ถ้านักปิงปองใช้แขนขวามือขวาตีปิงปอง ก็เป็นเรื่องของแขนซ้ายที่ไม่ได้ใช้ตีว่าควรเก็บไว้ที่ไหน เท่าที่เห็นนักปิงปองไทยใช้กันมักงอแขนซ้ายเก็บไว้ที่หน้าอกหรือปล่อยแขนลงตรงๆ กลายเป็นนักปิงปองที่มีแขนเดียว

แขนซึ่งไม่ได้ใช้ตีปิงปองเป็นอวัยวะที่ช่วยรักษาความสมดุลของร่างกายระหว่างการเคลื่อนไหว อีกทั้งช่วยเพิ่มแรงเหวี่ยงในการตีโฟร์แฮนด์ได้เป็นอย่างดี พอเหวี่ยงไม้ลงให้ยกอีกแขนขึ้น พอเหวี่ยงไม้ขึ้นให้เหวี่ยงอีกแขนลง ยิ่งต้องอาศัยแขนอีกข้างในการรักษาสมดุลในจังหวะที่ต้องกระโดดหรือต้องเอนตัววิ่งเข้าหาลูก แชมป์ปิงปองจะใช้แขนที่ไม่ได้ใช้ตีเหมือนรำมวยจีนทีเดียวตามวิดีโอต่อไปนี้

LeftHandMaLong1 https://youtu.be/9wrP-5b139Y

LeftHandMaLong2https://youtu.be/G7VKhs-6GYY

ผู้ฝึกสอนหรือโค้ชต้องรีบแก้ไขนักปิงปองหน้าใหม่ให้เปลี่ยนวิธีใช้แขนที่ไม่ได้ใช้ตี ถือเป็นเรื่องพื้นฐานแรกๆที่ต้องสอนก่อนที่จะกลายเป็นนิสัยเสียที่แก้ยากในภายหลัง โค้ชทำหน้าที่ได้ดีหรือไม่ดีดูได้จากเรื่องนี้

ไม่ว่าคุณจะตีปิงปองเพื่อแข่งขันหรือเป็นคู่ซ้อมปิงปองที่ดี ต้องสามารถส่งลูกไปยังตำแหน่งเดิมหรือตำแหน่งที่ต้องการได้เสมอโดยรักษาความสั้นความยาวของจุดกระทบโต๊ะและสามารถควบคุมความเร็ว ความแรง และความหมุนได้ด้วย ไม่ใช่ว่าเอาแต่ใจหวดลูกแรงหรือลูกหมุนไปตามยถากรรมแบบไม่รู้ตัวว่าตัวเองทำได้อย่างไร พอให้ตีแบบเดิมซ้ำอีกก็ทำไม่ได้เสียแล้ว

การตีลูกให้แม่นยำต้องรู้จักปรับวงเหวี่ยงไม้จากวงเหวี่ยงแบบทั่วไปที่เป็นวงกลมหรือวงรีที่มีหัวไหล่เป็นจุดศูนย์กลาง ให้เป็นวงเหวี่ยงเป็นเส้นตรงตามทิศทางของการส่งแรงในจังหวะที่ลูกกระทบไม้ (Dwell Time) โดยจังหวะเวลาที่ลูกกระทบไม้และกำลังจะกระเด้งออกไปจากไม้เป็นช่วงเวลาที่สั้นมาก ในช่วงจังหวะนี้ให้ส่งแรงไปยังลูกที่อยู่บนไม้ให้เป็นเส้นตรงชี้ไปยังทิศทางที่ต้องการ พอลูกกระเด้งออกจากไม้ไปแล้วจึงเหวี่ยงตามวงกลมแบบเดิม ซึ่งนอกจากจะปรับวงเหวี่ยงของแขนแล้ว สามารถใช้การถ่ายนำหนักของสะโพกให้เป็นเส้นตรงช่วยอีกแรงหนึ่ง

นักปิงปองที่ดีไม่จำเป็นต้องเป็นคนเก่ง ขอให้ทำตัวให้สมกับเป็นนักกีฬา มีน้ำใจเป็นนักกีฬารู้จักแพ้รู้จักชนะ ไม่เอาเปรียบคู่ต่อสู้

  • มีสัมมาคารวะ ยกมือไหว้นักปิงปองที่อาวุโสกว่าหรือเป็นผู้ใหญ่กว่าเสมอ
  • เวลาซ้อมก็ไม่เอาแต่ใจตัวเอง ตีแรงๆหรือเร็วเกินไปจนคู่ซ้อมตีไม่ทัน
  • ช่วยกันเก็บลูกปิงปองที่ตีไม่ลงโต๊ะ ทั้งที่เป็นลูกของตัวเองหรือลูกที่คนอื่นเขาตีออก หากใครช่วยเก็บลูกให้ควรกล่าวขอบคุณเสมอ
  • ถ้าลูกปิงปองจากโต๊ะอื่นกระเด็นมา ควรหยุดเล่นแล้วช่วยเก็บลูกปิงปองให้
  • รู้จักอดทนรอจนกว่าโต๊ะปิงปองจะว่างหรือคู่ซ้อมของตนมา ไม่ใช่ว่าเห็นใครเขากำลังซ้อมกันอยู่ก็เดินเข้าไปบอกว่าให้ผลัดกันตีคนละลูกหรือขอซ้อมด้วยคน
  • เอาลูกปิงปองของตัวมาตีบ้าง ไม่ใช่รอแต่ตีลูกปิงปองของคนอื่นเสมอ
  • ลูกปิงปองกับไม้ปิงปอง ไม่ใช่สิ่งที่จะขอยืมกัน ถ้ายืมไปแล้วทำลูกแตกหรือไม้บิ่นจะหาของสภาพเดิมมาคืนเขาได้หรือ
  • แต่งกายสวมเสื้อผ้าให้เหมาะสม โดยเฉพาะต้องสวมรองเท้ากีฬาเสมอ
  • อย่ากระทืบเท้าแรงๆดังๆเพราะมีเจตนากลบเสียงที่ลูกกระทบไม้หรือกวนสมาธิของคนอื่น
  • ช่วยแนะนำวิธีตีแก้ลูกที่คู่ซ้อมทำไม่ได้
  • แทนการไหว้ก่อนและหลังแข่ง ถ้าใช้วิธีจับมือหรือแตะมือกัน ตามธรรมเนียมทางยุโรปต้องมองตาอีกฝ่ายด้วย (ไม่ใช่มองที่มือ)

ชัยชนะที่ขาวสะอาดย่อมทำให้เกิดความภาคภูมิใจไปตลอดกาล

 

ก่อนจะเช็ดทำความสะอาดหน้ายางเพราะมีฝุ่นเกาะเต็มไปหมด ขอให้สังเกตด้วยว่าฝุ่นเกาะตรงไหน ถ้าตีปิงปองได้แม่นยำต้องตีลูกกระทบตรงกลางหน้าไม้ปิงปองเสมอ ฝุ่นก็จะเกาะให้เห็นชัดตรงกลางหน้าไม้ แต่ถ้าตีไปแล้วไม่เห็นมีฝุ่นเกาะหรือรอยด่างตรงไหนเลย นั่นแสดงว่าตีลูกยังไม่แม่น

 

csi

 

พื้นที่ตรงกลางหน้าไม้เป็นจุดที่ช่วยทำให้ลูกปิงปองกระเด้งได้แรงที่สุดพร้อมกับสามารถควบคุมทิศทางของลูกได้ดีที่สุดด้วย เขาเรียกจุดนี้ว่า Sweet Spot

แนวของวงสวิงเป็นปัญหาหนึ่งที่นักปิงปองมือใหม่มักสงสัยกันว่าเวลาเหวี่ยงไม้ตีลูก top spin ต้องเหวี่ยงจากไหนไปไหน ต้องเริ่มจากระดับไหนใต้โต๊ะ เหนือโต๊ะ แล้วไปหยุดไม้ที่ตรงไหน ผู้ฝึกสอนมักแนะนำให้ฝึกใช้วงสวิงคงที่ บอกให้เหวี่ยงไม้ในแนว 45 องศาบ้าง หรือเหวี่ยงจากล่างขึ้นบนให้ตั้งฉากให้มากที่สุดบ้าง แต่มักลืมแนะนำว่าแล้วหน้าไม้ต้องทำมุมอย่างไรด้วย

 

swing

จากภาพนี้แนววงสวิงแบบ A ให้ความรุนแรงสู้แบบ B ไม่ได้

  • วงสวิงแบบ A มักใช้กับการตี Loop ซึ่งมุ่งในการปั่นลูกให้หมุน top spin มากๆ
  • วงสวิงแบบ B มักใช้กับการตี Drive ซึ่งต้องการตีลูกแรงกลับไป

ทั้งนี้มิใช่ว่าแนววงสวิงแบบ B จะมีความหมุนน้อยกว่าวงสวิงแบบ A เพราะถ้าปรับมุมหน้าไม้ให้คว่ำขนานกับแนววงสวิงแล้วเหวี่ยงไม้ปั่นที่หัวลูกให้ลูกหมุนแบบ top spin พร้อมกับการเหวี่ยงไม้ให้เร็ว จะทำให้ได้ลูกที่ตีโต้กลับได้แรง เร็ว และหมุนมากพร้อมกันไป

แนววงสวิงแบบ A เหมาะกับการโต้กลับลูกที่ตีมาแบบ back spin ถ้าโต้กลับลูกที่ back spin หนักก็จะปรับมุมหน้าไม้ให้หงายมากและตีให้โดนลูกในจุดที่ต่ำกว่ากลางลูกลงไปจนถึงจุดใต้ลูก ยิ่งโต้กลับลูกหมุนหนักมากก็ต้องยิ่งปรับแนวสวิงให้ตั้งฉากกับพื้นมากขึ้น หงายไม้มากขึ้น และโดนใต้ลูกมากขึ้น

อย่างไรก็ตามนักปิงปองที่ชำนาญนิยมใช้วงสวิงในแบบเดิมมากกว่าที่จะเปลี่ยนแนววงสวิงไปเรื่อยๆ โดยใช้การปรับมุมหน้าไม้และเลือกตีลูกในทุกจังหวะให้เป็น ไม่ว่าจะเป็นช่วงลูกกระเด้งขึ้น ลูกกระเด้งสูงสุด หรือจังหวะที่ลูกย้อยลงมา เพื่อทำให้คู่ต่อสู้อ่านท่าทางไม่ออกและคาดการณ์ลูกที่ตีโต้กลับไปได้ยาก นอกจากนี้ต้องฉวยโอกาสขณะที่ลูกยังลอยสูงกว่าเน็ตเพื่อทำให้วิถีของลูกปิงปองที่วิ่งลอยกลับไปต้องเลียดเน็ตหรือมีวิถีที่โค้งลงทันทีที่ลูกปิงปองกระเด้งออกจากไม้ (ไม่ใช่ตีลูกช้าต่ำกว่าเน็ตที่มีวิถีโค้งขึ้นแล้วโค้งลงแบบย้อยๆซึ่งเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้บุก)

ที่สำคัญวงสวิงแบบ A ที่ลากไม้จากใต้โต๊ะขึ้นมา จะใช้งานได้เฉพาะลูกที่ยาวกว่าโต๊ะเท่านั้น แต่ถ้าเจอลูกสั้นบนโต๊ะก็เหวี่ยงไม้ไม่ได้แรงแล้วเพราะจังหวะอัดแรงเหวี่ยงไปข้างหลังไม่ได้มาก พื้นโต๊ะกลายเป็นกำแพงขวางไม่ให้เหวี่ยงลงไปได้เลย ส่วนวงสวิงแบบ B ใช้งานได้ดีกว่ามาก สามารถตีลูกสั้นลูกยาวได้เสมอ อธิบายแบบนี้แล้วตอบได้ไหมว่า ควรฝึกเหวี่ยงวงสวิงแบบไหนดีกว่ากัน

สมมติว่าใช้มือขวาในการตีปิงปอง

FH = Forehand การตีจากทางด้านขวาของตัว หรือใช้หน้าไม้ด้านนิ้วโป้งกระทบลูก

BH = Backhand การตีจากทางด้านซ้ายของลำตัว หรือใช้หน้าไม้ด้านนิ้วชี้กระทบลูก

TS = Top Spin ลูกที่หัวลูกด้านบนหมุนไปด้านหน้าตามทิศทางที่ลูกลอยไป

BS = Back Spin ลูกที่ท้องลูกด้านล่างหมุนไปด้านหน้าตามทิศทางที่ลูกลอยไป

SS = Side Spin ลูกที่หมุนทางด้านข้างตั้งฉากกับทิศทางที่ลูกลอยไป

CS = Corkscrew Spin ลูกที่หมุนแบบควงสว่านพร้อมกับวิ่งไปด้านหน้า

Drive การตีลูกกลับไปให้เร็ว

Loop การตีลูกกลับไปให้หมุนแบบ top spin มากๆ

Block การตั้งหน้าไม้ให้ลูกกระเด้งกลับไปเองโดยไม่ต้องออกแรงนัก

Counter Attack การโต้กลับ

Flip/Flick การตีลูกสั้นบนโต๊ะด้วยการสบัดข้อมือ

Push การหงายหน้าไม้ตีลูกบนโต๊ะ ผลักลูกออกไปโดยอาจมี back spin เสริมหรือไม่ก็ได้

Smash การตบ

Lob การโยนลูกโด่ง

สมัยที่ผมฝึกตีปิงปองกับครูจันทร์ ชูสัตยานนท์ที่ยิมเนเซียม 1 สนามกีฬาแห่งชาติที่ปทุมวัน ครูจันทร์เป็นโค้ชให้กับพวกผมที่เป็นเด็กๆโดยไม่คิดเงิน ช่วงแรกที่ผมเริ่มฝึก ท่านปล่อยให้ผมตีปิงปองให้ดูระยะหนึ่งก่อนจากนั้นจึงค่อยให้คำแนะนำว่าต้องแก้ไขการตีอย่างไรบ้าง แม้ครูจันทร์มีอายุมากแล้วไม่สามารถตีท่าทางตามที่ท่านบอกได้ทุกท่า แต่ด้วยคำสอนที่เต็มไปด้วยเหตุและผลทำให้เข้าใจได้ไม่ยาก และสามารถดูนักปิงปองรุ่นพี่ที่ตีท่านั้นๆจนคล่องแล้วเป็นตัวอย่างที่ดีได้อีก ต่างจากยุคนี้ที่สนามปิงปองปล่อยให้นักกีฬาตีปิงปองกันเองโดยไม่มีผู้ฝึกสอนคอยควบคุมและให้คำชี้แนะ ทำให้นักปิงปองฝึกตามแบบคนที่ดูแล้วรู้สึกว่าเล่นเก่งเล่นดีหรือพยายามเลียนแบบท่าตีที่ดูจากยูทูบ ถึงมีนักปิงปองที่รับสอนปิงปองมาที่สนามด้วยก็มักสอนแต่คนที่จ่ายเงินจ้างเป็นรายชั่วโมง ชั่วโมงละ 200-300 บาท ไม่สนใจจะเข้าไปช่วยให้คำแนะนำคนอื่น

การได้เห็นการฝึกซ้อมอย่างเอาจริงเอาจังเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยาก ที่ยากกว่านั้นซึ่งหาดูไม่ได้แล้วคือการสอนของครูจันทร์นั่นเอง ท่านเข้มงวดเรื่องระเบียบวินัยเป็นอย่างยิ่ง พวกผมต้องแต่งตัวให้เรียบร้อย ไม่พูดคุยกันเล่นๆไปทำลายสมาธิการฝึกของคนอื่นเขา ทุกคนเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาฝึกตีปิงปอง ทุกครั้งใครตีไม่แม่น ตีลูกออกหรือติดเน็ต หรือตีไม่ลงตำแหน่งที่ฝึกซ้อมกันจะมีเสียงคำว่า ขอโทษครับ ขอโทษค่ะ ให้ได้ยินเสมอ ซึ่งคนที่พูดคำว่าขอโทษไม่ได้พูดมาจากคนที่ติดออกเสมอไปหรอก แต่กลับเป็นคู่ซ้อมอีกข้างหนึ่งต่างหากที่ต้องกล่าวคำว่าขอโทษ เพราะถ้าตัวเองส่งลูกตีโต้กลับไปได้ดี ไม่แรงหรือเร็วเกินไป และสามารถตีลงตำแหน่งที่ต้องการอย่างแม่นยำแล้ว คงไม่เป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งตีลูกออก

การฝึกซ้อมจนกระทั่งสามารถส่งลูกไปลงตำแหน่งที่ต้องการบนโต๊ะได้นั้นเป็นขั้นตอนแรกๆที่สำคัญมาก เพราะจากนั้นครูจันทร์จะสอนให้ตีลูกโฟร์แฮนด์สลับกับแบคแฮนด์โดยคู่ซ้อมฝ่ายหนึ่งตีลูกตรงในขณะที่อีกฝ่ายตีลูกทะแยงข้ามเน็ต

ทุกคนที่ฝึกกับครูจันทร์ต้องฝึกตีให้เป็นทุกท่า ไม่เว้นแม้แต่ลูก chop หรือการฝึกของมือรับเพื่อใช้รับลูกที่ top spin มาโดยการตี back spin ยาวๆกลับไป ต้องเรียนรู้ทั้งการสับลูกให้ back spin หนักก็ได้เบาก็ได้ แล้วสลับเป็นฝ่ายฝึก top spin กลับมาบ้าง

คนเรามักให้ความศรัทธาเชื่อคำสอนของนักปิงปองที่เป็นแชมป์หรือคนที่ตีปิงปองได้เก่งกว่าโดยลืมนึกไปว่า การเอาชนะในกีฬาปิงปองต้องอาศัยทั้งความสมบูรณ์ของร่างกาย ความชำนาญที่ได้จากการฝึกซ้อมอย่างหนัก และความฉลาด ถ้าเจอคู่ต่อสู้ที่มีคุณสมบัติสองอย่างแรกใกล้เคียงกัน คนที่เล่นเกมได้ฉลาดกว่าย่อมเอาชนะได้ในที่สุด แต่พออายุมากขึ้นเรี่ยวแรงลดถอยลงไปอีกทั้งมีครอบครัวมีภาระหน้าที่ไม่สามารถใช้เวลากับการฝึกฝนได้อย่างเดิม แม้ฉลาดกว่าก็ยากจะเคลื่อนตัวได้เร็วหรือออกแรงเหวี่ยงไม้เอาชนะนักปิงปองที่อายุอ่อนกว่า ส่วนนักปิงปองที่แข่งขันได้แชมป์อาจได้มาจากการใช้แรงและความชำนาญมากกว่าการใช้สมองทั้งๆที่เขามีท่าทางในการตีปิงปองผิดๆก็เป็นได้

หากต้องการเรียนรู้เทคนิคการตีปิงปองอย่างไม่รู้จักจบสิ้นควรยึดหลักอวดโง่ดีกว่าอวดฉลาด ไม่ควรทำตัวหยิ่งยะโส เลิกยกมือไหว้ทักทาย หรืออวดเบ่งว่าตัวเองรู้มากกว่าเขาเพียงเพราะเอาชนะเขาได้ ควรทำตัวเป็นผู้ฟัง พยายามถ่อมตัวให้มากเข้าไว้ เมื่อฝึกซ้อมกับใครก็ควรขอคำแนะนำจากคู่ซ้อมเสมอว่าตัวเองควรปรับปรุงแก้ไขการตีอย่างไรบ้าง ที่สำคัญการได้รู้จักกันในสนามฝึกเป็นจุดเริ่มของความสัมพันธ์ที่สามารถให้ความช่วยเหลือกันในเรื่องอื่นนอกเหนือจากปิงปอง

การได้ฟังคำแนะนำจากคนอื่น ไม่ว่าเขาจะเด็กกว่า แก่กว่า แม้จะเป็นเรื่องที่ตัวเองทราบอยู่แล้ว อย่ารีบเชื่อหรือคัดค้าน อย่าเชื่อแค่เพราะเขาเป็นแชมป์ อย่ารีบนำมาใช้เพราะอาจไม่เหมาะกับท่าตีของตัวเองก็ได้ เมื่อได้ฟังซ้ำตรงกับความเข้าใจเดิมย่อมเป็นการยืนยันว่าตัวเองเข้าใจถูก บางเรื่องที่ยังไม่ชัดก็ทราบชัดเจนขึ้น จะได้ทราบเรื่องที่ไม่เคยทราบ ได้เห็นมุมมองที่ไม่เคยคิดมาก่อน

น่าเสียดายว่าเมื่อนักปิงปองได้ขึ้นชื่อว่าเป็นครูหรือเป็นโค้ชปิงปองแล้ว คนอื่นมักเกรงใจไม่กล้าโต้แย้ง ไม่กล้าสอนคนที่เป็นครู ทำให้ครูหมดโอกาสได้รับคำแนะนำที่ดีไปมากทีเดียว

จริงอยู่ที่ต้องพยายามตีปิงปองให้เร็วกว่าและแรงกว่าคู่ต่อสู้ แต่นักปิงปองมือใหม่มักชอบตีปิงปองเร็วเกินไปและแรงเกินไป พอลูกปิงปองลอยข้ามเน็ตมาแล้วกระเด้งขึ้นสูงได้นิดเดียวก็ตีสวนกลับไปแล้ว สาเหตุที่เป็นแบบนี้เพราะยืนติดโต๊ะเกินไปบ้าง เอาแต่ตีลูกไม่สั้นไม่ยาวลงแถวๆกลางโต๊ะบ้าง หรือยังไม่คุ้นกับการเหวี่ยงวงสวิงจึงใช้วิธีเหวี่ยงวงสั้นๆเร็วๆจะได้ไม่ต้องออกแรง ไม่ต้องขยับตัว ไม่ต้องใช้ฟุตเวิร์คเท่าใดนัก แต่การตีลูกแบบนี้จะทำให้ลูกลอยข้ามเน็ตกลับไปเป็นลูกที่มีแนววิถีโค้งพอกระเด้งที่โต๊ะฝั่งตรงข้ามจะกลายเป็นลูกที่สูงง่ายต่อการบุกกลับของคู่ต่อสู้

การตีลูกในจังหวะแรกที่ลูกเพิ่งกระเด้งขึ้นจะดีขึ้นมากหากรอสักนิดให้ลูกกระเด้งสูงกว่าเน็ตก่อนหรือจะรอให้ลูกกระเด้งจนถึงจุดสูงสุดก็ได้ ยิ่งลูกสูงกว่าเน็ตมากเท่าใดจะช่วยเพิ่มโอกาสที่จะตีลูกวิถีตรงกลับไป อีกทั้งสามารถเพิ่มแรงได้มากขึ้น และสามารถตีฉีกมุมโยกได้กว้างขึ้น

พอตีลูกโต้กลับไปแล้วต้องสามารถเตรียมท่าตีลูกถัดไปได้ด้วย อย่านึกแค่ว่าฉันตบแรงสุดขีดไปแล้วรับรองว่าไม่มีใครจะตีกลับมาได้ ดังนั้นก่อนที่จะตีแรงมากๆกลับไปควรหาทางทำให้คู่ต่อสู้เสียจังหวะก่อน โดยตีควบคุมทิศทางโยกซ้ายโยกขวาบ้าง ตีสั้น ยาว หยอดบ้าง ตีเลียดบ้าง โด่งบ้าง พอมั่นใจแล้วว่าคู่ต่อสู้ไม่มีทางที่จะโต้กลับมาได้จึงตีลูกแรงที่สุดกลับไป

สำหรับนักปิงปองที่ชอบตี topspin ควรฝึกตีลูก Loop Drive ที่แรงและเร็วมากกว่าหมุนเพื่อโยกคู่ต่อสู้ จากนั้นทำลายจังหวะด้วยการตีลูก Slow Loop ที่หมุนมากกว่าแรง ทำให้คู่ต่อสู้จำเป็นต้องบล้อคกลับมาโด่ง แล้วใช้ลูก Loop Kill ที่มีทั้งความแรงและความหมุนทำคะแนน

 

 

 

นักปิงปองที่มีครูได้มีโอกาสฝึกอย่างจริงจังย่อมมีลีลาการตีที่สวยงามต่างจากคนอื่นอย่างเห็นชัด ซึ่งกว่าจะตีได้ดีต้องใช้เวลาฝึกฝนนานเป็นปี และนานอีกหลายปีกว่าจะเชี่ยวชาญจนสามารถแข่งขันเอาชนะคนอื่นได้ ควรเริ่มต้นฝึกตั้งแต่เป็นเด็กอายุ 5 - 6 ขวบ ฝึกให้รู้จักการเคลื่อนไหวตัวเหวี่ยงไม้ให้เป็น เช่น แชมป์โลก Werner Schlager ชาวออสเตรีย เริ่มฝึกตีปิงปองตั้งแต่อายุ 5 - 6 ขวบ คุณพ่อถึงกับตัดขาโต๊ะปิงปองให้เตี้ยลงเพื่อให้เหมาะกับความสูงของเขาสมัยนั้น ถ้าเด็กกว่าก็ฝึกตีปิงปองบนพื้นกันก็ได้

 

 

เมื่อโตขึ้นหน่อยพอจะคิดเองเป็น จึงสอนให้รู้จักกับเทคนิคที่ยากขึ้น เริ่มจากฝึกตีท่าตามลำดับต่อไปนี้ให้คล่อง

  1. Forehand Drive
  2. Backhand Drive
  3. Backhand Push
  4. Forehand Push

 

 

ในช่วงแรกต้องเน้นให้ตีได้อย่างแม่นยำก่อนดังนี้

  • สามารถควบคุมจุดกระทบระหว่างไม้กับลูกปิงปองว่าต้องห่างจากลำตัวเท่าใด ห่างจากโต๊ะเพียงใด (Impact Point)
  • สามารถตีลูกได้เลียดเน็ต
  • สามารถควบคุมทิศทางที่ตีลูกไปลงตรงมุมโต๊ะได้ทุกลูก
  • สามารถควบคุมระยะทางที่ตีลูกไปลงใกล้เส้นสกัดปลายโต๊ะได้ทุกลูก

เวลาที่ดูวิดีโอจากยูทูบ อย่าดูแค่ท่าทางตีอย่างเดียว โปรดสังเกตนักปิงปองจีนเด็กๆว่าเขาตีลูกปิงปองไปลงปลายโต๊ะได้อย่างแม่นยำใช่ไหม นี่แสดงถึงว่าเขาตีปิงปองอย่างมีคุณภาพด้วย ไม่ใช่เอาแต่ตีแรงเร็วอย่างเดียว

 

 

อย่ารีบร้อนตีแรง เร็ว หรือหมุน จนกว่าจะควบคุมความแม่นยำให้สามารถตีได้อย่างสม่ำเสมอก่อน พอตีได้แม่นยำแล้วจึงค่อยๆเพิ่มความแรง ฝึกจังหวะเหวี่ยงและการเคลื่อนไหวลำตัวเพื่อจะได้ตีแรงได้สุดกำลังโดยยังสามารถรักษาสมดุลได้ตลอด เรียนรู้จังหวะการใช้ขา เอว สะโพก ลำตัว หัวไหล่ แขนท่อนบน ข้อศอก แขนท่อนล่าง และมือให้สอดคล้องต่อเนื่องกัน สามารถตีลูกได้แรงสมกับแรงที่ออกแรงไป

หลังจากสามารถตีได้แรงและแม่นยำแล้วจึงเริ่มฝึกตีลูกให้หมุนมากขึ้น เรียนรู้วิธีตีลูกหมุนและรับลูกหมุนแบบต่างๆ โดยยังสามารถควบคุมความแม่นยำและความแรงได้เช่นเดิมด้วย

สุดท้ายจึงเริ่มฝึกตีลูกให้เร็วขึ้น พอลูกกระเด้งขึ้นก็ตีสวนกลับไปโดยไม่ต้องรอตีลูกในจังหวะกระเด้งสูงสุด ซึ่งจากการวิจัยพบว่าถ้าฝึกกล้ามเนื้อให้มีกำลังมากขึ้นจะสามารถเคลื่อนตัวและตีได้เร็วมากขึ้น โดยฝึกใช้ยางยืดบริหารกล้ามเนื้อแบบเกร็งอยู่กับที่ (isometrics with the resistance band) จะช่วยสร้างกล้ามเนื้อให้พร้อมต่อการใช้พลังและความเร็วไปพร้อมกัน (ไม่ควรฝึกยกน้ำหนักแบบยกขึ้นลงหลายๆครั้งที่ได้แต่พลังและความอดทน)

อย่ารีบร้อนเอาแต่ฝึกตีให้หมุนมากๆเพื่อต้องการเอาชนะ แค่ Backhand Push ฝึกจนคล่องหรือยัง เพราะใช่ว่าคู่ต่อสู้จะส่งลูกมาให้ตีสวยๆกลับไปทุกลูกหรอก

ปิงปองเป็นกีฬาที่ต้องโต้ตอบอย่างรวดเร็ว เร็วจนคิดไม่ทัน ไม่มีเวลาให้คิดตัดสินใจทีละขั้น ซึ่งจะตีลูกได้เร็วอย่างทันท่วงทีต้องเคยตีในท่านั้นๆมาก่อน เคยฝึกจนคุ้นเคย ถ้าใครส่งลูกมาตามแบบแผนที่เคยฝึกไว้ก็สามารถตีกลับไปได้อย่างมั่นใจว่าไม่พลาด ซึ่งกว่าจะทำได้โดยไม่พลาดเลยต้องผ่านการฝึกตีมาหลากหลายสถานการณ์ เช่น

  • ฝึกตีโต้โฟร์แฮนด์หรือแบ็คแฮนด์กันไปมา พยายามตีให้ได้นับร้อยนับพันครั้งโดยไม่เสีย บางท่าเช่นการ push ที่ดูๆแล้วน่าเบื่อก็ต้องซ้อม
  • ฝึกรับเสริฟ ก็ต้องเสริฟแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีกให้ฝึกรับกัน ไม่เสริฟเอาแต่ใจตัวเอง
  • ฝึกตีโต้ตามลำดับตำแหน่งที่ตกลงกันไว้ก่อน เช่น ส่งลูกลงด้านแบ็คแฮนด์ ต่อมาตีลงกลางโต๊ะ แล้วย้ายไปลงด้านโฟร์แฮนด์
  • ฝึกบุกโดยตกลงว่าจะตีโต้กันไปมา 2-3 ครั้งแล้วให้หาจังหวะตบเพื่อทำคะแนน
  • ฝึกหยอดกันไปมา หรือ ฝึกตีลูกสั้นสลับยาว
  • ฝึกตี backspin โดยให้เพื่อน topspin

เริ่มแรกต้องฝึกตีช้าๆก่อน พอคล่องแล้วจึงตีให้แรงขึ้นเร็วขึ้น พอคู่ซ้อมพลาดต้องช่วยโดยตีลูกที่เบาลงเพื่อเริ่มหาจังหวะกันใหม่ ไม่ใช่ว่าพอเพื่อนตีพลาดก็ฉวยโอกาสตบแรงจนเขารับไม่ได้

กว่าท่าตีที่ใช้จะสมบูรณ์ไม่ใช่ง่าย ต้องหมั่นตรวจสอบหลายๆอย่างว่าถูกต้องหรือยัง ตั้งแต่ท่ายืน จังหวะฟุตเวิร์ค การเหวี่ยงไม้ การถ่ายน้ำหนัก จังหวะที่ไม้ปิงปองกระทบลูก ระยะห่างจากโต๊ะ ระยะความสูงของลูก ความแม่นยำ ไม่ว่าจะฝึกลูกหมุนมากหมุนน้อย ตีช้าหรือเร็ว แรงหรือค่อย ได้ฝึกจนคุ้นเคยชินแล้วหรือยัง 

จากภาพวิดีโอนี้เป็นการฝึกตบลูกสูงและลูกระยะไกล แสดงปัญหาว่ายังมีสิ่งที่ต้องปรับปรุงอีกมาก เช่น

  • น่าจะจับไม้แรงเกินไป ทำให้ท่อนแขนไม่สะบัดไปเองตามธรรมชาติ
  • ยังไม่ได้ใช้แขนซ้ายช่วยในการรักษาสมดุลและช่วยในการเหวี่ยงเท่าที่ควร
  • ระหว่างการถ่ายน้ำหนัก แนวศีรษะยังส่ายไปส่ายมามากไปหน่อยทำให้ตีไม่แม่น
  • จังหวะอัดแรงยังย่อตัวโดยพับงอเอวและขาน้อยไป ทำให้เวลาปล่อยแรง ลำตัวจะกระโดดขึ้นแทนที่จะรักษาระดับให้คงที่
  • การวางเท้ายังไม่นิ่ง โดยเฉพาะยังยกส้นเท้า ทำให้ฐานของวงสวิงไม่แน่นอนและส่งแรงได้ไม่สม่ำเสมอ
  • บิดตัวไปข้างหน้ามากไปในจังหวะปล่อยแรง ทำให้แรงไม่ส่งต่อไปที่แขนได้เต็มที่
  • ยังใช้จุดหมุนที่ข้อศอกน้อยไป
  • การตีแบคแฮนด์ยังไม่ได้ใช้แรงจากเอวและขา

ถ้าใครบ่นว่า ทำไมตีกันช้าเหลือเกิน ลูกนั้นลูกนี้ตบไปให้อีกฝ่ายรับไม่ได้เลยซิ จะมัวปล่อยให้โต้กลับกันไปมาทำไม นักปิงปองที่ขาดพื้นฐาน ไม่เคยฝึกอย่างจริงจังมักพูดแบบนี้

การรับลูกเสริฟแบบ backspin ที่ส่งมาสั้นๆบนโต๊ะ ถ้าหมุนหนักมาแล้วหงายหน้าไม้ไม่พอจะตีกลับไปติดเน็ตได้ง่ายมาก ถ้ารับกลับไปแบบ backspin แต่หมุนน้อยกว่าลูกที่หมุนมา แม้ลูกปิงปองจะข้ามเน็ตลอยกลับไปได้แต่จะกลายเป็นลูก topspin ที่ฝ่ายตรงข้ามสามารถตบกลับได้ทันที อีกวิธีหนึ่งที่ใช้รับลูกเสริฟแบบนี้ได้ดีก็คือใช้ท่าตีที่งอแขนให้ข้อศอกชี้ไปข้างหน้าจนดูเหมือนกล้วยหอม จึงมีชื่อเรียกในภาษาฝรั่งว่า Banana Flip หรือ Chiquita Flip (ส่วนท่าที่เรียกว่า Bakhand Flip ไม่ต้องงอแขนมากเหมือนท่ากล้วยหอม)

แทนที่จะเอาแต่ลอกเลียนแบบท่าตีของเขามาใช้ ควรทราบหลักการที่เกี่ยวข้องจะได้ไม่ต้องลองผิดลองถูกหรือตีได้บ้างไม่ได้บ้างอย่างไร้เหตุผล 

NiwaReceive

2013060411 59 30

2013060412 01 56

2013060411 59 44

การตีลูกกล้วยๆนี้ต้องเลือกจุดที่ไม้กระทบลูกให้โดนด้านข้างของลูก backspin ที่เสริฟมา ยิ่งเลือกจุดกระทบบนลูกให้ใกล้แกนหมุนมากเท่าใด การหมุนของลูกที่มีจะส่งผลได้น้อยลงเท่านั้น ที่เห็นว่าบิดข้อมือจนหัวไม้ห้อยต่ำนั้นเพื่อทำให้ไม้กระทบลูกปิงปองด้านข้างของลูกแล้วมีแรงสะบัดขึ้นเพื่อปั่นลูกให้หมุนมากๆกลับไป หากตีลูกในจังหวะกระเด้งสูงสุดซึ่งเปิดโอกาสให้สามารถเลือกจุดสัมผัสบนลูกได้ใกล้แกนหมุนได้ง่ายอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องบิดข้อมือมากนัก

ท่ากล้วยหอมนี้นอกจากใช้แก้ลูกที่หมุนมาแล้ว ยังใช้เพื่อตีลูกหมุนข้างกลับไปให้เลี้ยวฉีกออกไป

Chiquitahttps://youtu.be/D1iuHPuivto

 

นอกจากท่ากล้วยหอม ยังมีท่าบูมเมอแรงที่ทำให้ลูกเลี้ยวออกไปอีกทางด้วย

BoomerangFlickhttps://youtu.be/LYM9PRX3QhI

 

ได้เห็นคุณพ่อคุณแม่พาลูกมาฝึกตีปิงปองแล้วรู้สึกดีใจ คุณพ่อบางคนถึงกับลงแรงเรียนปิงปองด้วยอีกคนเพื่อจะได้เอาความรู้มาสอนต่อให้กับลูก เด็กบางคนโชคดีถึงกับได้ทุนไปฝึกตีปิงปองถึงต่างประเทศกลับมาแข่งได้เป็นแชมป์ สร้างความภาคภูมิใจให้กับทุกคนที่พบเห็น ถูกยกย่องว่าสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ใครก็ตามที่ตั้งใจอยากจะเป็นแชมป์ปิงปองยุคนี้ต้องเริ่มฝึกตั้งแต่วัยเด็ก ต่างคนต่างต้องทุ่มเทเวลาเพื่อฝึกฝนหนักมากๆจนไม่มีเวลาให้ทำเรื่องอื่นโดยเฉพาะเรื่องการเรียนซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าการเล่นปิงปอง

ความภูมิใจที่สามารถตีปิงปองได้ดี เอาชนะคนอื่นได้ เป็นแรงกระตุ้นสำคัญที่ทำให้อยากจะทุ่มเทให้กับการตีปิงปองอย่างเต็มที่ แต่เด็กๆอย่าลืมว่าตัวเองยังคงมีหน้าที่ต้องเล่าเรียนอยู่ด้วย ถ้าเอาแต่เล่นจนเกรดตกต่ำก็ใช้ไม่ได้  อย่าไปฝันว่าตัวเองจะใช้ชีวิตแบบนักกีฬาอเมริกันฟุตบอล ซึ่งในความเป็นจริงเขาจะได้ทุนให้เล่นกีฬาต่อไปได้ก็ต่อเมื่อมีผลการเรียนไม่ต่ำเกินไปนัก ส่วนนักปิงปองจีนจะได้เงินจากทางการตามผลการแข่งขันและพออายุมากขึ้นก็จะได้รับหน้าที่เป็นโค้ชมีเงินเดือนให้ตลอดชีวิต แต่ก็ได้รับโอกาสนี้เพียงบางคนเท่านั้น

ส่วนนักปิงปองไทยต้องหาเลี้ยงชีพด้วยตนเอง หากตอนเด็กๆเอาแต่ตีปิงปองจนสอบอะไรไม่ผ่าน จะสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับเข้าทำงาน เมืองไทยยังไม่มีนักปิงปองอาชีพที่หาเงินเลี้ยงชีพได้ด้วยฝีมือการตีปิงปอง ถึงจะเป็นโค้ชปิงปองก็มีรายได้น้อยและไม่แน่นอน เงินรางวัลที่แจกให้กับผู้ชนะก็ใช้ได้ไม่นานก็หมด ตำแหน่งที่ราชการมอบให้ก็เป็นตำแหน่งระดับท้ายๆ สุดท้ายก็ต้องหาทางประกอบอาชีพอื่น นักปิงปองน้อยคนนักที่ประสบความสำเร็จทั้งการแข่งขันและมีตำแหน่งหน้าที่การงานระดับสูง

คิดวางแผนชีวิตให้ดีว่าอยากเป็นแชมป์ปิงปอง แต่เรียนได้แค่เกรด C - D ทำงานหาเงินได้แค่เลี้ยงตัวเองไปวันๆ ไม่มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่แน่นอน โด่งดังแค่ช่วงยังหนุ่มสาวแต่บั้นปลายชีวิตถูกหลงลืม

หรือจะเล่นปิงปองให้สนุก ให้รู้จักแพ้รู้จักชนะ ได้เป็นแชมป์ของระดับโรงเรียนก็พอ แล้วมุ่งการเรียนให้ได้เกรด B เป็นอย่างต่ำ มีอนาคตกับการทำงาน มีรายได้เป็นแสนต่อเดือน และมีเงินเก็บเป็นล้านไว้ใช้ในช่วงบั้นปลายชีวิต

ถ้ามีลูกมีหลานเป็นแชมป์ปิงปอง แต่เรียนได้เกรด D ตกซ้ำชั้น เรียนไม่เอาถ่าน หรือพูดไม่ออกเมื่อถูกถามเรื่องการเรียน แบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่าภูมิใจสำหรับพ่อแม่ โค้ช หรือประเทศชาติเท่าใดนัก

โปรดอ่าน http://www.thairath.co.th/content/508894


 

ขอยกคำแนะนำจาก FB มาให้อ่าน ซึ่งผมเน้นข้อสุดท้ายว่า ควรเป็นจุดมุ่งหมายของการเล่นปิงปอง

20 ข้อ ที่ควรรู้และปฏิบัติก่อนอายุ 45...

  1. ไม่ต้องตั้งใจเรียนมากไปในสายวิชาที่ตนเลือก แต่ภาษาอังกฤษ จำเป็นมากๆ จงให้ใส่ใจ ส่วนวิชาอื่นๆ เอาแค่ดีพอหางานดีๆทำก็พอ เพราะโลกแห่งความเป็นจริง วัดกันที่ผลงาน ไม่ใช่ที่เกรด ภาษาอังกฤษสร้างผลงานได้
  2. การทำกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นสำคัญมากพอๆ กับการคร่ำเคร่งหน้าตำราเรียน
  3. เลือกงานที่เราชอบนั้นใช่ แต่อย่าลืมด้วยว่า อาชีพนั้น.. สามารถเลี้ยงดูตัวเราได้จริงหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็อย่าหลอกตัวเอง
  4. เมื่อถึงวัยทำงาน ใครเก็บเงินก่อน รวยเร็วกว่าและสิ่งสำคัญ ที่ต้องจำไว้ คือ "ชีวิตที่ไม่มีหนี้ คือชีวิตที่ประเสริฐที่สุด"
  5. หาเป้าหมายในชีวิตให้เจอโดยเร็วที่สุด เพราะมันจะเป็นเครื่องนำทางของคุณ ในชาตินี้ตลอดไป
  6. ซื้อบ้านก่อน ที่จะซื้อรถ เพราะบ้านมีแต่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น รถมีแต่มูลค่าลดลง ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า รถ=ลด
  7. ดอกเบี้ยบ้านนั้นมหาโหดมาก รีบใช้ให้หมดโดยเร็วพลัน ก่อนที่จะแก่ แล้วผ่อนไม่ไหว
  8. การเก็บเงินเป็นแค่บันไดขั้นแรก สู่ความร่ำรวย แต่ขั้นต่อมา คือ ต้องรู้จักลงทุน. อย่าลืมคบกับที่ปรึกษาการเงินไว้เป็นเพื่อน
  9. อย่าเป็นศัตรูกับใครก็ตามบนโลกใบนี้ เพราะคุณจะไม่มีทาง รู้ว่าวันหนึ่งเขาอาจจะยิ่งใหญ่มาก จนกลับมาทำร้ายคุณก็เป็นได้
  10. คอนเน็คชั่นหรือสายสัมพันธ์เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ต่อให้เก่งแค่ไหน ก็สู้การมีเพื่อนเยอะไม่ได้
  11. ควรมีงานทำมากกว่า 1 งาน เพราะความมั่นคง ไม่เคยมีบนโลกใบนี้
  12. อย่าคิดว่าตัวเองทำอะไรได้แค่อย่างเดียว เพราะความสามารถของคนเรา มีมากกว่า 1 เสมอ
  13. เมื่อมีโอกาสใดก็ตามเข้ามา จงอย่าปฏิเสธ ถึงจะล้มเหลว แต่มันก็คือ ประสบการณ์
  14. สร้างเนื้อ สร้างตัว ให้ได้เร็วที่สุด ในขณะที่คุณยังมีกำลัง ยังเป็นหนุ่ม-สาว เพราะการฝ่าฟันอุปสรรคในช่วงอายุมาก ไม่ใช่เรื่องสนุก
  15. ออกเดินทางท่องเที่ยวตั้งแต่ยังหนุ่มสาว เพราะเมื่อมีครอบครัว การเดินทางจะเป็นเรื่องยุ่งยากกว่าเดิม
  16. เลือกคู่ชีวิต จงคิดให้ดีๆ อย่าดูแต่ข้อดีของเขา แต่ต้องดูด้วยว่าเราสามารถรับข้อเสียของเขาได้มากแค่ไหน
  17. การมีแฟน หรือสามีภรรยา ยังเลิกกันได้ แต่ความเป็นพ่อแม่ลูก นั้นเลิกกันไม่ได้ เพราะฉะนั้น ควรดูแลพวกเขาให้ดีๆ
  18. ความสำเร็จที่มากมายแค่ไหน ก็ไม่สามารถ ทดแทนความล้มเหลวของครอบครัวได้
  19. ลองหาเวลาอยู่ว่างๆ ไม่ต้องทำอะไรเลยดูบ้าง อย่าแบก โลกทั้งใบไว้คนเดียว และอีกอย่างงานก็ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต
  20. สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญอันหนึ่ง โปรดถนอม ตัวเองให้มาก เมื่อยังเป็นวัยรุ่น อย่าใช้ชีวิตให้หนักเกินไป

วงการปิงปองทุกวันนี้แตกต่างจากหลายสิบปีก่อนมาก เดี๋ยวนี้อะไรๆก็เป็นเงินเป็นทองกลายเป็นเรื่องธุรกิจกันไปหมด จากสมัยแรกที่ผมเริ่มตีปิงปอง ลูกปิงปองนิตากุ 3 ดาวราคาลูกละ 3.50 บาท กลายมาเป็นลูกละ 50-60 บาท ไม้ปิงปองกับยางปิงปองราคาจากไม่กี่ร้อยกลายมาแพงหลายพันบาท แถมไม่รู้ว่าราคาที่แท้จริงแพงหรือไม่ เพราะใช้วิธีตั้งราคาแพงไว้ก่อนแล้วโฆษณาว่าลดราคา 30-40% บางช่วงลดพิเศษ 50-60% นี่แสดงว่าเขาตั้งราคาเผื่อไว้ตั้งเยอะ พอต้นทุนในการใช้ชีวิตแพงขึ้น แทนที่จะสอนปิงปองให้กันฟรีๆ เดี๋ยวนี้ก็คิดค่าสอนชั่วโมงละ 200-300 บาท คิดเสียว่าพอเป็นค่าขนมของครูปิงปองที่ไม่ได้มีรายได้จากการทำอาชีพอื่น

ไม่ว่าจะอ้างเหตุผลการคิดค่าสอนปิงปองกันอย่างไร การสอนให้ความรู้กับผู้อื่นย่อมเป็นสิ่งที่ดีควรทำอยู่แล้ว เพียงแต่หากสอนโดยไม่คิดเงินได้จะดีกว่ามาก อย่างที่ผมทำเว็บ TableTennisTip.com นี้ไม่ได้หวังจะรับเงินทองหรือต้องการสิ่งของตอบแทนจากผู้ใด ขอแต่เพียงให้ความรู้ของตัวเองไม่สูญหายไปโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งนอกจากเว็บสอนปิงปองนี้แล้วยังสร้างเว็บที่ให้ความรู้ด้านอื่นฟรีอีกหลายเว็บ การให้โดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนเป็นความรู้สึกดีและภาคภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก

สมัยเป็นเด็กได้เรียนปิงปองฟรีกับครูจันทร์ ชูสัตยานนท์ ทำให้ผมรู้สึกมาตลอดว่า ท่านเป็นครูที่เหนือกว่าครูอาจารย์ทุกคน เป็นตัวอย่างทำให้อยากจะให้แบบนั้นบ้าง

ถ้าช่วยกันสอนปิงปองฟรี จะเป็นโอกาสสำหรับนักปิงปองที่อยากเก่งแต่ขาดทุนทรัพย์อีกมาก

ส่วนตัวโค้ชหรือครูสอนปิงปองที่ดี ควรมีความรู้จริงทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ แม่นยำในเทคนิคพื้นฐาน เน้นยุทธวิธีเอาชนะ สามารถสอนให้นักปิงปองสามารถปรับตัวได้ตามสถานการณ์และมียุทธวิธีของตัวเองที่หลากหลาย

ไม่ใช่ว่าตัวเองรู้แค่งูๆปลาๆแล้วสอนคนนั้นคนนี้ได้ไปหมด ก่อนจะเริ่มสอนใครควรปล่อยให้ลูกศิษย์ตีให้ดูนานระยะหนึ่งก่อน ท่าบางท่าที่ตีแปลกๆหากไม่เสียหายมากนักก็ปล่อยไว้บ้างก็ได้เพราะอาจจะเป็นอาวุธลับที่ตีเอาชนะคนอื่นได้ อย่าสอนคนที่เขามีโค้ชอยู่แล้วเพราะจะทำให้ไขว้เขวว่าจะตีปิงปองอย่างไรกันแน่ พึงระลึกไว้ว่าการสอนวิธีผิด ผิดที่ ผิดคน และผิดเวลาเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด

ส่วนตัวนักปิงปองควรเลือกโค้ชให้ดี ไม่ใช่ว่าเห็นเขาชอบสอนฟรีเลยชอบให้เขาสอน ไม่ใช่ว่าเห็นเขาตีได้ดีเอาชนะคนอื่นได้เลยมั่นใจว่าเขาต้องรู้จริง คนที่จับไม้แบบสากลหรือไม้จีนควรเรียนกับโค้ชถนัดสอนในการจับไม้แบบเดียวกัน อย่าเลือกโค้ชที่มีลูกศิษย์ตีปิงปองสไตล์เดียวกันทุกคน

จะสอนหรือจะเรียนปิงปองกับใครสักคนต้องสอนต้องเรียนได้ต่อเนื่องในระยะยาว ไม่ใช่ว่าเพียงเพราะวันนี้แค่ได้เจอกัน

  1. เรียนรู้และฝึกท่าตีประเภทต่างๆจนกว่าจะคล่อง เน้นเทคนิควิธีตีที่ถูกต้อง
  2. ฝึกแต่ละท่าซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกว่าจะตีได้โดยอัตโนมัติ โดยฝึกตีโต้ท่าเดิมกันไปมาหรือป้อนลูกให้ตี
  3. ตีหลายๆแบบผสมกันในลักษณะที่ซ้ำแล้วซ้ำอีก เช่น ตีโฟร์แฮนด์สลับกับแบ็คแฮนด์ หรือเสริฟแล้วบุกไม้สาม
  4. เมื่อฝึกขั้นตอนข้างต้นจนมั่นใจแล้ว ให้ทุ่มเทเวลาฝึกส่วนใหญ่ให้กับการทดลองใช้ท่าตีที่ฝึกในการแข่งขัน
  5. ถ้าฝึกแข่งขันแล้วยังพบว่าไม่สามารถทำได้ดี ให้ย้อนกลับไปฝึกซ้อมตีท่าซ้ำๆอีก
  6. ปรับเงื่อนไขการฝึกแข่งขันให้ยากหรือมีข้อจำกัดมากขึ้น เช่น กำหนดให้เสริฟคนละครั้ง หรือคนเก่งกว่าให้เสริฟได้ครั้งเดียว ถ้าเสริฟแล้วอีกฝ่ายตีไม่โดนลูกให้ชนะไปเลย ถ้าใครตีลูกเสียเองติดต่อกัน 2 ครั้งให้ถือว่าแพ้ หรือให้ฝ่ายหนึ่งเสริฟข้างเดียว (ไม่ควรต่อคะแนนให้กันเพราะไม่ได้เพิ่มความยากให้กับฝ่ายที่เป็นรอง)
  7. ทดสอบในการแข่งขัน

ขั้นตอนข้างต้นดูแล้วเข้าใจได้ง่าย แต่ที่สำคัญที่สุดนักปิงปองต้องเข้าใจให้ถ่องแท้ถึงเหตุผลก่อนว่า ทำไมจึงต้องฝึกแต่ละท่าซ้ำแล้วซ้ำอีก นี่เป็นเพราะ Muscle Memory

MuscleMemory LiuShiwen 

Muscle Memory แปลตามศัพท์ว่า ความจำของกล้ามเนื้อ แต่ไม่ได้หมายถึงว่ากล้ามเนื้อมีเซลล์อะไรที่สามารถจดจำท่าตีได้หรอกนะ การฝึกตีท่าเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีกจะช่วยทำให้สมองจดจำท่าตีเอาไว้ พอจำได้ขึ้นใจแล้วเมื่อถึงเวลาจะใช้งานก็ไม่ต้องเสียเวลาคิดซ้ำ ก็เหมือนกับการที่คุณเดินได้วิ่งได้โดยไม่ต้องมีใครช่วย เหมือนกับการพิมพ์ที่ไม่ต้องมองแป้นพิมพ์ เหมือนกับการเล่นเปียโนที่นิ้วจะร่ายรำไปตามตัวโน้ตได้เอง ยิ่งมีกล้ามเนื้อแข็งแรง ยิ่งจะทำให้ระบบประสาทสั่งการได้เร็วขึ้น

MuscleMemory wttc2013 

การฝึกเทคนิควิธีตีที่ถูกต้องเป็นจุดเริ่มต้นของความทรงจำที่ดี โค้ชหรือครูปิงปองต้องสอนเทคนิควิธีตีที่ถูกต้องเป็นด้วย หากสอนท่าผิดๆแล้วใช้การซ้อมป้อนลูกให้แบบ multi-ball จะกลับกลายเป็นการป้อนความทรงจำที่ผิดตามไปด้วย โค้ชต้องแก้ไขท่าทางการตีให้ถูกต้องก่อนแล้วจึงซ้อมป้อนลูกให้

อย่างไรก็ตามคนเรามักจำแต่เรื่องที่ไม่ดี พอตีเสียมักจะจำเรื่องราวนั้นไว้ชัดเจนกว่าเรื่องอื่น ดังนั้นจึงต้องหัดลืมอดีตแล้วฝึกเทคนิคท่าตีที่ดีเอาไว้เรื่อยๆ หลังจากฝึกซ้อมเสร็จแล้วในช่วง 24 ชั่วโมงถัดไปนักปิงปองควรใช้เวลานึกคิดทบทวนถึงการฝึกของตนในช่วงวันที่ผ่านไป เพื่อช่วยให้สมองจดจำได้ชัดเจนขึ้น

การฝึกตีซ้ำๆ พอมั่นใจว่ามีท่าตีที่ถูกต้องใช้ได้แล้วจึงค่อยเพิ่มระดับความยาก เริ่มจากตีโต้กันไปมาช้าๆก่อน แล้วเพิ่มความเร็วความแรงทีละเล็กทีละน้อย เมื่อสามารถตีได้แม่นยำแล้วจึงเริ่มผสมท่าตีหลายๆท่าต่อเนื่องกัน อย่ารีบร้อนเพิ่มความยากให้กับตัวเองหากยังตีไม่แม่น ซึ่งต้องอาศัยพละกำลังและฟุตเวิร์คที่ดีมาช่วยทำให้ขยับตัวไปมาตีท่าหลายๆท่าได้ต่อเนื่อง

พึงระลึกไว้ว่า การฝึกเล่นเกมนับแต้มเป็นเพียงวิธีทดสอบหาว่าท่าตียังมีข้อบกพร่องอะไรบ้าง เพื่อจะได้กลับไปฝึกซ้อมปรับปรุงการตีให้ดีขึ้น แต่อย่าเอาแต่เล่นเกมนับแต้มกันอย่างเดียว เพราะนั่นเป็นการใช้ความจำจาก Muscle Memory แต่ไม่ได้ทำให้เกิด Muscle Memory

ครั้งแรกที่ผมลงสมัครแข่งขันเพื่อชิงแชมป์ประเทศไทย สมัยนั้นผมยังเด็กและตื่นเต้นมาก เมื่อถึงเวลาลงแข่งขันก็ซ้อมน้อคลูกกับคู่ต่อสู้ตามปกติ พอซ้อมตีกันได้สักพักคู่ต่อสู้ก็ขอตัวบอกว่าขอขึ้นไปเอาของก่อนเดี๋ยวค่อยมาเริ่มแข่งกัน แต่คนที่ลงมาแข่งกับผมกลับเป็นอีกคนหนึ่ง กรรมการก็ไม่ว่าอะไรทั้งๆที่เห็นได้ชัดว่าคนที่ลงมาตีกับผมคนแรกนั้นลงมาเพื่อถ่วงเวลารอเพื่อนที่ยังไม่มา น่าเสียดายที่ครั้งนั้นผมไม่ได้โวยวายทั้งๆที่ถูกโกงซึ่งๆหน้า ถ้ามีการตรวจสอบบัตรประชาชนดูชื่อนามสกุลของคนที่ลงแข่งจะหมดปัญหาการลงแข่งแทนกัน ตัวกรรมการต้องไม่รู้จักสนิทสนมกับคู่แข่งขัน

การโกงอื่นๆที่เห็นได้ไม่ชัดเจนแต่มีเจตนาเอาเปรียบคู่ต่อสู้ก็ยังถือว่าเป็นการโกงอยู่ดี ส่วนใหญ่มักเกิดจากการใช้ช่องโหว่ของกติการที่ไม่ได้เขียนไว้ เช่น

  • เอามือซ้ายวางไว้บนโต๊ะช่วงที่รอรับเสริฟ อ้างว่ากติกาห้ามวางมือข้างที่ไม่ใช้ตีในช่วงที่กำลังเริ่มเล่นกันเท่านั้น ไม่ได้ห้ามวางมือบนโต๊ะช่วงก่อนเสริฟสักหน่อย
  • เตะถ่วงไม่ยอมเสริฟเสียทีถ่วงเวลาเดินไปเดินมานานเกินควร
  • พอจับลูกได้ก็เสริฟเร็วทันทีโดยไม่วางลูกบนอุ้งมือที่นิ่งให้เห็นชัด
  • แทบไม่ช่วยเก็บลูกปิงปองให้หรือพอเก็บลูกปิงปองได้ก็โยนข้ามโต๊ะมาให้โดยไม่รอดูว่าอีกข้างเขาพร้อมหรือยังทำให้ต้องเดินไปเก็บลูกกลับมาเสริฟอยู่ดี
  • ใช้เวลาช่วงซ้อมก่อนแข่งตบลูกแรงๆไปอีกทางหรือตีไม่ลงโต๊ะเพื่อให้ไปเก็บลูก
  • ชอบกระทืบเท้า
  • ชอบออกเสียงดังๆเพื่อกวนประสาท ถ้าใช้ตอนที่คู่ต่อสู้ทำเสียเองหรือตีไม่ได้เพราะลูกเฉี่ยวเน็ตหรือลูกกู้ดถือว่าเสียมารยาทอย่างแรง แต่ถ้าออกเสียงเพื่อกระตุ้นตัวเองหรือใช้ตอนที่ตัวเองทำแต้มได้ก็ไม่ว่ากัน ทางที่ดีไม่ควรออกเสียงใดๆเลยเพราะการออกเสียงเป็นอาการแสดงออกให้คู่ต่อสู้ทราบว่าตัวเองกำลังเครียดหรือวิตกกังวล

... อะไรๆที่ทำให้คู่ต่อสู้เสียอารมณ์เป็นต้องหาทางนำมาแหย่คู่ต่อสู้ไว้ก่อน ทุกทางที่เอาเปรียบได้แม้นิดๆหน่อยๆก็เอามาทำกัน ทำทุกวิธีเพื่อเอาชนะแม้ไม่ขาวสะอาดนักก็จะทำ ซึ่งคนพวกนี้เชื่อในแบบของเขาเองว่าไม่ได้ผิดกติกาใดๆ

 

 

Go to top