าเขาตีกลับมาแบบใด ต้องอ่านท่าทางของเขาให้ออก ไม่ใช่ดูแค่หน้าไม้อย่างเดียว
- พอทราบว่าต้องแข่งกับใคร ให้สอบถามจุดอ่อนจุดแข็งจากเพื่อนๆที่เคยตีกับเขามาก่อน แอบดูการซ้อมว่าเขาถนัดตีแบบใด
- ก่อนจะเริ่มนับแต้มต้องดูยางของคู่ต่อสู้ให้ละเอียด ใช้ยางเรียบหรือยางเม็ด ยางเม็ดสั้นหรือเม็ดยาว ผิวยางลื่นเป็นมันหรือมีลายหยาบๆบนหัวเม็ด ใช้ฟองน้ำแบบหนาหรือบาง ดูร่องรอยของการขยับนิ้วบนหน้ายางด้วยว่าเขาเลื่อนนิ้วชี้กับนิ้วโป้งขึ้นลงเวลาตีด้วยหรือไม่ สังเกตรอยบนหน้ายางว่าด้านแค่ตรงกลางหน้าไม้หรือด้านตรงอื่นอีก ยางด้านใดที่ด้านกว่ากัน
- ดูการจับหน้าไม้ว่าเขาจับไม้หลวมห่างจากบ่าของไม้หรือจับไม้แน่น เอียงหน้าไม้ไปทางด้านใด บางท่าเหมาะกับการตีบนหัวลูกแต่ตีใต้ลูกไม่ถนัด บางท่าเหมาะกับการตีโฟร์แฮนด์แต่ตีอีกด้านไม่ถนัด
- อย่านึกว่าคนอ้วนตัวใหญ่จะเคลื่อนไหวตัวช้า ถ้าหลอกให้คนอ้วนออกแรงตีท่าใดท่าหนึ่งซ้ำหลายครั้งพอโยกไปอีกทางหนึ่งจะเสียหลักง่ายเพราะยากในการหยุดการถ่ายน้ำหนักของตัวเอง ส่วนคนตัวสูงจะไม่ถนัดลูกที่ตีเข้าลำตัว
- สังเกตท่าทางการวางเท้า ถ้าวางเท้าแบบขนานกับโต๊ะจะตีถนัดทั้งสองด้านแต่เคลื่อนที่หน้าหลังไม่สะดวก ถ้าวางเท้าขวาไว้ด้านหลังจะถนัดตีโฟร์แฮนด์มากกว่าแบ็คแฮนด์หรือตีลูกแบ็คแฮนด์ไกลตัวไม่ถนัด ถ้าวางเท้าซ้ายไว้ด้านหลังจะเคลื่อนตัวยากและตีได้แต่ลูกใกล้ตัว
- ถ้าคู่ต่อสู้ชอบตั้งท่าเตรียมพร้อมห่างจากโต๊ะ จะรับลูกหยอดไม่ถนัดแต่พร้อมที่จะบุกถ้าลูกยาว ให้หยอดแล้วหยอดซ้ำ ถ้าเขายืนใกล้โต๊ะให้หยอดแล้วตีลูกยาวอัดเข้าลำตัว มุ่งตีลูกปิงปองไปลงจุดที่ไกลที่สุดจากตัวของคู่ต่อสู้หรือโยกไปอีกทางจากตำแหน่งที่เขายืนอยู่
- ดูหน้าไม้ในท่าตั้งรับว่าตั้งหน้าไม้เพื่อเตรียมรับลูกด้านใด ถ้าตั้งไม้ไว้เหนือระดับโต๊ะจะถนัดตีลูก backspin หรือลูกสั้นบนโต๊ะ
- ท่าเสริฟ ถ้าไม้อยู่ต่ำกว่าระดับข้อศอก มักเสริฟลูกหมุนข้าง side spin และสังเกตการแสดงออกที่ชอบทำ เช่น บางคนชอบเม้มริมฝีปากก่อนทุกครั้งที่จะเสริฟลูกยาว
- พฤติกรรมของผู้ชนะ เช่น กำมือ กระโดด แตะไม้ หรือวิ่งเหยาะๆไปเก็บลูก ส่วนพฤติกรรมผู้แพ้หรือเมื่อไม่มั่นใจ เช่น ทดลองเหวี่ยงไม้ ผงกหัว แตะลำตัว หรือแสดงอารมณ์เสียออกมา
ถ้าจะดูให้แน่ ต้องใช้สองหัวดีกว่าหัวเดียว ควรขอให้เพื่อนๆมาเป็นโค้ชช่วยดูและให้คำแนะนำเวลาแข่งด้วย
ถ้าอยากเอาชนะต้องตีให้แรงกว่า เร็วกว่า หมุนกว่า และแม่นยำ นักปิงปองต้องฉลาดเลือกใช้ระดับความแรงในการตีให้เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ด้วย ไม่เสมอไปว่าต้องออกแรงตีลูกปิงปองให้ข้ามเน็ต!!!
บ่อยครั้งที่ผมฝึกน้อคลูกไปมาแล้วอยากจะเข้าไปแนะนำวิธีตีเสียใหม่ เพราะคู่ซ้อมไม่รู้จักใช้ความแรงให้เหมาะสม ถ้าซ้อมกับมือใหม่มักพบว่าเขาตีลูกได้ค่อยมาก เอาแต่ยืมแรงของอีกฝ่ายที่ตีมากระเด้งลูกปิงปองกลับไป นั่นเป็นเพราะยังหาจังหวะการเหวี่ยงแขนไม่เป็นซึ่งเป็นที่เข้าใจทำใจกันได้ แต่พอซ้อมกับนักปิงปองที่เก่งขึ้น มักพบว่าพอโต้น้อคลูกปิงปองกันได้ไม่กี่ครั้งก็ชอบตีแรงสวนกลับ ไม่ก็จะ topspin หรือ loop กลับมา ถ้าตีได้แม่นยำก็พอรับได้ แต่นักปิงปองส่วนใหญ่ตียังไม่แม่นยำกันเลย เรียกว่า ตีแรงแบบมั่วๆ ต้องคิดปลอบใจตัวเองว่า "เขาคงไม่มีใครสอน หรือโค้ชของเขาคงสอนมาแบบนี้ ดีเหมือนกัน เราจะได้ฝึกตีเหมือนแข่งจริง"
การฝึกซ้อมปิงปองที่ดี ต้องเริ่มจากการเป็นคู่ฝึกซ้อมที่ดี เอาใจเขามาใส่ใจเรา ว่าไปแล้วเหมือนกับการแต่งงานที่ต้องอยู่กับคู่ชีวิตไม่มีผิด ถ้าต่างฝ่ายต่าง-ตี-แรงเข้าหากัน ย่อมตีโต้กันได้ไม่นาน หากฝ่ายหนึ่งอยากจะฝึกตีแรง คู่ซ้อมอีกฝ่ายต้องยอมเป็นฝ่ายป้อนลูกให้โดยการบล้อคหรือส่งลูกสวยๆให้ตามตำแหน่งและจังหวะการตีที่ตกลงกันไว้ ก่อนจะตีให้แรงขึ้นต้องฝึกจนสามารถตีแรงได้คุ้มกับแรงที่ออกไป
โค้ชจีนเน้นเรื่องการ control หรือสามารถควบคุมการตีให้เป็นไปตามที่ต้องการให้ได้ก่อน เด็กๆต้องเริ่มจากฝึกปรับหน้าไม้บล้อคลูกกลับไปให้ถูกทิศทาง พอเข้าใจเรื่องมุมหน้าไม้แล้วจึงค่อยๆฝึกออกแรงตีลูกไม่หมุน พอแม่นแล้วจึงเริ่มฝึกลูกหมุน ซึ่งต้องฝึกฟุตเวิร์คให้คล่องตามไปด้วย
ก่อนจะตีแรงๆ ต้องฝึกเคลื่อนตัวไปตั้งท่าเตรียมพร้อมแล้วก้าวเท้าเข้าหาลูก ไม่ใช่ว่าใช้วิธีวางเท้าไว้กว้างมากๆแล้วบิดตัวหรือเอื้อมมือตี ซึ่งช่วงแรกๆต้องฝึกตีช้าๆกันก่อนเพื่อมีเวลาให้กับนักปิงปองได้ฝึกฟุตเวิร์คตามได้ทัน ซึ่งเวลาในช่วงการเข้าหาลูกนี้นอกจากต้องฝึกประสานฟุตเวร์คให้เข้าจังหวะแล้ว ยังต้องฝึกปรับวงเหวี่ยงแขนให้กว้างขึ้นจะได้มีโมเมนตัมมากขึ้น และฝึกตีลูกให้คล่องทั้งจังหวะที่ลูกเพิ่งกระเด้งขึ้น จังหวะลูกสูงสุด และจังหวะที่ลูกตกด้วย จะเห็นได้ว่ายังมีอีกหลายอย่างที่ต้องปรับปรุงก่อนที่จะคิดตีแรงๆ พอถึงเวลาจะตีแรงๆน้อคลูกก็สามารถตีโต้กันได้แรงและเร็วมากทั้งๆที่ดูเหมือนไม่ได้ออกแรงอะไรมากนัก
ถ้าตีลูกแรงแล้วคู่ต่อสู้อาศัยความแรงของลูกที่คุณตีไปในการตีกลับมาโดยที่เขาไม่ต้องออกแรงย่อมเป็นการตีที่ไม่ฉลาด โดยเฉพาะลูกหมุนแบบ topspin ซึ่งคู่ต่อสู้ไม่ต้องออกแรงตีก็สามารถอาศัยแรงและความหมุนของลูกส่งกลับมาได้
การเสริฟที่ดีต้องใช้แรงพอดีที่ลูกจะหมดแรงและบังคับให้คู่ต่อสู้ต้องออกแรงของเขาเองตีกลับมา เว้นแต่จะเสริฟแรงและเร็วไปในทิศทางที่คาดไม่ถึงเพื่อหวังให้เขารับไม่ทัน
ก่อนจะออกแรงตีลูกแรงเพื่อทำคะแนน ควรใช้ความเร็วส่งลูกไปในทิศทางที่ทำให้คู่ต่อสู้ตีได้ลำบากแล้วเสียสมดุล
ใช้ความเร็วเอาชนะความแรง เป็นกลยุทธง่ายๆสำหรับเอาชนะคนที่ชอบตีแรง พอเขาตีแรงๆโดยเหวี่ยงแขนมาจากทางใด ให้รับลูกเร็วส่งลูกกลับไปในทิศทางเดิมที่เขาตีมาหรืออัดเข้าตัวทางด้านเดิม เพราะเขาตั้งหลักกลับมาไม่ทัน ถ้าทันก็ไม่สามารถควบคุมลูกได้ดีนัก
นักปิงปองที่ตั้งใจจะตีแรงๆมักถอยออกจากโต๊ะเพื่อหาเวลาเหวี่ยงแขนออกแรงได้เต็มที่ แต่ช่วงเวลาที่ถอยออกไปนั้นเองเป็นการให้จังหวะกับคู่ต่อสู้มีเวลาที่จะเตรียมพร้อมหรือบุกกลับเช่นกัน ดังนั้นหากจะฝึกตีแรงขึ้นต้องทำได้เร็วโดยไม่ต้องถอย ซึ่งจะโต้ตอบได้เร็วต้องตีกลับไปด้วยจิตใต้สำนึกซึ่งสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกายหลายส่วนได้พร้อมกัน หากใช้ความคิดจะคิดได้แต่เพียงเรื่องเดียวและคิดได้ช้ากว่าจิตใต้สำนึก
สมาธิ หมายถึง ความตั้งใจมั่นให้รู้ในสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงสิ่งเดียวได้ตลอดเวลา เมื่อเกิดสมาธิแล้วจะคิดพิจารณาเรื่องใดก็ย่อมทำได้ชัดเจนมากขึ้น หากไม่มีสมาธิจิตก็จะส่ายไปส่ายมาไปตามสิ่งเร้ารอบข้าง เกิดอารมณ์และแปรปรวนไปตามอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส หรือความคิดกังวล จึงยากที่จะมองเห็นคำตอบที่ถูกต้อง
ผู้เล่นกีฬาทุกประเภทต้องใช้สมาธิอยู่เสมอ แชมป์กอล์ฟพอเดินลงสนามเตรียมตัวจะหวดลูกจะมองเห็นภาพที่มีแต่ตัวเขากับสนามและหลุมที่ต้องตีไปเท่านั้น ไม่มีภาพและไม่มีเสียงของคนดูรอบข้าง ซึ่งปิงปองต้องอาศัยสมาธิยิ่งกว่ากอล์ฟอีกเพราะต้องตีลูกปิงปองโต้กันไปมา ไหนจะมีเสียงจากโต๊ะปิงปองและผู้ชมรอบข้าง มีคำตักเตือนจากกรรมการที่ไม่สบอารมณ์ ล้วนเป็นสิ่งที่รบกวนสมาธิทั้งสิ้น เวลาฝึกของนักปิงปองจีนจึงสั่งสอนให้ตีปิงปองต่อไปโดยไม่ต้องสนใจว่าจะมีลูกปิงปองของคนอื่นกระเด้งมาใต้โต๊ะหรือแม้จะมีใครเดินเข้ามามุดโต๊ะเก็บลูกก็ตาม
อุปสรรคของสมาธิ มี 5 อย่าง
- กามฉันทะ ได้แก่ ความอยากเอาชนะ อยากให้คู่ต่อสู้ตีกลับมาตามแผนที่คิดไว้ อยากให้สภาพแวดล้อมรอบตัวเป็นไปตามที่ตนต้องการ
- พยาบาท ได้แก่ การคิดเคียดแค้นถึงการพ่ายแพ้ของตนในอดีต ไม่พอใจที่คู่ต่อสู้ใช้มือปิดบังลูกเวลาเสริฟหรือเมื่อถูกกรรมการตักเตือน
- ถีนมิทธะ ได้แก่ ความหดหู่ท้อถอย เบื่อหน่ายหมดกำลังพอเจอกับนักปิงปองที่เก่งกว่า หรือตัวเองขาดพละกำลังไม่พร้อมที่จะแข่งขัน
- อุทธัจจกุกกุจจะ ได้แก่ ความฟุ้งซ่านรำคาญใจ คิดไปก่อนว่าคู่ต่อสู้ต้องตีกลับมาแบบนั้นแบบนี้ หรือคิดฝันไปตามสิ่งเร้ารอบข้าง
- วิจิกิจฉา ได้แก่ ความลังเลสงสัย ไม่มั่นใจว่าจะเล่นลูกหรือเดินเกมอย่างไร ไม่มั่นใจในพื้นฐานของตน
นักปิงปองต้องผ่านการฝึกฝนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เพื่อสร้างความมั่นใจในพื้นฐานความรู้ พละกำลัง และความสามารถของตัวเอง รู้จักวิธีตีปิงปองทุกแบบทั้ง drive, smash, push, flip, และ loop สามารถตีปิงปองได้ทั้งลูกสั้น ลูกยาว สูงกว่าเน็ต หรือต่ำกว่าเน็ต ฯลฯ
พอลงสนามให้ใช้สายตามองไม้คู่ต่อสู้ว่าเขาตีลูกมาอย่างไรเพื่ออ่านลูกหมุนให้ออก จากนั้นมองตามลูกที่ลอยข้ามมาจนกระทั่งลูกและไม้ของคุณกระทบกัน พอลูกลอยออกจากไม้ไปแล้วก็ไม่ต้องมองที่ลูกปิงปองต่อไปอีก แต่ให้มองที่ไม้คู่ต่อสู้แทน
กำหนดสมาธิมองไว้ที่ลูกปิงปองเท่านั้น อย่าแม้แต่คิดว่าลูกหมุนมาแบบใด เพราะไม่ว่าการคิดเรื่องใดก็ตามจะทำให้สมาธิเสียไป ให้กำหนดจิตไว้ที่ลูกปิงปอง ใส่ใจไว้ที่ลูกปิงปองแล้วตีกลับไปตามความรู้สึก
ห้ามคิดคาดการณ์ล่วงหน้าว่าคู่ต่อสู้จะต้องตีแบบนั้นแบบนี้หรือตีกลับมาทิศทางใด แต่ต้องอ่านลูกที่ตีกลับมาให้ออกแล้วตัดสินใจประกอบการตีโต้แต่ละทีเท่านั้น ต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็วมากๆจนเหมือนไม่ได้คิดซึ่งเกิดจากการฝึกฝนซ้ำไปซ้ำมาจนสามารถเลือกวิธีโต้กลับไปได้อย่างอัตโนมัติ เลือกทิศทางการตีกลับไปว่าจะส่งลูกโยกออกไปทางซ้ายหรือทางขวาสุดมือคู่ต่อสู้หรือจะตีอัดเข้าข้อศอกขวา (ให้ตีกลับไปในทิศทาง 3 ตำแหน่งนี้เป็นหลัก) ใช้ความเร็วหาจังหวะจนกว่าคู่ต่อสู้จะเสียสมดุล จึงตีกลับไปแรงๆเพื่อทำคะแนน
ทำจิตให้มีสมาธิอยู่กับปัจจุบัน ไม่เก็บแต้มที่เสียไปมาคิดกังวล ไม่คิดล่วงหน้า รู้จักปล่อยวางและยอมรับปัจจัยที่ตัวคุณควบคุมไม่ได้ ผ่อนคลายร่างกายทุกส่วน ตัดสินใจตามในการตีลูกแต่ละทีเท่านั้น
ระหว่างการฝึกพึ่งกาย 95% จิตเพียง 5% แต่เมื่อแข่งขันจะอาศัยกายเพียง 5% อาศัยจิตถึง 95% กว่าครึ่งในนั้นเริ่มต้นจากความมั่นใจ
ยุทธวิธีเอาชนะที่ดีต้องเสี่ยงน้อยที่สุดหรือไม่เสี่ยงเลย ต้องฉวยโอกาสทำคะแนนเมื่อมีโอกาสเปิดจังหวะให้เห็นชัดเจน วิธีหนึ่งคือการเล่นลูกเร็วจนคู่ต่อสู้ตีกลับมาไม่ทัน โดยเฉพาะการตีลูกตรงเร็วๆกลับไป เช่น พอคู่ต่อสู้ส่งลูกมาลงทางด้านโฟร์แฮนด์ของโต๊ะ คุณก็มักจะส่งลูกตรงกลับไปทางด้านแบ็คแฮนด์ของคู่ต่อสู้ เพราะเชื่อว่าเป็นด้านที่คนทั่วไปตีไม่ถนัด และเนื่องจากเป็นลูกตรงซึ่งมีระยะทางสั้นกว่าการตีทะแยงจึงใช้เวลาที่ลูกลอยข้ามไปน้อยมาก ไม่เปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้มีเวลาเตรียมตัว แต่ถ้าคู่ต่อสู้สามารถตีกลับมาได้ล่ะ รับรองว่าต้องเป็นภาระหนักของคุณอย่างแน่นอนยิ่งเขาตีลูกทะแยงกลับมาทางด้านแบ็คแฮนด์ของคุณ
แม้การตีลูกตรงจะทำให้คู่ต่อสู้ตั้งหลักไม่ทัน แต่ถ้าคู่ต่อสู้ตีลูกทะแยงมุมกลับมาได้ จะมีระยะทางที่คุณจะต้องฟุตเวิร์คขยับตัวไปหาลูกไกลกว่าปกติ (ระยะ B ตามภาพ) ยิ่งถ้าตีโฟร์แฮนด์จากด้านแบ็คแฮนด์ของโต๊ะตามแบบที่นักปิงปองถนัดโฟร์แฮนด์อย่างเดียวนิยมใช้กัน จะเปิดพื้นที่ของโต๊ะทางด้านโฟร์แฮนด์ไว้ให้ถูกบุกทำคะแนนได้ง่าย ต่อให้คุณสามารถก้าวเท้าฟุตเวิร์คไปตีโฟร์แฮนด์กลับมาได้แต่ยังเป็นลูกตรงกลับมาทางด้านแบ็คแฮนด์ของคู่ต่อสู้ เขาแค่ขยับตัวในระยะทางสั้นกว่า (ระยะ A ตามภาพ) ก็สามารถตีโยกทะแยงมุมกลับไปทางด้านแบ็คแฮนด์ของคุณทำให้วิ่งรับลูกจนหัวหมุนโดยที่คู่ต่อสู้ไม่ต้องขยับตัวมากนัก
นักปิงปองที่สามารถตีลูกทะแยงได้ดีกว่า จึงมักเป็นผู้ชนะ เพราะไม่ใช่แค่ระยะทางของการก้าวเท้าไปตีลูกจะสั้นกว่าเท่านั้น ระยะทางของลูกทะแยงมุมที่ลอยข้ามเน็ตไปยังช่วยเพิ่มโอกาสที่ลูกจะลงโต๊ะได้มากกว่าลูกตรง ให้ตีโต้ทะแยงมุมกันไปเรื่อยๆ พอได้จังหวะให้บุกด้วยลูกตรง
เริ่มแรกต้องอย่าเพิ่งคิดตีลูกตรงเป็นอันขาด ยิ่งถ้าคู่ต่อสู้สามารถตีลูกทะแยงมุมมายาวลงที่ปลายโต๊ะทำให้คุณลำบากที่จะโต้กลับได้ถนัด ต้องพยายามตีลูกทะแยงมุมกลับไปก่อนเพื่อลดความเสียเปรียบที่มีอยู่นั้น หรืออย่างน้อยที่สุดต้องตีลงกลางโต๊ะไว้ก่อน ถ้าคู่ต่อสู้ตีกลับมาจากกลางโต๊ะก็เป็นมุมที่โยกคุณได้ไม่มากนัก
พอตีทะแยงมุมกลับไปเรื่อยๆ พอคู่ต่อสู้ชะล่าใจคิดว่าคุณเอาแต่ตีทะแยงมุมก็จะเลิกขยับตัวกลับมาทั้งท่าเตรียมพร้อมบริเวณกลางโต๊ะเหมือนก่อน ให้ฉวยโอกาสนั้นตีลูกตรงไปอีกด้านของคู่ต่อสู้ที่ที่เปิดโล่ง โดยพยายามใช้โฟร์แฮนด์ตีลูกตรงมากกว่าที่จะตีด้วยแบ็คแฮนด์ (เนื่องจากการตีลูกตรงด้วยโฟร์แฮนด์มีลักษณะการวางเท้าที่พร้อมที่จะตีลูกต่อไปด้วยโฟร์แฮนด์ ส่วนการตีลูกตรงด้วยแบ็คแฮนด์มักต้องขยับเท้าขวาไว้ข้างหน้าหรือเบี่ยงตัวหันหน้าไปทางซ้ายทำให้ลำบากที่จะตีโฟร์แฮนด์ในลูกถัดไป)
อย่าลืมว่าลูกทะแยงมุมที่คุณเลือกใช้นั้นต้องเป็นการตีจากด้านที่คุณถนัดไปยังมุมที่คู่ต่อสู้เสียเปรียบ ถ้าเอาแต่ดวลแบ็คแฮนด์ที่มุมด้านแบ็คแฮนด์กันไปมาทั้งๆที่คุณถนัดโฟร์แฮนด์มากกว่าย่อมไม่ดีแน่ ต้องหาจังหวะย้ายมุมมาตีทะแยงด้านโฟร์แฮนด์ให้ได้ โดยตีแบ็คแฮนด์ให้ทะแยงมุมให้ลึกมากที่สุดแล้วรอจังหวะที่คู่ต่อสู้ตีลูกสั้นมาลงกลางโต๊ะ จึงตามด้วยการตีไปทางโฟร์แฮนด์ของคู่ต่อสู้ให้กว้างมากที่สุด
การตีลูกยาวลงเส้นสกัดนั้นสามารถเอาชนะได้ดีพอๆกับการตีแรงเลยทีเดียว พยายามฝึกตีลูกยาวลงปลายโต๊ะโดยไม่ต้องแรงนักเพื่อทำให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถใช้แรงที่คุณตีไปกระเด้งลูกสวนกลับมาได้ คู่ต่อสู้ต้องออกแรงตีลูกกลับมาซึ่งบ่อยครั้งเป็นลูกสั้นลงกลางโต๊ะ เปิดโอกาสให้คุณบุก
วิดีโอแสดงการเล่นเทนนิสต่อไปนี้อธิบายไว้ชัดเจน ดีกว่าวิดีโอเล่นปิงปองเสียอีก
แต่ถ้าส่งลูกไปไม่ลงปลายโต๊ะและเยื้องออกมาจากมุมโต๊ะไม่ได้ทะแยงเข้ามุมอย่างที่ตั้งใจไว้ จะกลับกลายเป็นว่าคุณกลายเป็นคนถูกโยก และระยะทาง (A) ที่คุณต้องขยับเท้าเข้าหาลูกกลับมากกว่าเดิมเสียอีก ตามภาพด้านล่างนี้
หากคุณถูกโยกจนหัวหมุนจะแก้ปัญหานี้อย่างไร สมมติว่าถูกโยกไปทางสุดโต๊ะด้านขวา จะโต้กลับไปในทิศทางไหนดี
- ถ้าโต้กลับไปด้วยลูกสั้นลงกลางโต๊ะ ไม่ว่าจะส่งกลับไปทางไหนก็ไม่ดีทั้งนั้น เพราะลูกสั้นของคุณไม่ได้ช่วยถ่วงเวลาให้คุณมีเวลาพอที่จะกลับมาตั้งหลักใหม่ และยังเป็นการเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้มีมุมโยกกลับได้กว้างมาก
- ถ้าโต้กลับไปด้วยลูกยาวตรงลงโต๊ะด้านแบ็คแฮนด์ของคู่ต่อสู้ คุณจะถูกโยกกลับมาที่โต๊ะฝั่งของคุณทางด้านแบ็คแฮนด์ ยากที่จะวิ่งกลับมารับทัน
- ถ้าโต้กลับไปด้วยลูกยาวทะแยงมุมลงโต๊ะด้านโฟร์แฮนด์ของคู่ต่อสู้ ถ้าถูกตีตรงกลับมาที่โต๊ะฝั่งของคุณทางด้านแบ็คแฮนด์ จะวิ่งกลับมารับทันได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าคู่ต่อสู้ตีทะแยงมุมมาทางโต๊ะด้านโฟร์แฮนด์ของคุณ จะโยกคุณให้วิ่งไปทางขวาได้มากกว่าเดิม
- ถ้าโต้กลับไปด้วยลูกยาวตรงลงกลางโต๊ะของคู่ต่อสู้ มุมที่คู่ต่อสู้โยกกลับมาที่โต๊ะฝั่งของคุณจะลดลงทั้งสองด้าน
การวางเท้าขนานกับโต๊ะช่วยทำให้สามารถตีโฟร์แฮนด์สลับกับแบ็คแฮนด์ได้สะดวกขึ้นเพราะไม่ต้องพะวงกับการเปลี่ยนการวางเท้าและเคลื่อนตัวในแนวขนานกับโต๊ะได้รวดเร็ว แต่หากถูกโยกซ้ายขวาผสมกับการวางลูกสั้นบ้างยาวบ้างแล้วจะเสียสมดุลได้ง่าย ถ้าสังเกตการเล่นของแชมป์จะพบว่าไม่ได้ตีลูกได้แรง เร็ว แม่นยำ และหมุนมากๆเท่านั้น เขายังวางลูกสั้นบ้างยาวบ้างอีกด้วย หรือตีลูกแรงบ้างค่อยบ้างเพื่อทำลายจังหวะการตีของคู่ต่อสู้
ระหว่างทางเลือกการส่งลูกสั้นกับยาวนั้น ควรส่งลูกสั้นก่อนแล้วจึงบุกด้วยลูกยาว เพราะโดยทั่วไปนักปิงปองจะถนัดก้าวเท้าเคลื่อนตัวเข้าหาโต๊ะมากกว่าก้าวเท้าถอยหลังออกจากโต๊ะ พอก้าวเท้าเข้ามาใกล้โต๊ะแล้วก็จะรีบก้าวเท้าถอยกลับไปเตรียมตัวตั้งรับในตำแหน่งเดิมเสมอ ดังนั้นถ้าถูกโยกลูกยาวไปที่มุมใดมุมหนึ่งซึ่งไกลกว่าตำแหน่งเตรียมพร้อมที่เขาตั้งใจไว้ จะตีลูกกลับมาไม่ได้แรงเท่าที่ควรจะเป็น
คิดในแง่ตรงกันข้าม ถ้าส่งลูกยาวไปก่อนแล้วตามด้วยลูกสั้นหยอดลงหน้าเน็ต คู่ต่อสู้มีโอกาสก้าวเท้าเข้ามารับลูกหยอดได้ไม่ยากนักเพราะเมื่อเขาตีลูกยาวแล้วมักก้าวเท้าเข้าใกล้โต๊ะเสมอเพื่อเตรียมบุก ดังนั้นหากต้องการส่งลูกยาวไปก่อนแล้วตามด้วยลูกสั้น ก็ควรส่งลูกที่ยาวจริงๆไปลงที่เส้นสกัดเพื่อทำให้คู่ต่อสู้ถอยไกลจากโต๊ะมากที่สุดแล้วจึงตามด้วยลูกสั้นหยอดลงหน้าเน็ตในอีกด้านหนึ่งซึ่งมีระยะห่างจากการตีลูกที่แล้วไกลที่สุด
หมั่นสังเกตวิดีโอการแข่งขันให้ละเอียด เมื่อใดที่เห็นแชมป์ตีลูกไม่ลงโต๊ะ ต้องย้อนเทปดูหาสาเหตุให้ชัดว่าด้วยเหตุใดเขาจึงตีไม่ได้ดังใจ
นักปิงปองต้องฝึกฟุตเวิร์คที่เคลื่อนตัวในทุกทิศทางให้คล่อง โดยเฉพาะการเคลื่อนเท้าเข้ามาตีลูกแบ็คแฮนด์ใกล้โต๊ะทางด้านซ้ายแล้วเคลื่อนตัวไปตีลูกยาวทางด้านโฟร์แฮนด์ไกลโต๊ะทางด้านขวา หรือกลับกัน
ส่วนใหญ่เรามักชอบดูการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเพราะเชื่อว่าต้องสนุกเมื่อคู่ต่อสู้มีฝีมือสูสีกัน แต่สำหรับการศึกษาแผนการเล่นหรือกลยุทธที่นักกีฬาแต่ละคนใช้นั้น ควรศึกษาจากการแข่งขันในรอบที่คู่ต่อสู้เหนือชั้นกว่ามากๆด้วย จะได้เปรียบเทียบให้เห็นได้ชัดเจนว่า ทำไมอยู่ดีๆ แชมป์ระดับประเทศที่เอาชนะใครต่อใครได้หมดแต่เมื่อเจอกับแชมป์ระดับโลกแล้วกลับเล่นไม่ออก
Marko Jevtovic เป็นแชมป์ปิงปองของประเทศเซอเบีย มาดูวิดีโอที่เขาเอาชนะใครต่อใครได้กัน
คราวนี้เมื่อเขาแข่งกับ Ma Long ทำไมจึงเล่นได้ไม่เหมือนเคย
ชมวิดีโอการแข่งขันแบบเต็มๆ
อาการเกร็งมักเกิดขึ้นเมื่อลงแข่งขันและจะเกร็งมากขึ้นเมื่อต้องเจอกับคู่ต่อสู้ที่เหนือกว่า แต่แชมป์ที่ลงแข่งขันมานับครั้งไม่ถ้วนอย่าง Marko กลับพยายามสู้ Ma Long อย่างสุดฤทธิ์อาจเป็นเพราะรู้อยู่แล้วว่าอย่างไรก็สู้ไม่ไหว ขอสู้อย่างเต็มที่สุดกำลังก็แล้วกัน ซึ่งทั้งสองอาการทั้งแบบเกร็งเล่นไม่ออกกับพยายามเล่นให้เต็มที่ย่อมทำให้ตีได้ไม่เหมือนเดิม
เมื่อวิเคราะห์การเล่นจากวิดีโอแรก พบว่า Marko สามารถเล่นทุกลูกได้สบายๆ ไม่ต้องเอี้ยวตัว ไม่มีจังหวะที่ต้องวิ่งไปตีลูกที่ไม่คาดคิด ส่วนใหญ่ต้องตีกันไปมาหลายครั้งจนถึงไม้ 5 ไม้ 7 จึงทำคะแนนเอาชนะคู่ต่อสู้ แสดงว่าแต่ละลูกที่ตีออกไปไม่มีความรุนแรงหรือหมุนมากนัก ใครที่อึดกว่าหรือบุกก่อนก็เอาชนะไป
แต่เมื่อพบกับ Ma Long สังเกตว่า Marko แทบไม่มีจังหวะให้บุกก่อน ต้องเอี้ยวตัวหรือวิ่งตีลูกที่ถูกโยกอย่างไม่คาดคิดบ่อยครั้ง หลายลูกบล้อคติดเน็ตหรือบล้อคไม่อยู่ นั่นเป็นเพราะ Ma Long สามารถตีลูกทุกลูกได้อย่างแม่นยำ อัดลูกเข้าตัวทางซ้ายแล้วย้ายมาอัดลูกชิดตัวทางขวา ใช้ยุทธวิธีตีลูกอัดเข้าตัวเป็นหลักหรือส่งลูกให้บุกโฟร์แฮนด์ได้แบบไม่ถนัดแล้วอัดลูกเข้าตัว สลับกับเล่นลูกหยอดสั้นแล้วโยกไกล หลายครั้งที่ Marko ต้องผงะเพราะเจอลูกที่ตีมาแรงๆยาวๆแล้วต่อมากลับต้องรับลูกที่สั้นกว่าค่อยกว่าเดิม หรือไม่ก็เจอ Dummy Loop ที่นึกว่าหมุนแต่กลับเป็นการยกลูกกลับมาเฉยๆเลยบล้อคติดเน็ต
ถ้าแข่งกับ JO ใครจะชนะ
เว็บ Table Tennis Tip มีส่วนกระตุ้นให้นักปิงปองเริ่มสนใจวิทยาศาสตร์การกีฬามากขึ้น สังเกตว่าโค้ชปิงปองหลายคนเริ่มต่อท้ายการแนะนำตัวเองด้วยคำว่าวิทยาศาสตร์การกีฬา แม้แต่สมาคมเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทยก็จัดอบรมวิทยาศาสตร์การกีฬาให้นักปิงปองที่สนใจเมื่อไม่นานมานี้ อนาคตของกีฬาปิงปองไทยดูสดใสมากขึ้น แทนที่จะเล่นกันแบบท่องจำหรือตีตามกันไปเรื่อยๆ เดี๋ยวนี้หันมาใช้เหตุผลมากขึ้น เริ่มถามว่าทำไม เพราะอะไร เพื่ออะไร ที่ไหน เมื่อใด จังหวะใด
ผมสนใจทฤษฎีหรือหลักวิทยาศาสตร์ของกีฬาปิงปองตั้งแต่เริ่มเล่นปิงปองใหม่ๆ ยุคนั้นต้องอ่านตำราเทนนิสกับตำราวิทยาศาสตร์ของจริง จึงเข้าใจว่าการหมุนของลูกปิงปองมีผลต่อวิถีที่ลูกลอยไปและมุมกระเด้งขึ้นของลูกอย่างไร ช่วยทำให้อ่านลูกที่คู่ต่อสู้ตีมาได้ดีขึ้นแทนที่จะดูจากท่าทางการตีหรืออ่านจากสีของยางปิงปองที่ใช้ตีมา พอมาถึงวันนี้อินเตอร์เน็ตช่วยทำให้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ของกีฬาปิงปองได้ง่ายขึ้นมาก ถ้าใครอ่านภาษาจีนออกจะได้เรียนรู้อะไรๆอีกมากมายเพราะจีนได้ทำการศึกษาวิทยาศาสตร์ของกีฬาปิงปองมากกว่าชาติใด
วิทยาศาสตร์เป็นความรู้ที่คนเราค้นพบ เมื่อมีเครื่องมือที่ดีขึ้นช่วยทำให้ศึกษาได้ละเอียดและชัดเจนมากขึ้น ก็จะทำให้ความรู้ใหม่ๆมากขึ้น สิ่งที่เคยคิดว่าจริงอาจไม่จริงตามที่เคยคิดไว้ก็ได้ ดังนั้นอย่ายึดติดกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ว่าต้องถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์เสมอไป โดยเฉพาะเรื่องธรรมชาติของคนที่ยังมีข้อถกเถียงกันอยู่เสมอว่าต้องออกกำลังอย่างนั้นอย่าใช้กล้ามเนื้อแบบนี้ดีที่สุด โค้ชจีนบางคนไม่สนใจการสร้างเสริมกล้ามเนื้อด้วยซ้ำไปเพราะเขาเชื่อว่าการเอาชนะได้นั้นขึ้นกับความฉลาดของนักปิงปองมากกว่า
แม้ปิงปองจะเล่นกันเร็วจนไม่ต้องคิด แต่ที่ไม่ต้องคิดนั้นเกิดจากการฝึกฝนให้คิดจนชำนาญต่างหาก พอเกิดเหตุการณ์ซ้ำตามแบบที่เคยฝึกมาก็สามารถตีโต้กลับไปได้ทันทีโดยไม่ต้องคิดอีก เหมือนกับถามว่า 2 คูณ 3 เป็นเท่าใด ซึ่งทุกคนตอบได้ทันทีว่าเท่ากับ 6 เพราะจำกันมาจนไม่ต้องคิดแล้ว แต่ถ้าถามใหม่ว่า 7 คูณ 13 เป็นเท่าใด คราวนี้ก็ต้องเสียเวลาคิดแล้วใช่ไหม ดังนั้นโค้ชปิงปองต้องรู้จักสร้างสถานการณ์หลายๆแบบในการฝึก อย่าปล่อยให้นักปิงปองลงแข่งแล้วต้องไปเจอกับสถานการณ์ที่ตัวเองเพิ่งพบเป็นครั้งแรก
เล่นปิงปองจะสนุกขึ้นมากเมื่อรู้จักอ่านท่าทางของคู่ต่อสู้ที่ทำจนเป็นนิสัย เช่น
- ถ้าเขาโยนลูกเสริฟสูงหรือเหวี่ยงแขนกว้างๆ คาดการณ์ได้ว่าเป็นลูกยาว
- ถ้าเสริฟด้วยแบ็คแฮนด์ มักเป็นลูกสั้น
- ถ้าโยนลูกสูงหน่อย จะหมุนมากหน่อย
- ในจังหวะอัดแรง ถ้าเขาหันไหล่ซ้ายชี้ไปทางใด ก็จะตีลูกไปทิศทางนั้น
- เมื่อคุณเสริฟหยอดไปทางโฟร์แฮนด์ เขาก็จะตีกลับมาทางแบ็คแฮนด์
- ถ้าเขาแลบลิ้น เม้มปาก หรือใช้หางตาเหลือบไปมองทางใด เขามักจะตีลูกหนักและส่งไปอีกทิศหนึ่ง
การคาดการณ์ส่วนสำคัญมาจากผลการกระทำของตัวเอง เช่น พอเสริฟหรือส่งลูกเร็วไปทางแบ็คแฮนด์ของคู่ต่อสู้ เขามักจะโต้กลับมาลงทางแบ็คแฮนด์ของเรา หรือถ้าตีลูกยาวไปทางโฟร์แฮนด์ของคู่ต่อสู้จนเขาเคลื่อนตัวไปจนสุดมุมด้านโฟร์แฮนด์ของเขา ก็มักจะตีโต้กลับมาทางโฟร์แฮนด์ของเราหรือหากเขาส่งลูกตรงมาทางแบ็คแฮนด์ของเราอย่างไรก็ตามย่อมมีวิถีของลูกปิงปองเฉียงมาทางโต๊ะด้านโฟร์แฮนด์ พอคาดการณ์ได้เช่นนี้ก็ต้องขยับตัวไปรอไว้ก่อนทางด้านนั้น ไม่ใช่ว่ารอให้เห็นลูกกระเด้งออกจากไม้แล้วจึงขยับตัวตาม
นอกจากนี้ถ้าเสริฟลูก topspin หรือ sidespin คู่ต่อสู้มักจะรับกลับมาแบบ topspin มากกว่า backspin ดังนั้นไม้สามก็เตรียมบุกกลับโดยไม่ต้องห่วงว่าเขาจะหมุนลูกตัดแบบ backspin หนักๆมาให้เราตีติดเน็ต
ตอนเพิ่งเริ่มเล่นปิงปองใหม่ๆ วิธีทำคะแนนที่ได้ผลมักเริ่มจากเสริฟกิน โดยเฉพาะท่าเสริฟแบบฟันเฉียงลงไปตรงๆที่เรียกว่า Tomahawk เป็นท่าเสริฟที่เหมาะสำหรับเด็กๆที่ตัวยังไม่สูง พอเสริฟไปแล้วจะตามด้วยตบโฟร์แฮนด์เพราะลูกที่รับกลับมาจะลอยโด่งมาทางด้านขวาสะดวกที่จะตามด้วยลูกตบในไม้สาม จากนั้นจะเสริฟแปลกๆอีกสารพัดแบบเพื่อหาทางจบเกมให้เร็วที่สุด ไม่ต้องเสียเวลาโต้กันไปโต้กันมา
พอเริ่มเล่นลูกหมุนเป็น จะจิ้มแบคสปินหนักๆให้คู่ต่อสู้รับติดเน็ต หรือท้อปสปินหมุนเยอะๆให้รับแล้วลอยออกไปไม่ลงโต๊ะ บางทีก็ปั่นลูกหมุนข้างให้ลอยโค้งข้ามเน็ต ถ้าคู่ต่อสู้โต้กลับมาได้ก็จะพยายามบุกกลับไปให้แรงและเร็วที่สุด
วิธีการเอาชนะแบบนี้เป็นวิธีเอาชนะแบบง่ายๆ ใช้กับนักปิงปองมือใหม่ที่ยังไม่คุ้นกับลูกหมุน รับเสริฟไม่เก่ง อ่อนซ้อม ไม่เคยฝึกบล้อคลูกหมุนท้อปสปิน ฝึกจิ้มหรือ push มาน้อยมาก และส่วนใหญ่จะอ่อนด้านแบคแฮนด์ นักปิงปองมือใหม่จึงชอบตีลูกเข้าด้านแบคแฮนด์ของคู่ต่อสู้ไว้เสมอ โดยไม่ได้คิดให้ดีว่าถ้าตัวเองอ่อนด้านแบคแฮนด์ด้วย ลูกที่คู่ต่อสู้โต้กลับมาจากด้านแบคแฮนด์ของเขามักส่งข้ามเน็ตกลับมาในทิศทางเดิม ทำให้เราตีแบคแฮนด์เสียได้เช่นกัน กลายเป็นเกมการแข่งขันที่ต่างฝ่ายต่างแย่งกันตีเสีย
แทนที่จะเอาแต่โจมตีด้านแบคแฮนด์หรือต้องออกแรงตีลูกแรงหมุนมากๆ ควรหาทางทำให้คู่ต่อสู้อ่อนแรงอ่อนใจลงก่อน โดยส่งลูกที่เขาต้องคิดมากขึ้นหรือขยับตัวมากขึ้น เริ่มจากส่งลูกไปลงตรงข้อศอกขวาของเขาเพื่อทำให้คู่ต่อสู้ต้องคิดตัดสินใจว่าจะเลือกตีกลับไปด้วยโฟร์แฮนด์หรือแบคแฮนด์ดี ส่งลูกซ้ำไปที่จุดเดิมนี้หลายๆครั้ง จากนั้นตีโยกไปสุดปลายโต๊ะด้านขวาให้เขาเลื่อนตัวตามไปแล้วจึงตีไปลงสุดปลายโต๊ะทางด้านแบคแฮนด์
คนทั่วไปมักอ่อนด้านแบคแฮนด์จึงตั้งท่ายืนคุมตำแหน่งที่ตัวเองอ่อนที่สุดไว้อยู่แล้ว ทำให้ยังถนัดที่จะตีโต้แบคแฮนด์กันไปมา แต่พอเคลื่อนตัวไปไกลจากตำแหน่งยืนเดิมจะเริ่มตีไม่ถนัด
ยุทธวิธีสร้างจุดอ่อนใช้ได้กับด้านที่คู่ต่อสู้แข็งได้เช่นกัน คนทั่วไปถนัดตีโฟร์แฮนด์มากกว่าด้านแบคแฮนด์ แต่ส่วนใหญ่จะตีโฟร์แฮนด์ได้ดีต่อเมื่อมีระยะห่างของลูกกับลำตัวพอดีกับที่เคยซ้อมมา หากต้องตีโฟร์แฮนด์ลูกใกล้ตัวหรือไกลตัวจะตีไม่ถนัด ทำให้ไม่สามารถตีโฟร์แฮนด์ลูกต่อๆไปได้ดีนัก หรือเมื่อจะตีโฟร์แฮนด์ก็ต้องถอยห่างจากโต๊ะมากขึ้นและตีลูกช้าลงทำให้ตีลูกสั้นต่อมาไม่ถนัด
ตำแหน่งที่ใช้สร้างจุดอ่อน
- สำหรับคู่ต่อสู้ที่จับไม้แบบสากล ให้ส่งลูกไปที่ข้อศอกขวา
- สำหรับคู่ต่อสู้ที่จับไม้จีน ให้ส่งลูกไปไกลสุดทางด้านขวา
- ถ้าคู่ต่อสู้ชอบยืนที่มุมแบคแฮนด์เพื่อใช้โฟร์แฮนด์ ให้ตีลูกตรงไปทางโฟร์แฮนด์ของเขาด้วยแบคแฮนด์
- ถ้าคู่ต่อสู้ยืนตีแบคแฮนด์ตรงกลางโต๊ะ ให้ตีลูกไปทางโฟร์แฮนด์กลางๆของเขาแล้วโยกไปทางแบคแฮนด์
ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อสามารถตีลูกไปลงยังตำแหน่งที่ต้องการได้แล้วเท่านั้น สามารถตีได้แม่นยำในระยะผิดพลาดไม่เกิน 6 นิ้วแม้ตัวเองต้องเคลื่อนตัวไปมาก็ตาม
ปิงปองเป็นกีฬาที่เห็นกฎแห่งกรรมได้ชัดที่สุด นักปิงปองหลายคนอยากชนะจนไม่ได้สังเกตว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไปนั้นเป็นการทำร้ายตัวเองเช่นกัน เริ่มตั้งแต่การเสริฟที่เหวี่ยงไม้ขยับร่างกายมากเกินไป พอส่งลูกออกไปแล้วร่างกายเสียสมดุลย์แค่นั้นยังไม่พอแต่ผู้เสริฟเองกลับต้องรับลูกที่คู่ต่อสู้รับกลับมาไม่ถนัดเสียอีก
ถ้าเสริฟสั้นเพราะไม่ต้องการให้คู่ต่อสู้เปิดเกมบุกขึ้นก่อน แต่เสริฟสั้นเกินไป คู่ต่อสู้ก็อาจหยอดสั้นกลับมาทำให้บุกไม้สามไม่ได้ ตัวผู้เสริฟเองนั้นแหละที่จะกลายเป็นฝ่ายตั้งรับเพราะถ้าใช้ไม้และยางที่กระเด้งมากๆ ย่อมยากที่จะควบคุมระยะเมื่อต้องหงายหน้าไม้รับลูกสั้นบนโต๊ะ
ถ้ายืนเสริฟล้นออกไปทางขอบโต๊ะด้านซ้ายเพื่อเลียนแบบนักปิงปองจีนแต่ไม่สามารถเคลื่อนตัวกลับมาได้รวดเร็ว คู่ต่อสู้สามารถรับกลับมาอีกด้านที่เปิดโล่งหรือตีย้อนกลับมาทางเดิมเพื่ออัดเข้าชิดลำตัวผู้เสริฟที่กำลังหมุนตัวกลับมาเตรียมพร้อมไม่ทัน
ที่เห็นกรรมตามสนองบ่อยครั้งที่สุดเกิดจากการเลือกลูกเสริฟที่หมุนไปแล้วได้หมุนกลับมาทำร้ายตัวเอง เช่น เสริฟแบ็คสปินสั้นๆซึ่งคู่ต่อสู้ก็ต้องรับแบบแบ็คสปินกลับมาแต่ตัวผู้เสริฟเองท้อปสปินกลับไปไม่เป็น หรือเสริฟหมุนข้างแล้วคู่ต่อสู้ผลักลูกหมุนข้างแบบเดิมกลับมาซึ่งผู้เสริฟจะกลายเป็นคนต้องรับการหมุนที่ตัวทำไปกลับมา ถ้ารับลูกหมุนแบบนี้ไม่เป็นก็จะตีไม้สามออกนอกโต๊ะเสียเอง
ช่วงหลังนี้เห็นหลายคนพยายามตีแบ็คแฮนด์ฟลิกแบบ chiquita โดยเคลื่อนตัวมาตีทางด้านขวาของโต๊ะ ท่าตีนี้ถ้าเคลื่อนตัวกลับมาตั้งรับไม่ทันจะกลายเป็นผลเสียมากกว่าผลดี หรือถ้าตีกลับไปไม่หมุนแรงมากพออาจถูกผลักลูกกลับมาเร็วๆก็ตีกลับไปได้ยากแล้วเพราะมักตั้งหลักเตรียมพร้อมไม่ทัน ทิศทางที่ดีที่สุดของการตีท่านี้ต้องส่งลูกกลับไปที่มุมโต๊ะให้ได้เพราะคู่ต่อสู้มักตีสวนทางกลับมาในทิศทางเดิมที่คาดการณ์ได้
คนที่ชอบตีโยกคู่ต่อสู้แต่ไม่สามารถส่งลูกปิงปองไปลงปลายโต๊ะ ลูกที่ข้ามเน็ตไปแล้วลงกลางโต๊ะย่อมเปิดมุมให้คู่ต่อสู้โยกกลับมาในมุมที่ฉีกออกด้านข้างโต๊ะได้ง่ายมาก
เกมปิงปองทุกวันนี้มักใช้ความเร็วสยบคู่ต่อสู้ที่ช้ากว่า ถ้าเหวี่ยงแขนหรือขยับตัวมากไปก็จะย้อนกลับมาตีลูกถัดไปไม่ถนัด ลูกที่บุกไปที่ตัวเองนึกว่าเร็วและแรงมากแล้วก็มักจะถูกบุกสวนกลับมา ดังนั้นหากยังไม่แน่ใจว่าจะพิชิตได้คะแนนในไม้นั้นก็ควรสงวนแรงเก็บไว้รอใช้กับลูกที่คู่ต่อสู้เสียหลักซึ่งมั่นใจว่าเอาชนะได้แน่ๆ
ลูกหมุนทำให้ปิงปองเป็นกีฬาที่เล่นยากกว่ากีฬาประเภทอื่น โดยเฉพาะเวลาเสริฟที่สามารถพลิกแพลงท่าทางและจังหวะได้ตามใจจนคู่ต่อสู้ยากจะอ่านออกว่าหมุนมาแบบใดและหมุนมากน้อยเพียงใด สุดท้ายต้องถึงขั้นมองตรายี่ห้อบนลูกจึงจะพออ่านการหมุนออก ซึ่งไม่เพียงจังหวะเสริฟเท่านั้นที่จะได้ประโยชน์จากการหมุนได้เต็มที่ นักปิงปองที่เก่งสามารถสร้างการหมุนแปลกได้ทุกไม้ หากอ่านการหมุนไม่ออกก็จะเสียการควบคุมทิศทาง
- ไม้ 1 เสริฟแบบ pendulum เคลื่อนไม้จากขวาไปซ้าย ลูกจะหมุนตามเข็มนาฬิกา
- ไม้ 2 ถ้าคู่ต่อสู้ใช้ยางเรียบรับแบบแตะมาเบาๆ ลูกปิงปองเมื่อกระทบไม้จะหมุนกลับทิศทางกลับมา กลายเป็นลูกหมุนทวนเข็มนาฬิกา ซึ่งถ้าผู้เสริฟรับไม่เป็นจะรับออกไปทางซ้ายมือ
- ไม้ 3 ผู้เสริฟใช้แบ็คแฮนด์ปั่นลูกจากซ้ายไปขวาและควบคุมให้ลูกกลับไปทางขวามือชิดตัวคู่ต่อสู้ ลูกปิงปองจะยังคงหมุนทวนเข็มนาฬิกา ตามทิศทางเดียวกับที่คู่ต่อสู้โต้กลับมาแต่จะหมุนมากขึ้นเสียอีก
- ไม้ 4 คู่ต่อสู้จะถูกลูกหมุนที่ส่งมาชิดลำตัวแล้วมักกระเด้งออกไปทางขวามือหรือไม่ลงโต๊ะเสียด้วยซ้ำ
นักปิงปองต้องอ่านการหมุนของคู่ต่อสู้ให่ออกว่าเขาพยายามส่งลูกที่หมุนมากกว่าลูกที่เราส่งไปให้หรือไม่ ตามปกติถ้าใช้ยางเรียบจะทำให้ลูกหมุนสวนกลับทิศทางกลับมาเว้นแต่ว่าเขาออกแรงให้หมุนมากกว่าลูกที่เราส่งไป
ส่วนถ้ารับด้วยยางเม็ดจะได้ลูกหมุนตามทิศทางเดิมกลับมา เช่น ถ้าเสริฟแบ็คสปินไปให้รับด้วยยางเม็ด ลูกจะยังคงกระเด้งกลับมาและหมุนในทิศทางเดียวกันกับตอนเสริฟไป เพียงแต่จะกระดอนกลับมาเป็นท้อปสปินกลับมาหาผู้เสริฟ ทำให้ผู้เสริฟต้องปิดหน้าไม้รับกลับไป หรือถ้าท้อปสปินไปหายางเม็ดจะยังคงหมุนในทิศทางเดิมกระเด้งกลับมาเป็นแบ็คสปิน กลายเป็นลูกที่ทำร้ายผู้ที่ท้อปสปินเสียเอง
นักปิงปองมือใหม่มักตอบไม่ได้ชัดนักว่าที่ตัวเองแข่งแล้วชนะหรือแพ้นั่นเป็นเพราะอะไร ต่างจากแชมป์ที่วางแผนการเล่นมาอย่างดี มีการวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนของคู่ต่อสู้เทียบกับจุดแข็งจุดอ่อนของตัวเอง เช่น ถ้าคู่ต่อสู้ชอบยืนชิดโต๊ะ ชอบเล่นลูกเร็วระยะสั้น โยกเก่ง จะส่งลูกไปลงกลางโต๊ะหรือกลางตัว หรือจะส่งไปตำแหน่งไหนก่อนกันดี
การส่งลูกยาวเข้ากลางตัวของคู่ต่อสู้ต้องส่งลูกไปให้ชิดตัวทางด้านมือที่จับไม้ เพราะจะทำให้คู่ต่อสู้ตีได้ลำบากและต้องเสียเวลาคิดว่าจะโต้กลับมาโดยใช้โฟร์แฮนด์หรือแบ็คแฮนด์ โดยทั่วไปถ้ากำลังโต้แบ็คแฮนด์กันอยู่ก็มักจะโต้ลูกกลางตัวกลับโดยใช้แบ็คแฮนด์ แต่ถ้าลูกก่อนหน้านั้น คู่ต่อสู้กำลังใช้โฟร์แฮนด์ก็มักจะฉากตัวออกไปตีลูกกลางตัวด้วยโฟร์แฮนด์ ซึ่งการเคลื่อนตัวฉากออกไปนี่แหละที่จะช่วยทำให้คู่ต่อสู้ต้องถอยห่างจากโต๊ะและเปิดพื้นที่ด้านโฟร์แฮนด์ของเขามากขึ้น เป็นช่องโหว่ให้เราส่งลูกโยกไปสุดทางด้านโฟร์แฮนด์ของเขา
การส่งลูกไปในทิศทางใดต้องทำให้สอดคล้องกับตำแหน่งยืนของคุณเองเสมอ ถ้ากำลังยืนอยู่ทางด้านโฟร์แฮนด์ตามภาพข้างบนนี้แต่ส่งลูกยาวและตรงไปลงด้านแบ้คแฮนด์ของคู่ต่อสู้ ถ้าเขาโยกกลับมาทางด้านแบ็คแฮนด์ของคุณตามเส้นสีส้มก็จะโยกได้ในมุมที่กว้างมากยากที่จะวิ่งกลับไปรับทัน แต่ถ้าเผลอส่งลูกสั้นไปลงกลางโต๊ะยิ่งมีมุมให้ถูกโยกไกลมากขึ้นอีกตามเส้นสีแดง
ถ้าคู่ต่อสู้ชอบโยกหรือเล่นทางเก่งมาก หรือคุณกำลังตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบ คุณก็ควรยืนในตำแหน่งที่ตรงกับกลางโต๊ะและส่งลูกยาวไปลงกลางโต๊ะ เนื่องจากคุณยืนอยู่ตรงกลางโต๊ะจึงช่วยทำให้ไม่ต้องขยับตัวมากนักไม่ว่าทางซ้ายหรือขวาเพื่อไปรับลูกโยกตามเส้นสีเขียว แต่คุณต้องถนัดเล่นทั้งโฟร์แฮนด์และแบ็คแฮนด์พอๆกันด้วย
นักปิงปองที่เก่งต้องฉลาดวางแผนการเล่นด้วย ไม่ใช่ว่าคิดเอาแต่แรงหรือหมุนกว่าอย่างเดียว
ปิงปองมียุทธวิธีเอาชนะที่ไม่ต่างจากการต่อสู้แบบประชิดตัว ไม่ว่าจะเป็นต่อยมวย ยูโด มวยปล้ำ หรือซูโม่ ซึ่งใช้หลักทำให้คู่ต่อสู้ต้องขยับตัวจนเสียสมดุลแล้วจึงจู่โจมทำคะแนน โดยในการแข่งปิงปองนั้น ยิ่งยืนไกลโต๊ะมากขึ้นเท่าใด ก็จะถูกตีโยกได้มากขึ้นเท่านั้น พอถูกโยกไปโยกมาก็ยังไม่หนักใจนัก แต่ถ้าต้องขยับตัวเข้าหรือออกจากโต๊ะ ก็มักจะโทษหาว่าเป็นเพราะฟุตเวิร์คไม่ดี ทั้งๆที่เกิดจากการฝึกฝนตีลูกต่างจังหวะกันไม่เป็นต่างหาก
เมื่อลูกปิงปองที่ลอยข้ามเน็ตมากระเด้งที่โต๊ะฝั่งเรา วิถีของลูกที่กระเด้งแบ่งเป็น 3 จังหวะ
- จังหวะที่ 1 เป็นช่วงที่ลูกเพิ่งกระเด้งขึ้นมีระยะความสูงมากกว่าหรือเท่ากับเน็ตขึ้นไป
- จังหวะที่ 2 เป็นช่วงที่ลูกกระเด้งสูงสุด
- จังหวะที่ 3 เป็นช่วงที่ลูกเริ่มวิ่งลง
โดยทั่วไปมักสอนกันว่าต้องพยายามตีลูกจังหวะที่ 1 เพื่อทำให้คู่ต่อสู้ตีไม่ทัน แต่ถ้าเจอลูกที่ลอยมาแปลกๆโดยเฉพาะการรับเสริฟ ให้รอให้ลูกย้อยลงมาแล้วตีกลับในจังหวะที่ 3 กันใช่หรือไม่ โค้ชหลายๆคนจะสอนให้ฝึกตีลูกจังหวะที่ 2 ให้ได้ทุกลูก
ถ้ายึดหลักดังกล่าว อะไรจะเกิดขึ้น ... คุณต้องคอยขยับตัวเข้าออกจากโต๊ะอยู่ตลอดเวลาใช่หรือไม่
แทนที่จะต้องคอยขยับตัวเข้าออก ควรฝึกตีปิงปองให้ได้ในทุกจังหวะโดยยืนตั้งหลักรักษาระยะห่างจากโตีะคงเดิมไว้เสมอ หรือแค่เคลื่อนตัวไปทางซ้ายหรือขวาแค่นั้น
- ถ้าโดนหยอดหรือคู่ต่อสู้ส่งลูกมาสั้น ก็รอสักนิดให้ลูกลอยเข้ามาหาตัวแล้วตีลูกในจังหวะที่ 3
- ถ้าคู่ต่อสู้ส่งลูกยาวมาปลายโต๊ะ แม้จะเป็นลูกวิธีโค้งโด่งมาก็ไม่ต้องถอยออกไปตี ต้องฝึกตีลูกในจังหวะ 1 หรือ 2 สวนออกไปให้ได้โดยไม่ต้องเคลื่อนตัวเข้าหรือออกห่างจากโต๊ะไปกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่มั่นใจว่าลูกที่คู่ต่อสู้ส่งมาหมุนอย่างไร ลูกจังหวะที่ 2 หรือที่จุดสูงสุดของการกระเด้งเป็นจังหวะที่ปลอดภัยที่สุด เพราะทิศทางของลูกที่วิ่งเข้าหาตัวเราจะขนานไปกับโต๊ะ ช่วยทำให้ปรับมุมหน้าไม้ได้ง่ายกว่าการตีลูกจังหวะที่ 1 หรือ 3 ซึ่งวิถีของลูกจะเปลี่ยนมุมไปเรื่อยๆ