โดยทั่วไปมักสอนกันว่า ให้ตั้งหน้าไม้รับลูกเสริฟเพื่อส่งลูกปิงปองกลับไปในทิศทางที่ไม้ของผู้เสริฟตั้งต้นเหวี่ยงไม้เพราะถ้ารับแบบตั้งหน้าไม้ตรงๆลูกจะกระเด้งออกไปในทิศทางที่ไม้ของผู้เสริฟเหวี่ยงออกไป เช่น ถ้าเสริฟ forehand หรือที่เรียกกันว่า Forehand Pendulum Serve ซึ่งผู้เสริฟเหวี่ยงไม้จากซ้ายมือของเราไปทางขวา ก็ให้ตั้งหน้าไม้รับเพื่อส่งลูกกลับไปทางซ้าย จึงง่ายที่จะใช้ forehand loop รับลูกเสริฟกลับไปเพราะหน้าไม้ปิงปองหันไปทางซ้ายในตัวอยู่แล้ว แต่ถ้ารับด้วย backhand ที่หน้าไม้เปิดไปทางขวาหรือปรับมุมหน้าไม้รับไม่ดีลูกจะกระเด้งออกโต๊ะไปทางขวามือ 

FHPendulumServehttps://youtu.be/fZvkFChf6MM

 อย่างไรก็ตามนักปิงปองที่เสริฟเก่งต้องหาทางซ่อนท่าทางให้ดูออกยากที่สุดว่าเขาเสริฟลูกหมุนแบบใดออกมา บางลูกอาจหมุนในทิศทางตรงกันข้ามกับที่เข้าใจแม้ดูว่าเขาเสริฟมาโดยใช้ท่าเดียวกันก็ตาม ดังนั้นแทนที่จะดูแต่เพียงจังหวะที่ลูกสัมผัสหน้าไม้เพียงอย่างเดียว อีกทางหนึ่งยังสามารถดูได้จากวิถีของลูกเสริฟที่กระเด้งบนโต๊ะข้างผู้เสริฟลอยข้ามเน็ตมาได้อีกว่า จะต้องตั้งหน้าไม้รับลูกเสริฟกลับไปในทิศทางไหน

RecieveSideSpin

 

ให้สังเกตแนววิถีของลูกที่เสริฟที่ลอยมาว่ามีแนวโค้งออกไปทางใด ให้รับลูกโดยตั้งหน้าไม้เล็งไปทางด้านในของวิถีโค้ง บางลูกอาจต้องเล็งออกไปนอกแนวขอบโต๊ะด้านข้างด้วยซ้ำเพื่อชดเชยให้ลูกลอยกลับไปลงในตำแหน่งที่ต้องการ (จะสังเกตแนววิถีโค้งได้ชัดเจน ถ้าเทียบช่วงที่ไม้กระทบลูกถึงจุดที่ลูกกระทบโต๊ะฝั่งผู้เสริฟว่า มีแนวหักเข้าหรือออกจากแนววิถีช่วงที่ลูกลอยข้ามเน็ต และช่วงวิถีที่ลูกกระเด้งบนโต๊ะฝั่งเรา เช่น ตามภาพด้านล่างนี้มีแนววิถีที่หักเข้าไปทางซ้ายมือของเรา)

RecieveSideSpin4

ZJServehttps://youtu.be/y7S7MAp6Vv4

นอกจากนี้ให้สังเกตความเร็วของลูก

  • ถ้าลูกลอยมาเร็วขึ้นแสดงว่าเป็นลูกหมุนแบบผสม topspin ต้องปรับมุมหน้าไม้ให้คว่ำลง
  • ถ้าลูกลอยมาช้าลงแสดงว่าเป็นลูกหมุนแบบผสม backspin ต้องปรับมุมหน้าไม้ให้หงายขึ้น

นักปิงปองที่ไม่มีครูสอนหรือขาดพื้นฐานทางหลักทฤษฎี ถ้าเอาแต่ฝึกปฏิบัติกว่าจะรับเสริฟแล้วไม่กระเด้งออกหรือติดเน็ต ต้องหาคู่ซ้อมที่ป้อนลูกเสริฟแบบเดิมมาให้ฝึกรับซ้ำนับครั้งไม่ถ้วน ถ้าคู่ซ้อมเข้าใจและช่วยฝึกให้ก็แล้วไป แต่ส่วนมากมักเจอคู่ซ้อมที่เสริฟเอาแต่ใจตัวหรือเสริฟไม่เก่ง ไม่สามารถควบคุมทิศทางและระดับการหมุนของลูกให้คงที่ ทำให้กว่าจะรับเสริฟเป็นต้องฝึกแบบลองผิดลองถูก ได้แต่รับเสริฟแบบขอไปที

ตามหลักทั่วไป ถ้าฝ่ายเสริฟเหวี่ยงไม้ออกไปทางใด ถ้าฝ่ายรับตั้งหน้าไม้ขนานกับเสันสกัด ลูกที่รับเสริฟจะกระเด้งออกไปในทิศทางตามที่ฝ่ายเสริฟเหวี่ยงไม้ออกไปนั้น เช่น ถ้าเสริฟด้วย Forehand Pendulum Serve ซึ่งเหวี่ยงไม้จากซ้ายไปขวา (ในมุมมองของผู้รับ) ลูกที่รับจะกระเด้งออกไปทางขวาของผู้รับ ผู้รับเสริฟจึงต้องเรียนรู้การปรับมุมหน้าไม้ให้ส่งลูกสวนทางกลับไปลงโต๊ะให้ได้ 

 FHServeReturn

การรับเสริฟด้วยยางสมัยใหม่ทำได้ยากกว่ายางยุคก่อนมาก เริ่มแรกผู้รับลูกเสริฟต้องรู้จักผ่อนแรงของลูกที่เสริฟมาให้เป็นก่อน เพื่อควบคุมไม่ให้ลูกกระเด้งออกไปจากยางที่ใช้รับกลับออกไปแรงหรือค่อยเกินไป (ซึ่งมักจะแรงเกินไป) จะได้สามารถควบคุมระยะของลูกที่โต้กลับได้แม่นยำ

 

Receivinghttps://youtu.be/w9VAOtlZwlQ

 

วิธีผ่อนแรงลูกที่เสริฟมา ทำได้หลายแบบ อาจใช้วิธีจับไม้ให้หลวมไว้เพื่อทำให้ลดแรงที่ลูกเสริฟวิ่งมากระทบไม้หรือใช้วิธีชักไม้กลับเล็กน้อยหลังจากที่ลูกกระทบไม้ อีกทางหนึ่งหากใช้ยางปิงปองมีความสามารถในการควบคุมสูง (high friction) แทนที่จะตั้งมุมหน้าไม้ให้ตั้งฉากกับทิศทางที่ลูกเสริฟมา ให้ตั้งหน้าไม้เอียงแฉลบออกจากทิศทางที่ลูกวิ่งมาหรือตั้งหน้าไม้ให้ตั้งฉากกับเน็ต หวังให้ลูกกระเด้งออกจากหน้าไม้ไปทางด้านข้างของโต๊ะหรือกระเด้งออกไปข้างหลังเลยทีเดียว จากนั้นจึงออกแรงส่งลูกกลับไปในทิศทางที่ต้องการ ซึ่งวิธีนี้ต้องเผื่อปรับมุมที่ออกแรงรับเสริฟกลับไปให้พอดีกับลูกที่เสริฟหมุนเร็วมากน้อยให้ดีด้วย

 

ReturnFHServe

 

ถ้าลูกที่เสริฟมานั้นหมุนแบบ Forehand Pendulum เมื่อรับเสริฟโดยการตั้งหน้าไม้ให้หัวไม้เฉียงชี้ไปข้างหน้าด้านขวา ส่งผลให้ลูกปิงปองที่วิ่งมากระทบไม้มีทิศทางของแรงกระเด้งออกจากไม้ไปทางซ้ายตามเส้นสีฟ้า ส่วนแรงหมุนของลูกเสริฟย่อมมีทิศทางสะท้อนกลับขนานกับแนวหน้าไม้เสมอ เมื่อออกแรงเฉือนไม้ไปที่ลูกสวนทางกับทิศทางของการหมุนของลูก เท่ากับเป็นการหมุนสู้ชนกับลูกที่หมุนมาจึงได้รับอิทธิพลจากการหมุนมาเต็มที่ ลูกปิงปองจะกระเด้งออกจากหน้าไม้ไปเร็วมาก แต่เนื่องจากตั้งหน้าไม้กันไม่ให้ลูกกระเด้งออกไปทางขวาไว้ก่อนแล้วและออกแรงไปในทิศทางที่ฝืนกับทิศที่ลูกจะออก จึงสามารถรับเสริฟกลับไปลงโต๊ะและกลายเป็นลูกที่หมุนกลับข้างกับการหมุนที่เสริฟมา

การรับเสริฟโดยสู้กับการหมุนของลูกที่เสริฟมา ผู้รับเสริฟต้องปรับหน้าไม้ให้ในจังหวะที่ลูกกระทบไม้นั้นหน้าไม้ชี้ไปในทิศทางที่ยังอยู่บนโต๊ะฝั่งตรงข้ามเสมอ ถ้าลูกที่หมุนมาติด backspin ด้วย ให้หงายหน้าไม้รับ ถ้าติด topspin ให้คว่ำหน้าไม้รับ

ควรรับลูกให้เร็วที่สุดในจังหวะที่ลูกกระเด้งขึ้นสูงกว่าเน็ตจนถึงจุดสูงสุดเพื่อส่งลูกเลียดเน็ตและสั้นกลับไป หากรับลูกในจังหวะลอยลงจะเปิดโอกาสให้ฝ่ายเสริฟตั้งหลักทันและลูกที่รับไปมักเป็นลูกยาวและโด่งง่ายที่จะถูกบุกไม้สาม

ไม่ควรใช้ข้อมือในการรับเสริฟเพราะควบคุมทิศทางได้ยาก ถ้ารับลูกเสริฟสั้นบนโต๊ะให้ใช้แรงจากท่อนแขนล่างผลักลูกกลับไปโดยไม่ต้องออกแรงมากนัก และอย่าก้าวเท้าขวาไปใต้โต๊ะเพื่อรับลูกที่เสริฟมาทางด้านแบ็คแฮนด์เพราะลำตัวจะปิดไม่สามารถเปิดให้ย้อนกลับมาตั้งท่าเตรียมพร้อมได้ทันถ้าถูกโยกกลับมาทางขวา

  

Receiving2https://youtu.be/RINO2HxZHV4

Receiving3 
https://youtu.be/jx0OOgcEPX4

Receiving4https://youtu.be/vjMSGj8_4xI

ปิงปองเป็นกีฬาที่ต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ในระยะใกล้ แม้ไม่ได้ประชิดตัวถึงขั้นคลุกวงในตีเข่าเหมือนกับการชกมวยก็ตาม ฝ่ายรับลูกเสริฟต้องหาทางทำให้ฝ่ายเสริฟตัดสินใจเสริฟได้ยากที่สุด พอเห็นการตั้งท่าเตรียมรับลูกเสริฟก็เกิดความเกรงกลัวขึ้นมาแล้ว

  1. แต่งตัวให้ดูดี เลือกสีเข้มจะดูน่าเกรงขามมากกว่าสีอ่อน
  2. ตั้งท่าเตรียมพร้อมให้ดี แค่ดูจากท่าก็รู้แล้วว่าฝึกมามากแค่ไหน
  3. ซ้อมน้อคลูกไม่ให้พลาดในช่วงก่อนเริ่มแข่ง
  4. เลือกระยะยืนรับลูกเสริฟห่างจากโต๊ะให้มากกว่าปกติบ้าง ฝ่ายเสริฟจะไม่กล้าเสริฟยาวอัดเข้าลำตัวและมีแนวโน้มที่จะเสริฟลูกสั้นมากกว่าลูกยาว
  5. เปลี่ยนวิธีการวางเท้าอยู่เสมอให้เหมาะสมกับตำแหน่งและท่าทางของฝ่ายเสริฟ
  6. ขยับตัวหลอกโดยการเคลื่อนเท้าออกไปแต่ไม่ได้ขยับตัวไปจริง เช่น หลอกโดยขยับเท้าไปทางซ้าย ฝ่ายเสริฟมักจะตีไปทางขวาเพื่อกะจะโยก

ช่วงเวลารับลูกเสริฟเป็นช่วงเวลาที่ฝ่ายรับเสียเปรียบเต็มที่ แม้จะรับลูกเสริฟข้ามเน็ตไปลงโต๊ะได้แล้วจะถูกไม้สามหรือไม้ห้าตีบุกกลับมาทำคะแนนได้อีก ดังนั้นการรับลูกเสริฟที่ดีจึงไม่จำกัดเพียงแค่อ่านลูกเสริฟให้เป็นเพื่อรับลูกให้ข้ามเน็ตเท่านั้น หากยังต้องวางแผนการรับให้ดีเพื่อสลายความเสียเปรียบที่มีอยู่ตั้งแต่เปิดเกม อย่ามุ่งมั่นเพียงแค่ว่าต้องชิงบุกเพื่อทำคะแนนก่อน เพราะการชิงบุกนั่นแหละอาจเข้าแผนของฝ่ายเสริฟก็เป็นได้ แทนที่จะใช้ความแรงหรือหมุนในการโต้กลับ ควรยึดหลักต่อไปนี้ในการรับลูกเสริฟ

  1. ความแน่นอน คงเส้นคงวา สามารถรับเสริฟได้ทุกลูก
  2. เลือกทิศทางส่งลูกไปลงโต๊ะในตำแหน่งที่เป็นจุดอ่อนของคู่ต่อสู้หรือบุกกลับไม่ถนัด
  3. พลิกแพลง อย่าใช้วิธีรับเสริฟอย่างเดียวกันไปตลอด ปรับหน้าไม้หลอกทิศทางในช่วงวินาทีสุดท้ายก่อนไม้จะกระทบลูก

ก่อนเริ่มแข่งนับแต้ม อย่าลืมขอดูไม้ของคู่ต่อสู้ว่าเขาใช้ยางอะไร ยางเม็ดสั้น ยางเม็ดยาวใช้สีดำหรือสีแดง อย่าดูแค่รุ่นหรือยี่ห้อของยางที่ใช้ ให้สังเกตลักษณะผิวยางให้ดีเพราะเขาอาจใช้ยางจนกระทั่งหน้ายางด้านหรือมันวาวซึ่งไม่สามารถสร้างการหมุนได้เต็มที่เหมือนยางใหม่ ไม่ควรจับหน้ายางหรือใช้นิ้วลากผ่านหน้ายางของคู่ต่อสู้เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่สุภาพ ขอให้จับแค่ที่ด้ามแล้วใช้สายตาดูยางของเขาเท่านั้น

ถ้าคู่ต่อสู้มีนิสัยจับลูกแล้วเสริฟอย่างเร็วจนดูไม่ทัน ควรยกมือซ้ายขึ้นเพื่อแสดงว่ายังไม่พร้อมหรือตั้งท่ารับช้าหน่อย ซึ่งการเสริฟที่ดีต้องวางลูกไว้ที่กลางฝ่ามือให้คู่ต่อสู้และกรรมการเห็นได้ชัดว่าเขาโยนลูกปิงปองขึ้นไปตรงๆจนกระทั่งไม้กระทบลูกในจังหวะที่ลูกตก

ให้อ่านลูกที่เสริฟมาโดยดูเฉพาะจังหวะที่ไม้ของคู่ต่อสู้กระทบลูกเท่านั้นว่ามีทิศทางการเคลื่อนหน้าไม้อย่างไร

  • ถ้าไม้กระทบลูกแล้วไม้เคลื่อนลง หรือลูกพุ่งขึ้นจากไม้ แสดงว่าเป็นลูก back spin
  • ถ้าไม้กระทบลูกแล้วไม้เคลื่อนขึ้น หรือลูกพุ่งลงจากไม้ แสดงว่าเป็นลูก top spin
  • ถ้าไม้กระทบลูกแล้วไม้เคลื่อนไปทางด้านข้าง แสดงว่าเป็นลูก side spin และเมื่อรับจะกระเด้งออกไปในทิศทางตามที่ไม้ของผู้เสริฟชี้ไป
  • ฟังเสียงของไม้กระทบลูก ถ้าเสียงค่อยมักจะหมุนมาก
  • ถ้าความเร็วของลูกที่ลอยข้ามเน็ตมาช้าลงและไม่กระเด้งแรงขึ้น แสดงว่าเป็นลูก back spin
  • ถ้าความเร็วของลูกที่ลอยข้ามเน็ตมาเร็วขึ้นและกระเด้งแรงขึ้น แสดงว่าเป็นลูก top spin
  • ถ้าแนวของลูกเสริฟกระเด้งแบบเลี้ยวโค้ง แสดงว่าเป็นลูก side spin
  • ถ้าเห็นตรายี่ห้อที่ประทับบนลูกแสดงว่าหมุนน้อย ถ้าไม่เห็นตราแสดงว่าหมุนมาก
  • ถ้าโยนลูกเสริฟขึ้นไปสูงและเสริฟไม่ชำนาญ มักเป็นลูกยาวและหมุน top spin ไม่มาก
  • ท่าทางการวางลำตัวและท่าการเหวี่ยงไม้ของผู้เสริฟมักแสดงถึงลูกที่จะเสริฟมาได้ด้วย

เนื่องจากยางปิงปองยุคใหม่มีคุณสมบัติในการเกาะลูกดีกว่าก่อนมาก ในแง่ดีคือสามารถปั่นลูกให้หมุนมาก แต่ในอีกแง่หนึ่งทำให้รับลูกหมุนได้ยากขึ้น จึงต้องวางหน้าไม้ให้ถูกและเลือกวิธีสู้กับการหมุนของลูกที่เสริฟมาให้ดี โดยทั่วไปให้รับลูกเสริฟ โดยปั่นลูกที่หมุนมากกว่ากลับไป

  • ถ้าเป็นลูกยาว ให้ใช้การ loop กลับไป
  • ถ้าเป็นลูกสั้น
    • ลูกเสริฟ top spin หรือ side spin ให้ flip
    • ลูกเสริฟที่ back spin ให้ push กลับไปสั้นบ้าง ยาวบ้าง หนักบ้าง เบาบ้าง แต่อย่าส่งลูกที่ไม่หมุนเลยกลับไป

หากไม่สามารถตีลูกให้หมุนมากกว่าที่เสริฟมา ให้รับลูกเสริฟโดย

  • ปั่นลูกตามทิศทางที่ลูกหมุนมาเพื่อส่งลูกที่หมุนมานั้นกลับไปทำร้ายผู้เสริฟเอง เช่น ถ้าเห็นว่าผู้เสริฟเหวี่ยงไม้จากซ้ายไปขวา ผู้รับให้เหวี่ยงไม้จากขวาไปซ้าย
  • เคาะลูกกลับไปเร็วๆ พยายามลดระยะเวลาที่ลูกสัมผัสหน้ายางให้เหลือน้อยที่สุด หรือตีที่หัวลูกของแกนหมุน เพื่อลดผลกระทบจากลูกที่หมุนมา

 

 

 

 

 

ผู้เสริฟมีเจตนาต้องการบุกในไม้สามอยู่แล้ว ดังนั้นผู้รับลูกเสริฟอย่าทุ่มแรงออกไปเต็มที่นัก เมื่อรับไปแล้วต้องเตรียมพร้อมรับกับการบุกได้ทันที ควรรับลูกเสริฟโดยส่งลูกยาวโยกออกไปลงที่ปลายโต๊ะหรือลงที่ข้อศอกขวาของผู้เสริฟ หรือใช้ลูกสั้นที่กระเด้ง 2 ครั้งในโต๊ะข้างฝ่ายเสริฟ ทำให้ตีไม้สามเพื่อบุกไม่ได้เลยหรือทำได้ไม่เต็มที่ บางครั้งหลอกให้ใช้ไม้สามที่ไม่ถนัดแล้วเราตบหรือบล้อคกลับไปแรงๆ

อย่ารับเสริฟเป็นลูกสั้นเกินไป ถ้าลูกไม่เลียดเน็ต คู่ต่อสู้จะบุกกลับและมีมุมโยกที่กว้าง หรือหยอดกลับมาอีก

การรับลูกเสริฟที่ดี ต้องตีให้เร็วในจังหวะที่ลูกกระเด้งขึ้น ส่งลูกเลียดเน็ต ยาวลงปลายโต๊ะ ในทิศทางที่ทำให้คู่ต่อสู้เสียหลักหรือตีไม่ถนัดเสมอ

วิธีเรียนรู้การรับเสริฟที่ดีที่สุด ให้ฝึกเสริฟหลายๆแบบเพื่อดูว่าเขารับลูกเสริฟนั้นอย่างไร

 

เชื่อหรือไม่ นักปิงปองหน้าใหม่มักมีพฤติกรรมตามนี้

  • มือบุกมักชอบเสริฟลูกที่ไม่หมุนแบบ back spin
  • คนที่ถนัดตีโฟร์แฮนด์ที่ชอบตั้งท่าตีทางฝั่งซ้ายเพื่อหวังจะใช้โฟร์แฮนด์แทนแบคแฮนด์ มักไม่ชอบตีลูกโยกยาวที่ส่งไปที่โต๊ะทางฝั่งขวาไกลของเขา (ชอบตีโฟร์แฮนด์ แต่ไม่ชอบตีที่โต๊ะทางด้านขวาสุด)
  • ถ้าตีโยกไปทางสุดมือด้านใด มักถูกตีย้อนกลับมาในทิศทางเดิม
Go to top