ท่าเสริฟยอดนิยมเห็นจะหนีไม่พ้นท่าที่มีชื่อว่า Pendulum Serve ได้ชื่อตามการใช้แขนเหวี่ยงแบบลูกตุ้มนาฬิกา เมื่อก่อนจะเหวี่ยงจากขวาไปซ้ายเป็นหลัก แต่ยุคนี้สามารถเหวี่ยงจากซ้ายไปขวาได้ด้วย (Reverse Pendulum) ถ้าดูไม่ดีจะไม่รู้ว่าลูกปิงปองที่เสริฟมาหมุนข้างไหนกันแน่

ServiceSwing123

ไม่ว่าจะหมุนในจังหวะที่แขนเหวี่ยงเข้าหรือเหวี่ยงออก ผู้เสริฟต้องรักษาสมดุลของร่างกายไว้ตลอดเพื่อพร้อมที่จะบุกในไม้ 3 ดังนั้นการเสริฟที่ดีต้องไม่ขยับตัวและแขนให้มากนัก ซึ่งถ้าพึ่งแต่แรงจากการเหวี่ยงแขนเพียงอย่างเดียวย่อมไม่สามารถส่งแรงออกไปปั่นลูกให้หมุนหรือแรงได้เต็มที่ ดังนั้นจึงต้องอาศัยแรงจากการถ่ายน้ำหนักตัวเข้ามาช่วยตามวิดีโอนี้

ยืนหันหลังให้กับโต๊ะเพื่อเพิ่มระยะห่างจากหัวไหล่ขวากับโต๊ะ สามารถใช้การบิดเอวหมุนลำตัว ช่วยในการถ่ายน้ำหนักในการเสริฟไปในทุกทิศทางได้ถนัดขึ้น อีกทั้งยังช่วยไม่ให้คู่ต่อสู้เห็นทิศทางในการเหวี่ยงไม้และหน้าไม้ในจังหวะก่อนที่ไม้จะกระทบลูก

สังเกตให้ดีว่าในจังหวะอัดแรง มุมข้อศอกแทบคงที่เป็นมุมฉากไว้ตลอด โดยอัดแรงจากการถ่ายน้ำหนักไปข้างหลังพร้อมกับเหวี่ยงหัวไหล่ไปข้างหลัง

ส่วนจังหวะส่งแรงใช้การถ่ายน้ำหนักตัวลงมาจากขาหลังมาขาหน้า ช่วยสะบัดหัวไหล่ไปข้างหน้า เหวี่ยงแขนท่อนล่างโดยใช้ข้อศอกเป็นจุดหมุน พร้อมกับพับมุมข้อศอกเข้ามาเพื่อเร่งความเร็วในจังหวะที่ไม้กระทบลูก

 

MaLongServehttps://youtu.be/PmxnL5AZSGQ

ที่สำคัญมากคือการหลอกคู่ต่อสู้ให้อ่านทิศทางการหมุนได้ยากมาก โดยการใช้วงสวิงที่เหวี่ยงอัดแรง ต่างจากวงสวิงที่ส่งแรงออกไป ส่วนหน้าไม้ก็จะหันให้คู่ต่อสู้เห็นด้านหลังของไม้ไว้เสมอจนกว่าจะกระทบลูกนั่นแหละซึ่งใช้ระยะทางที่สั้นมาก ยากที่จะอ่านจากหน้าไม้ที่พลิกเปลี่ยนมุมในพริบตาเดียว

สาเหตุที่หันหน้าไม้ไปข้างหลังหรือหงายมือขึ้นในตอนตั้งท่าก็เพื่อจะได้ใช้การหมุนท่อนแขน จากหน้ามือที่หงายขึ้นกลับมาเป็นคว่ำมือ ช่วยส่งแรงในจังหวะที่ไม้กระทบลูก

MaLongServeSwingCurve

วงสวิงที่ใช้จากด้านหลังส่งแรงเข้าหาลูกเป็นวงกลมแบบคว่ำ ซึ่งเป็นไปตามแนวของหน้าไม้ที่หงายไปข้างหลังไว้ก่อนและสอดคล้องกับแนวการบิดลำตัวและท่อนแขน (ไม่ใช่เหวี่ยงตามรูปขวาที่เป็นวงกลมแบบหงาย)

MaLongServeShotSML

 ลำดับการถ่ายน้ำหนักในการเสริฟของ Ma Long ดูจังหวะไม้กระทบลูกให้ดีว่ามีแรงช่วยในการเสริฟหลายแรงเลย

MaLongServe2https://youtu.be/WSBf2TG_h3A

OvBackhandServe2 
https://youtu.be/42JgI7veMaA

 

 

เห็นนักปิงปองเหวี่ยงแขนเสริฟแล้วอยากจะเข้าไปแนะนำให้เปลี่ยนวิธีเหวี่ยงแขนเสียใหม่ หลายคนเสริฟอย่างไรๆก็ไม่หมุน ไม่ได้ทิศทาง ท่าเสริฟดูเก้งก้าง พอเหวี่ยงแขนเสริฟเสร็จก็เสียหลักเสียสมดุล ไม่พร้อมที่จะเตรียมบุกไม้สามหรือรับลูกที่คู่ต่อสู้รับกลับมา

การเหวี่ยงแขนเสริฟที่นักปิงปองมือใหม่มักใช้วิธีเหวี่ยงให้หน้าไม้เคลื่อนเป็นเส้นตรง ถ้าเสริฟโฟร์แฮนด์แบบ pendulum serve ก็จะเหวี่ยงไม้เป็นเส้นตรงจากขวามาซ้าย(เมื่อดูจากด้านบนลงมา) หรือเหวี่ยงจากด้านบนลงล่างเป็นเส้นตรง(เมื่อดูจากด้านข้าง) ซึ่งการเหวี่ยงแบบนี้ผิดธรรมชาติเพราะต้องดัดแขนหรือดัดข้อมือเพื่อควบคุมให้วงเป็นเส้นตรง

 

ServiceSwing1

 

ที่ร้ายกว่าการเหวี่ยงเป็นเส้นตรง คือ เหวี่ยงไม้เป็นแนวโค้งด้านใน(เมื่อดูจากด้านบนลงมา) หรือโค้งลงล่าง(เมื่อดูจากด้านข้าง) ท่าเสริฟแบบนี้ต้องดัดข้อมือช่วยมากหน่อย และเมื่อจบวงเหวี่ยงแล้วต้องทิ้งน้ำหนักออกจากจุดศูนย์กลางของลำตัว ทำให้เสียสมดุล

 

ServiceSwing2

ท่าเสริฟที่ดีต้องไม่ฝืนธรรมชาติและสามารถถ่ายน้ำหนักช่วยส่งแรงทำให้ปั่นลูกหมุนมากๆได้ง่ายๆโดยไม่เสียสมดุล โดยเริ่มจากทิ้งน้ำหนักตัวเข้าหาลูกปิงปองโดยใช้ปลายเท้าซ้ายเป็นจุดหมุน เหวี่ยงแขนท่อนบนโดยใช้หัวไหล่เป็นจุดหมุน ตามด้วยการเหวี่ยงแขนท่อนล่างจากขวามาซ้ายโดยใช้ข้อศอกเป็นจุดหมุน และเมื่อไม้ปิงปองใกล้จะกระทบลูกให้ลดรัศมีของวงเหวี่ยงลงเพื่อทำให้หน้าไม้เคลื่อนที่เร็วขึ้น ไล่แรงทั้งหมดปล่อยไปที่หน้าไม้กระทบลูกปิงปองโดยสะบัดไม้ที่ข้อมืออย่างเร็วที่สุด และแทนที่จะเหวี่ยงไม้แบบโค้งลงให้เหวี่ยงไม้เป็นแนวโค้งขึ้นแทนโดยบิดแขนรอบท่อนแขนจากหงายเป็นคว่ำ

การที่ท่าเสริฟ pendulum ต้องยืนหันหลังหรือหันข้างให้กับโต๊ะ นอกจากช่วยเพิ่มระยะของวงเหวี่ยงให้ยาวขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มแรงจากการหมุนลำตัวทิ้งน้ำหนักเข้าหาลูกโดยใช้ปลายเท้าซ้ายเป็นจุดหมุน บางครั้งจะได้ยินเสียงกระทืบเท้าจากการทิ้งน้ำหนักตัวด้วย

 

ServiceSwing

 

วงสวิงแบบนี้นักปิงปองจีนนิยมใช้กัน เพียงแต่เขาเคลื่อนตัวและแขนเร็วมากจนดูไม่ออกว่าวงเหวี่ยงเป็นโค้งแบบใด จากภาพข้างบนนี้เป็นแค่การเสริฟจังหวะหนึ่งเท่านั้น พอเหวี่ยงจบแล้วก็จะสะบัดไม้ออกเป็นจังหวะสองและสามต่อเนื่องกัน จากลูกหมุนตามเข็มนาฬิกาจะกลายเป็นหมุนทวนเข็ม และแค่ปรับลำตัวของผู้เสริฟและหน้าไม้ให้กระทบลูกด้านหน้า ด้านข้าง หรือด้านหลังของตัวผู้เสริฟ จะทำให้เสริฟท่าเดียวกันนี้สามารถปั่นลูกแบบ topspin หรือ sidespin หรือ backspin ได้ในพริบตา

 

ServiceSwing123

ใครที่ดูเพียงท่าเสริฟแล้วคุยว่าอ่านออกได้ต้องบอกว่า "เดา" เสียมากกว่าเพราะดูจากท่าเสริฟยากมาก นักปิงปองจึงต้องหัดอ่านลูกเสริฟจากการดูวิถีและความเร็วที่ลูกลอยข้ามเน็ต หรือสุดท้ายก็ต้องดูจากตรายี่ห้อลูกปิงปองที่ลอยมาทีเดียวจึงจะรู้ชัดว่าลูกที่เขาเสริฟมาเป็นอย่างไร

 

MaLongAmazingServehttps://youtu.be/H0bg_VgeYwE

 

อย่างไรก็ตามท่าเสริฟไม่ได้จำกัดเพียงแค่นี้ สามารถนำวงสวิงทุกแบบมาใช้ร่วมกันตามความถนัดและโอกาส เพื่อทำให้คู่ต่อสู้อ่านลักษณะการหมุน ความแรง และทิศทางของลูกเสริฟไม่ออก

ตั้งแต่มีวิดีโอแสดงลูกเสริฟของนักกีฬาจีนที่พอข้ามเน็ตไปแล้วจะกระเด้งกลับหรือหักเลี้ยว นักปิงปองไทยก็ให้ความสนใจกันใหญ่พยายามเลียนแบบท่าทางให้เหมือน ทำไม้สบัดให้เหมือน โยนลูกให้เหมือน แต่ไม่เห็นจะได้ผลออกมาเหมือนกับที่เห็นในวิดีโอ โดยเฉพาะการโยนลูกสูงๆในการเสริฟที่เสริฟแล้วคู่ต่อสู้สามารถเดาได้ถูกต้องเกือบ 99.99% เลยว่าต้องออกมาเป็นลูกยาวที่สามารถท้อปหรือตบกลับได้ทันที

แทนที่จะสนใจฝึกท่าเสริฟให้เหมือน ควรฝึกเสริฟแค่ 3 ลูกเลียดเน็ตต่อไปนี้ให้เป็นด้วย ไม่ว่าจะเป็นลูกหมุนหรือไม่หมุน หมุนมากหรือหมุนน้อย ท้อบสปินหรือแบคสปิน ลูกเร็วหรือลูกช้า

  1. เสริฟลูกยาวลงปลายโต๊ะตรงเส้นสกัด
  2. เสริฟลูกกึ่งยาว (half-long)
  3. เสริฟลูกสั้นจริงๆ

โดยเฉพาะการเสริฟแบบกึ่งยาวนั้นต้องฝึกให้มากหน่อย นักปิงปองที่ชอบท้อปสวนกลับจะหมดท่าก็เพราะลูกเสริฟนี้แหละ พอเหวี่ยงไม้ขึ้นมาตามที่คาดการณ์ว่าลูกที่เสริฟมาต้องกระเด้งออกมาพ้นปลายโต๊ะ แต่กลายเป็นว่าลูกที่เสริฟมามันกระเด้งครั้งที่สองบนโต๊ะข้างฝ่ายรับแล้วก็ยังไม่พ้นปลายโต๊ะเสียด้วยซ้ำ

halfLong

 halfLong-end-line-serve

 

ถ้าเสริฟลูกกึ่งยาวได้เก่ง ต้องกะให้ลูกปิงปองที่ลอยข้ามเน็ตไปกระเด้งเพียงครั้งเดียวแล้วมีวิถีของลูกโค้งลงเฉี่ยวขอบปลายโต๊ะพอดี ทำให้คู่ต่อสู้ตีลูกกลับมาได้ไม่เต็มวงหรือปรับหน้าไม้ได้ลำบากเพราะแทบจะชนขอบโต๊ะอยู่แล้ว

 

 

 

การเสริฟตามปกติจะทำลูกให้หมุนได้แค่ top spin, back spin, และ side spin (หรือหมุนหลายแบบผสมกัน) ซึ่งมีแกนหมุนตั้งฉากกับทิศทางที่ลูกวิ่งออกจากไม้ แต่ถ้าอยากทำให้ลูกปิงปองหมุนมากๆตามแกนหมุนซึ่งมีแนวเดียวกับทิศทางที่ลูกวิ่งออกไป ทำนองเดียวกับการหมุนของลูกกระสุนปืนที่วิ่งออกจากลำกล้อง ก็ต้องอาศัยการโยนลูกเสริฟสูง

bulletSpin 

 

corkScrew2

การหมุนแบบนี้มีชื่อว่า Corkscrew Spin ซึ่งเหมือนกับการหมุนเปิดจุกคอร์กของขวดเหล้านั่นเอง

 

ตามปกติการหมุนของลูกปิงปองเกิดขึ้นจากการปั่นลูกบนหน้าไม้ แต่จะทำให้ลูกปิงปองกระเด้งออกไปข้างหน้าโดยไม่ต้องใช้แรงจากการเหวี่ยงก็ต้องอาศัยแรงที่ลูกตกกระทบบนหน้าไม้ช่วยเป็นแรงเสริม ยิ่งโยนลูกสูงขึ้นไปสูงเท่าใด จะยิ่งเกิดแรงตกกระทบบนหน้าไม้มากขึ้นเท่านั้น ผู้เสริฟมีเวลาที่จะถ่ายน้ำหนักเข้าหาลูกได้มากขึ้น สามารถใช้แรงเหวี่ยงไม้ไปกับการปั่นลูกให้หมุนได้อย่างเต็มที่ ทำให้เกิดลูกที่กระเด้งออกจากไม้วิ่งไปข้างหน้าพร้อมกับหมุนไปแบบลูกกระสุนปืน พอลูกปิงปองกระทบโต๊ะก็จะกระเด้งเลี้ยวโค้งเพราะแรงหมุนที่เสียดสีกับผิวโต๊ะทำให้ยากต่อการหาจังหวะรับลูก และเมื่อรับลูกก็จะกระเด้งออกจากไม้ในทิศทางที่ต่างกันออกไปแล้วแต่ว่าจะสัมผัสลูกปิงปองบนหัวลูกหรือใต้ลูก

ถ้าปรับเปลี่ยนวงเหวี่ยงและมุมของหน้าไม้ จะสามารถสร้างลูกหมุนได้ทุกแบบทั้ง top spin, back spin, หรือ side spin โดยมุ่งใช้แรงจากการเหวี่ยงไม้ไปกับการสร้างลูกหมุนมากๆแล้วปล่อยให้ลูกกระเด้งออกจากไม้ออกไปโดยใช้แรงตกกระทบจากแรงดึงดูดของโลกจากการโยนลูกสูง

hightoss

เทคนิคยากที่สุดของการเสริฟโดยโยนลูกขึ้นไปสูงๆก็คือ การควบคุมแรงที่ลูกกระเด้งออกไปจากไม้ซึ่งตามปกติจะกระเด้งแรงเพื่อเสริฟลูกเร็วและยาวให้ทอนแรงลงกลายเป็นเสริฟลูกสั้นได้ทั้งๆที่โยนลูกขึ้นไปสูงๆ อีกทั้งยากที่จะทำให้เกิดลูกหมุนแบบ back spin ดังนั้นหากเสริฟยังไม่ชำนาญก็จะเสริฟได้แต่ลูกยาวตลอดทำให้คู่ต่อสู้สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้าแล้วตีสวนกลับได้ทุกลูก นักปิงปองจีนที่เขาเสริฟลูกนี้กันได้นั้นต้องฝึกเสริฟอย่างเดียววันละหลายร้อยหลายพันครั้ง จนสามารถควบคุมทิศทางและเหวี่ยงไม้หลอก หรือโยนลูกขึ้นไปสูงๆแล้วเสริฟลูก back spin สั้นๆที่กระเด้งกลับมาได้ด้วย

 

แม้การโยนลูกเสริฟสูงเป็นเทคนิคที่ทำให้สร้างลูกหมุนได้สารพัดแบบ แต่ยากที่จะควบคุมการเสริฟให้เป็นไปตามใจนึกได้ร้อยเปอร์เซนต์ จึงมีแนวโน้มที่จะโยนลูกให้มีความสูงน้อยลง 

ตามปกติลูกเสริฟจะหมุนมากหรือน้อยขึ้นกับการออกแรงจากไม้ปิงปองไปกับการปั่นลูก ถ้าออกแรงจากไม้ปิงปองให้เฉียดผิวของลูกปิงปองมากเท่าใดจะทำให้ลูกปิงปองหมุนมากขึ้นแต่จะมีแรงส่งน้อยลง กลายเป็นลูกที่หมุนจัดแต่กระเด้งออกจากไม้ปิงปองไปเบาๆ โดยทั่วไปทราบกันแต่ว่าถ้าคว่ำหน้าไม้เสริฟจะได้ลูกเสริฟแบบ topspin ถ้าหงายหน้าไม้เสริฟจะได้ลูกเสริฟแบบ backspin และหลายต่อหลายคนพยายามออกแรงปั่นลูกให้หมุนแต่ก็ยังไม่เห็นจะหมุนได้มากสมกับแรงที่ออกไปเพราะมัวแต่ใช้แรงจากไม้ปิงปองอย่างเดียว ไม่เคยลองใช้แรงพิเศษมาช่วยปั่นให้ลูกหมุนเสริมแรงที่ได้จากการเหวี่ยงไม้ปิงปอง โดยใช้แรงที่เกิดจากแรงดึงดูดของโลกจากการโยนลูกเสริฟสูงๆ

 

HighTossSpinภาพข้างบนนี้แสดงหลักการทางฟิสิกส์ว่า ยิ่งโยนลูกเพื่อเสริฟให้สูงขึ้นไปมากขึ้นเท่าใด ยิ่งทำให้ลูกที่ตกลงมาตามแรงดึงดูดของโลกกระทบไม้แรงขึ้นเท่านั้น หากตั้งหน้าไม้ให้เอียงไว้ เมื่อลูกกระทบหน้าไม้จะทำให้แรงเสียดสีของยางปิงปองกับลูกปิงปองที่ตกลงมา ผลักลูกให้หมุนแบบ topspin กระเด้งออกจากหน้าไม้

 

HighTossTopSpin

 

แทนที่จะตั้งหน้าไม้ไว้กับที่ ให้หงายหน้าไม้ไปข้างหน้าทำมุมประมาณ 45 องศา กะให้ไม้กระทบลูกที่ตกลงมาในระดับความสูงเท่ากับเน็ต แล้วออกแรงชักหน้าไม้ขึ้นไปข้างหลัง จะกลายเป็นแรงปั่นเสริมทำให้เกิดลูกเสริฟแบบ topspin ที่หมุนมากกว่าปกติหลายเท่าและลูกจะกระเด้งออกจากหน้าไม้ไปข้างหน้าไปเองตามผลของแรงดึงดูดของโลก

แต่ถ้าหงายหน้าไม้ไปข้างหลังแล้วออกแรงชักหน้าไม้ไปข้างหน้าให้มากขึ้น ซึ่งเมื่อลูกปิงปองกระทบกับหน้าไม้ที่เอียงย่อมกลิ้งลงเป็นลูกหมุนแบบ topspin และกระเด้งไปข้างหลัง แต่เนื่องจากมีแรงจากการชักไม้ไปข้างหน้าจะทำให้ลูกปิงปองลอยตามแรงของหน้าไม้ไปข้างหน้าและเป็นลูกหมุนจัดแบบ backspin ถ้าปรับความแรงและระดับที่ไม้กระทบลูกให้ดีจะได้ลูกที่เสริฟข้ามเน็ตไปแล้วกระเด้งกลับเลยหรือเลี้ยวหลบก็ยังได้

 

HighTossBackSpin

 

 

 

ในท่าเสริฟที่เหวี่ยงไม้แบบเดียวกัน ลูกปิงปองจะเลี้ยวไปทางใดก็ได้ ขอเพียงหมุนตัวท่าเสริฟให้ลูกปิงปองตกกระทบกับหน้าไม้ในจังหวะที่หน้าไม้กำลังเคลื่อนเข้าหรือออกจากโต๊ะ หรือหงายหน้าไม้เสริฟให้เป็น topspin หรือ backspin แล้วแต่จะชักหน้าไม้ขึ้นหรือฟันลงทั้งนี้ยังสัมพันธ์กับระยะความสูงของลูกเสริฟที่โยนขึ้นไปอีกด้วย

ลักษณะการเสริฟสั้นเป็นตัวชี้ความแตกต่างระหว่างนักปิงปองมือใหม่กับนักปิงปองที่ชำนาญอย่างชัดเจน นักปิงปองที่ชำนาญจะเสริฟสั้นเป็นหลัก นานๆทีจะเสริฟยาวสักทีหนึ่งเพราะส่วนมากลูกเสริฟยาวมักถูกบุกกลับได้ง่าย ส่วนการเสริฟสั้นที่ใช้กันก็ไม่ได้สั้นแค่หน้าเน็ต แต่เป็นลูกเสริฟที่หากปล่อยให้กระเด้ง 2 ครั้งบนโต๊ะของฝ่ายรับ ตำแหน่งลูกปิงปองที่กระเด้งครั้งที่สองจะเฉียดเส้นสกัดปลายโต๊ะ ก้ำกึ่งว่าจะลงที่เส้นสกัดทีเดียว ทำให้ฝ่ายรับเสริฟ ต้องตัดสินใจให้ดีว่าจะเหวี่ยงไม้บุกสวนกลับไปได้หรือไม่ ไม่ใช่ว่าพอเหวี่ยงไม้ขึ้นไปแล้วต้องชักไม้กลับเพราะลูกไม่ได้ลอยข้ามปลายโต๊ะมาให้ไม้กระทบลูก หรือถ้าเหวี่ยงขึ้นไปกระทบลูกได้ก็ไม่สามารถใช้กำลังและควบคุมทิศทางตามที่ต้องการได้เต็มที่

นอกจากนี้ลูกเสริฟสั้นที่ดี ยังต้องเป็นลูกที่เลียด ไม่กระเด้งสูงให้บุกได้ง่าย และต้องกระเด้งลงในตำแหน่งที่ฝ่ายรับไม่สามารถดัดหน้าไม้เพื่อแก้การหมุนของลูกเสริฟได้ถนัด ซึ่งตามทฤษฎีแล้วเมื่อฝ่ายรับต้องดัดหน้าไม้เพื่อรับลูกหมุน มักไม่รับลูกกลับมาขนานกับเส้นข้าง เพราะเป็นทิศที่เสี่ยงที่ลูกจะไม่ลงโต๊ะ ทำให้ผู้เสริฟสามารถควบคุมทิศทางของลูกที่รับมาได้โดยปรับระดับการหมุนมากน้อยของลูกปิงปองที่เสริฟไป ช่วยทำให้ฝ่ายเสริฟสามารถเคลื่อนตัวไปรอบุกไม้สาม

 

ShortServe

 

ภาพแรกซ้ายมือเป็นการเสริฟสั้น backhand side-topspin ไปลงทางด้านโฟร์แฮนด์ของฝ่ายรับ ทำให้ฝ่ายรับยากที่จะปรับมุมหน้าไม้เพื่อแก้ลูกหมุน ถ้ารับไม่ดีลูกจะกระเด้งออกนอกโต๊ะไปทางขวามือของฝ่ายเสริฟ ดังนั้นลูกที่รับมาจึงเปิดโอกาสให้ฝ่ายเสริฟบุกไม้ 3 โดยการตีโฟร์แฮนด์ ถ้าลูกที่เสริฟไปหมุนมากก็มีโอกาสที่ลูกที่รับมาจะออกไปทางขวาของฝ่ายเสริฟมากกว่าลูกเสริฟที่หมุนน้อย

ภาพกลางเป็นการเสริฟ forehand side-topspin ซึ่งนิยมใช้ท่าเสริฟ pendulum ส่งลูกสั้นไปลงทางด้านแบ็คแฮนด์ของฝ่ายรับ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ฝ่ายรับต้องดัดหน้าไม้เพื่อแก้ลูกหมุน ถ้ารับไม่ดีลูกจะกระเด้งออกนอกโต๊ะไปทางซ้ายมือของฝ่ายเสริฟ ถ้ารับได้แต่ลูกหมุนมากๆ ลูกที่รับกลับไปก็มักมีทิศทางไปทางซ้ายของฝ่ายเสริฟทำให้สามารถตีแบ็คแฮนด์บุกไม้ 3 หรือใช้ฟุตเวิร์คฉากตัวออกไปบุกด้วยโฟร์แฮนด์

อย่างไรก็ตามการเสริฟไปที่มุมของโต๊ะฝั่งตรงข้ามเป็นการเพิ่มโอกาสให้ฝ่ายรับโต้ตอบกลับมาในมุมที่กว้าง สามารถโยกกลับทำให้ฝ่ายเสริฟต้องเคลื่อนตัวตามให้ทัน ให้แก้โดยเสริฟสั้นไปลงกลางโต๊ะตามภาพขวามือ จะลดมุมที่ฝ่ายรับจะโยกกลับ เพิ่มโอกาสให้ฝ่ายเสริฟสามารถบุกไม้ 3 ได้โดยไม่ต้องเคลื่อนตัวมากนัก

นักปิงปองที่เสริฟดีถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งเพราะสามารถเอาเปรียบคู่แข่งขันได้อย่างถูกกติกา และเป็นลูกแรกที่ใช้ควบคุมเกมที่คู่ต่อสู้ตีลูกถัดไปโต้กลับมาให้เป็นไปอย่างใจ สาเหตุที่เปลี่ยนจากการให้เสริฟคนละ 5 ลูกมาเป็นเสริฟคนละ 2 ลูกก็เพื่อลดโอกาสที่คนเสริฟจะเอาเปรียบทำคะแนน แค่เสริฟทำแต้มรวดเดียว 5 คะแนนทำให้คู่ต่อสู้แทบหมดกำลังใจจะไล่ทัน

ก่อนปีค.ศ.1973 หรือปีพ.ศ.2516 ท่าเสริฟปิงปองไม่ได้สลับซับซ้อนอะไรนัก ส่วนใหญ่เสริฟแบคแฮนด์เพราะสามารถพลิกไม้ให้ปั่นลูกได้หลายแบบมากกว่าเสริฟโฟร์แฮนด์ ต่อมานักปิงปองจีนริเริ่มการเสริฟโฟแฮนด์แบบตวัดไม้หลายจังหวะตามมาด้วยการเสริฟโยนลูกสูงซึ่งอาศัยแรงดึงดูดของโลกช่วยสร้างแรงตกกระทบบนหน้าไม้ ช่วยทำให้ลูกกระเด้งออกไปข้างหน้าเอง เปิดโอกาสให้ผู้เสริฟทำหน้าที่เพียงปั่นลูกให้หมุน กลายเป็นลูกเสริฟที่เรียกว่า corkscrew spin ซึ่งลูกปิงปองจะหมุนแบบลูกกระสุนปืน คือ หมุนรอบแกนที่กำลังวิ่งไปข้างหน้า ทำให้เมื่อลูกปิงปองกระทบโต๊ะจะเลี้ยวมากขึ้นและเมื่อลูกกระทบไม้ของผู้รับจะกระเด้งออกไปทางขวาหรือทางซ้ายก็ได้ขึ้นกับว่าหน้าไม้กระทบลูกปิงปองส่วนบนหรือส่วนล่างของลูก

 

 

การเสริฟที่ดีต้องใช้ท่าเสริฟเดียวที่หมุนลูกได้สารพัดแบบในช่วงเสี้ยววินาทีที่ไม้กระทบลูก ซึ่งโดยทั่วไปจะเสริฟได้อย่างน้อย 3 จังหวะ

  1. จังหวะแรก ได้ลูกหมุนตามวงเหวี่ยงของหน้าไม้ที่ผู้เสริฟเหวี่ยงแขน
  2. จังหวะที่สอง พอไม้หยุด ถ้าตามด้วยการกระแทกไม้ออกไปตรงๆจะได้ลูกที่ไม่หมุน
  3. จังหวะที่สาม สะบัดไม้ออก จะได้ลูกที่หมุนกลับทิศทางตรงข้ามกับจังหวะแรก

 

 

นอกจากนี้ระนาบของการเหวี่ยงไม้ยังช่วยทำให้เกิดลูกหมุนแบบ backspin หรือ topspin ได้อีก

  • ถ้าเคลื่อนไม้จากบนลงล่างจะได้ลูกเสริฟที่ผสม backspin
  • ถ้าเคลื่อนไม้จากล่างขึ้นบนจะได้ลูกเสริฟที่ผสม topspin

 

 

การยืนหันหลังเพื่อเสริฟโฟร์แฮนด์ จะช่วยซ่อนหน้าไม้หรือซ่อนแนวการเหวี่ยงไม้ไม่ให้คู่ต่อสู้เห็นหรือทำให้เห็นได้น้อยที่สุด อีกทั้งจะช่วยทำให้สามารถสะบัดไม้เข้าหาลูกได้แรงขึ้นจากการเหวี่ยงเอวและแขนเข้าหาลูกโดยใช้เท้าซ้ายเป็นจุดหมุนหรือจะขยับตัวตามการเหวี่ยงเพื่อทอนความแรงลง

ถ้าเหวี่ยงไม้แรงหรือกว้างหรือโยนลูกเสริฟสูง ต้องสามารถปรับความแรงกลายเป็นเสริฟค่อยหรือสั้นได้ หรือไม่ได้เหวี่ยงไม้เลยแต่สามารถเสริฟลูกแรงโดยใช้น้ำหนักตัวช่วย

ผู้เสริฟที่เก่งต้องสามารถหลอกให้คู่ต่อสู้เข้าใจผิด ทำให้อ่านลูกเสริฟไม่ออกแม้ว่าจะใช้วิธีดูจากลูกที่ลอยมาก็ตาม

  • ลูกเสริฟเร็วที่ส่วนใหญ่เป็น topspin ต้องหาทางเสริฟแบบ backspin และทำให้ท่าเสริฟดูเหมือนเสริฟ topspin
  • ลูกเสริฟสั้นที่ส่วนใหญ่เป็น backspin ต้องทำให้เป็น topspin บ้าง sidespin บ้าง และทำให้ท่าเสริฟดูเหมือนเสริฟ backspin

 

 

ยิ่งกว่านั้นต้องใช้ท่าเดียวกันที่เสริฟได้ทั้งลูกที่หมุนมากหรือหมุนน้อยได้ด้วย โดยเลือกใช้จุดกระทบบนหน้าไม้ให้เป็นและควบคุมระยะเวลาที่ลูกสัมผัสกับหน้ายาง

  • ถ้าลูกกระทบไม้บนส่วนที่ไกลจากด้ามหรือกระทบส่วนปลายของไม้จะได้ลูกหมุนจัด
  • ถ้าลูกกระทบไม้บนส่วนที่ใกล้ด้ามหรือกระทบส่วนต้นหรือกลางของไม้จะได้ลูกหมุนน้อย
  • ถ้าปล่อยให้ลูกอยู่บนหน้าไม้นานพอดีๆจะได้ลูกหมุนกำลังดี แต่ถ้าอยู่นานไปหรือน้อยไปจะได้ลูกหมุนน้อยลง

ก่อนจะเสริฟทุกครั้ง ต้องจินตนาการให้เห็นภาพท่าเสริฟและวิถีของลูกที่ลอยไปว่ากระทบโต๊ะฝั่งนี้ลอยข้ามเน็ตไปลงตำแหน่งไหนบนโต๊ะอีกฝั่ง คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าว่าคู่ต่อสู้จะโต้กลับส่งลูกมาทางใดเพื่อเตรียมบุกไม้ 3

ต้องฝึกเสริฟจนกระทั่งอย่าว่าแต่เกมละ 21 คะแนนเลย ด้วยท่าเสริฟท่าเดียวกันสามารถเสริฟลูกที่แตกต่างกันได้ทุกลูก (บางลูกแม้แต่ตัวผู้เสริฟเองยังไม่รู้ว่าหมุนอย่างไรด้วยซ้ำ)

ใครที่ได้ไปชมการแข่งขันชิงเงินรางวัลของ GAC ที่อินดอร์สเตเดียมหัวหมาก คงพยายามหาที่นั่งชมให้ใกล้สนามแข่งขันให้มากที่สุด จะได้ชมตัวจริงของนักกีฬาและสัมผัสกับความตื่นเต้นในสนาม ต้องรีบจองที่นั่งตั้งแต่เช้าจะได้ตำแหน่งที่นั่งชมที่ดีไว้ก่อน ถ้านั่งใกล้ไปจะได้ที่นั่งที่มีพื้นไม่สูงนักทำให้มองเห็นแต่ตัวนักปิงปอง มองไม่เห็นการวางเท้าขยับเท้า ถ้านั่งด้านหลังโต๊ะเฉียงไปทางมุมซ้าย ตัวนักปิงปองจะยืนบังทำให้มองไม่เห็นลูกปิงปองเสียอีก

 

germanServe2

 

หากต้องการชมการแข่งขันเพื่อศึกษาเรียนรู้เทคนิคที่แชมป์ปิงปองใช้ ต้องหาที่นั่งชมซึ่งสามารถมองเห็นตัวนักปิงปองได้ชัดเจนจากศีรษะจรดเท้า มองเห็นระยะห่างของการวางเท้าขยับเท้า สามารถจับตำแหน่งที่ลูกกระทบไม้ว่าอยู่สูงจากโต๊ะเพียงใด ห่างจากตัวนักกีฬาแค่ไหน เขาตีลูกปิงปองในจังหวะใด ตีลูกไปลงตรงไหน สั้นหรือยาว ลอยสูงจากเน็ตมากหรือน้อยเพียงใด แทนที่จะดูด้วยตาเฉยๆก็ควรถ่ายวิดีโอไว้ด้วย จะได้นำกลับมาศึกษาต่อได้ที่บ้าน

 

 

อย่าลืมว่า YouTube มีวิดีโอให้ดูได้อยู่แล้ว เพียงแต่มุมมองของการถ่ายภาพจะเน้นความเพลิดเพลินของผู้ชมเป็นหลัก ดังนั้นการชมปิงปองเพื่อการศึกษาควรเลือกที่นั่งชมซึ่งหาดูไม่ได้จาก YouTube หรือจากการถ่ายทอด

Go to top