ในการโต้ตอบลูกตัดแบบ Backspin ถ้าเราจะตีกลับไปแบบ Topspin ควรตีให้โดนลูกปิงปองที่กระเด้งขึ้นในจังหวะใด และเพราะอะไรจึงต้องเลือกตีในจังหวะนั้น
ในแง่ของกลยุทธ
ในเมื่อเล่นกับมือรับแล้ว มือบุกต้องบุกเสมอ อย่าเปิดโอกาสให้มือรับสวนกลับ ยิ่งมือรับยุคนี้ไม่ใช่เอาแต่รับอย่างเดียว เขาอาจบุกกลับทันทีที่มีจังหวะ ดังนั้นมือบุกต้องบุกให้เร็วที่สุดในจังหวะที่ลูกกระเด้งขึ้นหรือลูกยังสูงกว่าระดับเน็ต
มือบุกต้องไม่ถอยไปตีลูกจังหวะลง อย่าใช้วิธีบุกไปหยอดไป แต่ต้องบุกโยกซ้ายขวาหรือท้อปอัดเข้าตัว พอมือรับถอยไปไกลและเสียหลักแล้วจึงสลับมาหยอดบ้าง
จากนั้นต้องเข้าใจหลักการเอาชนะความหมุนของลูกตัดที่ส่งมา
การโต้กลับลูกที่ลอยมาแบบ backspin ด้วยการตี topspin หรือ loop กลับไป ก่อนที่ลูกจะกระทบไม้ ต้องออกแรงปั่นลูก topspin กลับไปให้หมุนพอๆกับลูกที่หมุนมา เพื่อทำลายอิทธิพลของลูก backspin ที่จะมีต่อไม้ของผู้รับ ทำให้ทิศทางการหมุนของลูกปิงปองที่ลอยมาและลอยกลับไปไม่ได้เปลี่ยนทิศทางการหมุนแม้แต่น้อย
แต่ถ้าเอาแต่รอให้ลูก backspin ลอยมากระทบไม้ก่อนแล้วค่อยออกแรงกลับไป ถ้าคว่ำหน้าไม้ตีหรือหงายหน้าไม้น้อยไปจะพบว่าลูกกระเด้งติดเน็ตเพราะโดนอิทธิพลของลูก backspin เต็มที่นั่นเอง
สำหรับนักปิงปองมือใหม่มักมีวงสวิงช่วงอัดแรงสั้น ซึ่งทำให้ไม่สามารถเหวี่ยงไม้เข้าหาลูกที่ลอยมาหรือชอบรอให้ลูกวิ่งเข้าหาไม้ ทำให้รับอิทธิพลของลูกที่ตัดมาเต็มๆ ยิ่งกว่านั้นหากรอตีลูกจังหวะลง ย่อมทำให้มุมที่ลูกจะกระเด้งออกจากไม้พุ่งลงเน็ตไปในตัว จะรู้สึกเสมือนลูกที่ตัดมานั้นหมุนหนักขึ้นเสียด้วยซ้ำ
ดังนั้นวิธีแก้สำหรับนักปิงปองมือใหม่ที่ยังติดนิสัยตีลูกในจังหวะลง ต้องสอดไม้เข้าไปใต้ลูกให้มากขึ้นตามลูกตัดที่หนักขึ้นและเหวี่ยงไม้ชันมากขึ้นตามไปด้วย
วิธีฝึกที่จะเอาชนะลูกตัดแบบแบ็คสปิน ต้องเริ่มจากการเพิ่มวงสวิงช่วงอัดแรงให้มากขึ้น พอลูกกระเด้งขึ้นให้เหวี่ยงไม้สวนเข้าหาลูก ปั้นลูกให้หมุนมากกว่าหรือเท่ากับความหมุนของลูกที่ลอยมา ลากไม้ให้ยาวไปข้างหน้าเพื่อดันลูกให้ข้ามเน็ตกลับไป