iGen ย่อมาจาก iGeneration หรือเรียกอีกอย่างว่า Generation Z ซึ่งเรียกตามยุคสมัยของคนที่เกิด จากสภาพแวดล้อม สังคม และความเป็นอยู่ในแต่ละช่วงเวลา ทำให้คนในแต่ละยุคสมัยมีนิสัยและความต้องการพื้นฐานต่างกันไป เด็กยุคใน iGen มีนิสัยต่างไปจากยุคก่อนๆอย่างเช่น สมาธิสั้น ทั้งๆที่กำลังสอนท่านั้นท่านี้ให้ดูอยู่ก็ตาม เดี๋ยวเดียวหันไปสนใจเรื่องอื่นเสียแล้ว การสอนปิงปองให้กับคนรุ่นใหม่ก็ต้องปรับให้เข้ากับยุคสมัยด้วยเหมือนกัน ไม่งั้นแล้วอาจถูกนักปิงปองที่เป็นลูกศิษย์ของตนเดินขบวนประท้วงขอเปลี่ยนโค้ชเอาง่ายๆ ... ไม่ได้พูดเล่น
ตัวโค้ชหรือครูสอนปิงปองต้องรู้จักนำเทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัวมาประยุกต์ใช้ในการฝึกสอน อย่างเมื่อก่อนวิธีการฝึกแบบเดิมๆมักเริ่มจากให้นักปิงปองฝึกตีโต้กันไปมา ฝึกตีลมดูท่าทางกับกระจกเงา พอเทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้นก็ให้ฝึกกับเครื่องยิงลูกปิงปอง ต่อมาก็หันไปใช้วิธีฝึกแบบจีนที่ใช้คนป้อนลูก (Multi Ball) แต่อย่างไรก็ตามการฝึกสอนที่ทำได้เพียงแค่นี้ยังถือว่าห่างไกลนักจากการเป็นโค้ชในฝัน ซึ่งวิธีการฝึกสอนอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้ได้เป็นโค้ชในฝันนั้นไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย อยู่ใกล้ตัวของคุณนี่แหละ เชื่อว่าทุกคนเคยใช้กันอยู่แล้ว กล้องมือถือของคุณยังไงครับ
คลิกที่ภาพเพื่อไปอ่านรายละเอียดจาก
http://www.icoachtabletennis.com/the-use-of-technology-in-table-tennis-coaching/
แทนที่จะปล่อยให้นักปิงปองต้องเดากันเองว่าที่โค้ชแนะนำนั้นหมายถึงอะไร โค้ชที่ทันสมัยควรเลือกวิดีโอจากยูทูปหรือภาพถ่ายจากตำราปิงปองมาเปิดให้ดูจะทำความเข้าใจกันได้ง่ายขึ้น จากนั้นก็ถ่ายวิดีโอที่ลูกศิษย์ฝึกซ้อมมาดูกันว่ายังขาดตกบกพร่องต้องแก้ไขอะไรกันอีกบ้าง ก่อนลงแข่งขันก็หาวิดีโอของคู่แข่งขันมาเปิดให้ศึกษาหาจุดอ่อนจุดแข็ง ไม่ใช่ว่าปล่อยให้ลงสนามแล้วค่อยวางแผนการเล่นกันตอนนั้น
ครูสอนปิงปองของคุณเคยทำแบบนี้ให้ไหม ส่วนตัวครูอาจารย์ที่เป็นโค้ชอย่าอ้างเชียวล่ะว่า จะเอาอะไรกันกับค่าจ้างสอนชั่วโมงล่ะ 300 บาท
การสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ ไม่จำเป็นต้องมาจากการเป็นแชมป์ปิงปองเท่านั้น อยากให้เด็กไทยเรียนเก่ง ขยันทำงาน ย่อมสร้างชื่อเสียงให้ประเทศได้เช่นกัน
Dear Somkiat Foongkiat,
We’re once again pleased to present you with the 2018-2019 Microsoft Most Valuable Professional (MVP) award in recognition of your exceptional technical community leadership. We appreciate your outstanding contributions in the following technical communities during the past year:
• Excel
ไมโครซอฟท์มอบรางวัลเกียรติยศให้อีก 1 ปี เป็นคนไทยคนแรกและคนแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รางวัลนี้ติดต่อกันครบรอบ 12 ปี รางวัล MVP นี้ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่เก่งกาจเชี่ยวชาญอะไรมากนัก ขอเพียงแค่มีความรู้ลึกพอควร และต้องเป็นผู้ที่นำความรู้มาช่วยเหลือสังคม
อดีตแชมป์ประเทศไทยที่เป็นนักปิงปองรุ่นพี่คนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า สมัยที่พี่ซ้อมปิงปองที่ห้องปิงปองของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ตอนนั้นเป็นตึกชั้นเดียวอยู่ข้างตึกคณะนิติศาสตร์ ซึ่งสมัยนั้นเป็นแหล่งรวมนักปิงปองทีมชาติจะมาซ้อมกันที่นี่เป็นประจำ เรียกว่ามากินนอนกันกับภารโรงของธรรมศาสตร์จนหลายคนนึกว่าเป็นเด็กนักศึกษาของธรรมศาสตร์ทีเดียว จนได้โต๊ะปิงปองที่สงวนไว้ให้กับพี่ๆเหล่านี้ได้ซ้อมกันโดยเฉพาะ
แทบทุกวันจะมีเด็กคนหนึ่งมาเฝ้าดูนักปิงปองฝึกซ้อม เด็กคนนี้ใฝ่ฝันจะเป็นนักปิงปองทีมชาติให้ได้ ไม่สนใจการเรียน เอาแต่มาเฝ้าดูนักกีฬาทีมชาติซ้อมปิงปองกัน จนกระทั่งพี่นักปิงปองเข้าไปแนะนำให้คิดให้ดีว่า ถ้าเอาแต่เล่นไม่สนใจการเรียน เอาแต่สนุก หวังจะเป็นนักปิงปองทีมชาตินั้น มีคนรอแข่งขันอยากเป็นทีมชาติกันเยอะแยะไปหมด แต่จะมีสักกี่คนกันที่ได้เป็น ได้เป็นแล้วก็ไม่แน่นอนว่าจะได้เป็นตลอดไป ขอให้เลิกสนใจปิงปองแล้วหันไปสนใจการเรียนดีกว่า
ทุกวันนี้เด็กคนนั้น กลายเป็นดอกเตอร์ไปแล้ว
แน่นอนว่านักปิงปองต้องมีของหอบหิ้วติดตัวไปซ้อมปิงปองด้วยใช่ไหม ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าถือ เป้ใบใหญ่ ซองไม้ปิงปอง ไม้ปิงปอง ยางปิงปอง รองเท้า ของเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งล่อตาล่อใจให้หยิบฉวยไปใช้ได้ทั้งนั้น ไม่ควรวางไว้ตามโต๊ะหรือเก้าอี้แล้วทิ้งไปซ้อมปิงปองนะครับ
อย่าคิดว่าคนที่มาเล่นปิงปองก็คนกันเองกันทั้งนั้น ของที่วางล่อตาล่อใจนี่แหละมีการวิจัยทำการศึกษาไว้ว่าแม้คนดีๆที่ไม่เคยเป็นขโมย แต่พอเห็นของที่วางทิ้งไว้ว่าเป็นของมีค่า มีราคาสูง จะถูกกระตุ้นให้คิดอยากได้ขึ้นมา
ทุกครั้งควรรูดซิปปิดกระเป๋าให้เรียบร้อย หิ้วกระเป๋าตามตัวเองไปด้วยเสมอ วางไว้ใต้โต๊ะปิงปองที่ตัวเองเล่นอยู่นั่นแหละ อย่าวางไว้ติดกับข้าวของของคนอื่นที่เขาอาจไม่ตั้งใจหยิบผิดก็ได้ ถ้าจำเป็นต้องไปห้องน้ำหรือไปนอกห้อง ขอให้เอ่ยปากฝากเพื่อนช่วยดูแลให้ด้วย แต่อย่าลืมว่าเดี๋ยวเพื่อนๆเขาก็ต้องลงสนามไปเล่นปิงปองอีกเหมือนกัน
ที่สำคัญ ต้องทำกระเป๋าให้มีจุดต่างกันไว้ด้วย เป้ที่หน้าตาเหมือนกันจะได้ดูออกว่าของใคร ไม้ปิงปองก็ควรทำตำหนิไว้เสียหน่อย แต้มจุดไว้ตรงขอบไม้ หรือเขียนชื่อย่อไว้บนลูกปิงปอง แค่นี้ก็ดูออกแล้วว่าของใครกัน เถียงไม่ออกถ้าใครหยิบไป
ผมเองก็เคยถูกล้วงกระเป๋า ที่เรียกว่าถูกล้วงกระเป๋าก็เพราะเป้ใส่ของไม่ได้หายไปไหน แต่กระเป๋าเงินในเป้หายไป ตอนนั้นวางเป้ไว้บนโต๊ะที่ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยเตรียมไว้ ขนาดโต๊ะตัวนี้ตั้งใกล้ๆกับโต๊ะครูผู้ฝึกสอนก็ยังไม่รับประกันว่าของจะไม่ถูกล้วง แค่ใครก็ไม่รู้เดินมาเปิดเป้ก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าเขากำลังเปิดเป้ของคนอื่นอยู่
จึงขอเตือนมาเพื่อป้องกันของหายกันไว้หน่อย หายแล้วจะจับมือใครดมไม่ได้หรอก ขโมยตัวจริงเขาจะมีวิธีแอบหยิบขโมยของไปได้แนบเนียนมากๆ
"น่าเสียดายที่ต้องเลิกเล่นปิงปองซึ่งเป็นกีฬาที่รักมากที่สุดเสียแล้ว"
บทเรียนที่เจ็บแสบที่สุดนี้เกิดจากการพยายามฝึกซ้อมปิงปองเองโดยปราศจากคำแนะนำที่ถูกต้อง ไม่ได้เลือกวิธีการฝึกซ้อมที่เหมาะกับสภาพร่างกายของตัวเอง เห็นคนอื่นเขาทำได้เลยพยายามทำตาม พยายามเลียนแบบนักกีฬาจีนญี่ปุ่นเกาหลีกัน โดยหารู้ไม่ว่ากว่าที่เขาจะทำท่านั้นๆได้นั้น ต้องผ่านการฝึกฝนทีละขั้นอย่างไรบ้าง
ผมเห็นเด็กสมัยนี้ฝึกซ้อมปิงปองแล้ว ห่วงเหลือเกินว่า อีกหน่อยนอกจากเข่าแล้วจะพากันเจ็บโน่นเจ็บนี้กันเต็มบ้านเต็มเมืองกันไปหมด จะกลายเป็นคนที่แก่เกินวัยเพราะฝืนใช้ร่างกายหักโหมมากเกินไปสมัยเด็กๆ
คุณเป็นคนหนึ่งที่เจอบทเรียนแบบนี้หรือเปล่า ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้รับบทเรียนนี้ เพราะเล่นปิงปองนี่แหละครับ เล่นจนเจ็บเข่า พออายุสัก 25 ปี เวลาทิ้งน้ำหนักจะเจ็บแปล้บข้างในหัวเข่า เจ็บทั้งสองข้างเลยจนต้องไปผ่าเข่า ผ่ากับเพื่อนของคุณแม่ที่เป็นหมอเหมือนกัน
คุณหมอเอ็กซเรย์เข้าไปดูแล้วไม่เจออะไรผิดปกติจึงบอกว่าขอผ่าเข้าไปดูหน่อย บอกว่าไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวฉีดยาชาให้เวลาผ่าจะไม่เจ็บเลย
คุณหมอค่อยๆกรีดเนื้อที่หัวเข่าเข้าไปทีละนิด ส่วนผมก็นอนทำตาปริบๆแอบมองหน้าคุณหมอผ่านช่องผ้าที่ปิดหน้าไปเรื่อยๆ เวลาที่ถูกมีดกรีดไม่เจ็บแต่จะรู้สึกเหมือนมีอะไรมาขีดเส้นลงบนหัวเข่า ขีดเข้าไป ขีดเข้าไปเรื่อยๆ
เวลาผ่านไปสักพักยังไม่หยุดขีดเส้นบนหัวเข่าซ้ายของผมเสียที ผมถามคุณหมอว่าทำไมยังไม่หยุดผ่าอีก คุณหมอตอบว่า ยังไม่เจอปัญหาที่ทำให้เจ็บ จะต้องกรีดลึกเข้าไปอีก ผมจินตนาการคิดเห็นภาพกระดูกหมูเลยว่า ตอนนี้น่าจะผ่าเข้าไปถึงกระดูกแล้วมั้งเนี่ย นี่น่าจะเป็นชั่วโมงแล้วนะ
ยังรู้สึกว่าถูกกรีดต่อไปเรื่อยๆ นี่คุณหมอคงผ่าลึกเข้าไปอีก เข้าไปอีก ผมคิดของผมเอง ทำไมยังไม่เสร็จเสียทีนะ
ต่อมาสักพักก็หยุดกรีด หันมาบอกว่า หมอผ่าเข้าไปเกือบถึงกระดูกแล้วไม่เจออะไรผิดปกติเลยนะ หมอเปลี่ยนเส้นทางน้ำเหลืองให้ไปคั่งที่อื่นแทนให้แล้วจะได้ไม่มาอักเสบที่ตรงนี้อีก ว่าแล้วคุณหมอก็จัดเครื่องมือเริ่มเย็บปิดแผล
ผมกลับมาบ้านต้องนั่งเฉยๆห้ามขยับอยู่หลายวัน แต่เนื่องจากลางานไว้แค่อาทิตย์เดียว ต้องขับรถเองไปทำงานแล้วใช้ไม้ค้ำยันเพื่อเดินไปเดินมา
พอจะนั่งเก้าอี้เท่านั้นเอง หัวเข่าที่พันแผลไว้ดันไปชนกับขอบโต๊ะจนเลือดซึมออกมาอีก เปิดแผลดูยังใจชื้นขึ้นว่า แผลที่เย็บไว้ไม่ฉีกมากนัก แค่ปรินิดๆตรงขอบปลายแผลเท่านั้น คิดในใจว่าน่าจะลาหยุดจนกว่าแผลหายสนิทเลยดีกว่า ไม่น่ารีบร้อนมาทำงานเลย
หลังจากจบเรื่องแผลที่ผ่าไปแล้ว หัวเข่าของผมก็ยังเจ็บอยู่อีก ทำให้กลัวไม่กล้าจะขยับหัวเข่า เวลาไปไหนๆต้องขอให้แฟนขับรถแทน ส่วนปิงปองนั้นผมหยุดเล่นไปก่อนตั้งแต่เริ่มเจ็บเข่าแล้ว พอผ่าแล้วกลับกลายเป็นว่ายังเจ็บอยู่ดี อดเล่นปิงปองอีกนั่นแหละ ผมเลยตัดใจไม่อยากเกี่ยวข้องอะไรๆกับปิงปองอีก เห็นแล้วอยากเล่นอีกครับ ผมเลยยกทุกอย่างที่เกี่ยวกับปิงปองให้กับคนอื่นหมด ไม่ว่าจะเป็นไม้ปิงปอง เครื่องยิงลูกปิงปอง โต๊ะปิงปอง หนังสือปิงปอง (ที่เสียดายที่สุดก็หนังสือนี่แหละครับ เป็นหนังสือปิงปองมาจากญี่ปุ่นที่ออกมาทุก 3 เดือน แสดงท่าทางการเล่นปิงปองให้เห็นทีละจังหวะเลยว่าเหวี่ยงอะไรกันยังไง โดยเฉพาะท่าเสริฟของจีนแบบ 2 จังหวะที่คนไทยสมัยนั้นไม่เคยใช้กันมาก่อน)
เนื่องจากไม่ยอมขยับเข่าบ้างเลยจึงทำให้เกิดพังผืดมายึดบริเวณที่ผ่า ทำให้ผมไม่สามารถงอหรือพับขาได้อีก นั่งคุกเข่าก็ไม่ได้ นั่งขัดสมาธิก็ต้องยกชันเข่าขึ้นไปสูงๆ ขามันไม่ยอมแบะลงมา เวลาจะนั่งหรือย่อขาลง จะรู้สึกขาไม่มีแรง กลายเป็นต้องนั่งพับเพียบแบบงอขาได้นิดๆเท่านั้น
ทุกวันนี้ผมกลับมาเล่นปิงปองได้อีกจากการให้หมอนวดแผนไทยชื่อ หมอปุ๊ ที่ตึกฟอร์จูน ถนนรัชดา ช่วยไล่เส้นให้ใหม่ตั้งแต่เอวไปจนถึงปลายเท้า กว่าจะขยับได้ทุกส่วนใช้เวลาแก้กันเกือบ 2 ปี ต้องทนเจ็บตอนที่ไล่เส้นใหม่มากๆครับ เจ็บจนน้ำตาไหลทุกครั้ง
นอกจากนี้ขอแจ้งข่าวสำหรับคนที่ไปผ่าแล้วใส่ข้อเทียมเข้าไป มีสารคดีทางช่อง NetFlix เตือนว่า แม้แต่ข้อที่เป็นโลหะแคดเมียม(!) อย่างดี เมื่อข้อเทียมเสียดสีกันไปเรื่อยๆ จะบดกันจนกลายเป็นผงเล็กๆแล้วร่างกายจะดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือด ผู้ใช้ข้อเทียมหลายคนมีอาการติงต๊อง จำอะไรไม่ได้ หรืออยู่ดีๆก็ทำอะไรที่ไม่รู้ตัว มีอาการเหมือนคนเป็นโรคประสาท พอตรวจเลือดจะพบเม็ดเลือดขาวมากกว่าปกติ ตรวจละเอียดๆจึงพบว่ามีแคดเมียมผสมอยู่ในเลือดเป็นจำนวนมาก พอผ่าเข้าไปดูจะพบคราบสีดำเหมือนน้ำมันเครื่องใช้แล้วล้อมข้อเทียมเต็มไปหมด
สาเหตุเกิดจากบริษัทที่ผลิตข้อเทียมไม่ได้ตรวจสอบผลเสียจากการใช้งานในระยะยาว ฝ่ายรัฐบาลของอเมริกาก็ไม่ได้เข้มงวดบริษัทเหล่านี้เสียอีก ใครที่ใช้อะไรที่เป็นของเทียมใส่ไว้ในร่างกายกลายเป็นเหมือนหนูทดลองยา ต้องระวังกันให้มากครับ
ทางที่ดีที่สุด พยายามรักษาข้อต่างๆให้ใช้งานได้ตามธรรมชาติไปนานๆดีกว่าครับ
วันก่อนเจอแขกของเพื่อนมาที่ศูนย์ฝึกกีฬาในร่ม กกท หัวหมาก ผมถามเขาว่า "คุณเล่นปิงปองด้วยไหม"
เขาตอบว่า "ผมเป็นโค้ชปิงปองครับ"
หลังจากนั้นพอได้โอกาสอยู่สองต่อสองกับเพื่อนก็เลยถามว่า แขกที่มาด้วยคนนั้นเป็นโค้ชจริงหรือ เก่งมากไหม
เพื่อนก็ตอบมาว่า แขกคนนั้นเป็นแค่โค้ชระดับล่างๆเท่านั้นแหละ ไม่ได้เชี่ยวชาญอะไรนักหรอก
ที่เล่าเรื่องนี้ให้ฟังเพราะอยากจะบอกว่า อย่าพยายามอวดตัวว่าเป็นโค้ชหรือเป็นอาจารย์เลยนะครับ พอขึ้นชื่อว่าเป็นครูอาจารย์แล้วจะไม่มีใครกล้าให้คำแนะนำหรือสอนความรู้เพิ่มเติมให้อีกเลย น่าจะเป็นแค่เพื่อนที่เล่นปิงปองด้วยกันไปเรื่อยๆดีกว่า
ตัวผมเองถูกเรียกว่าอาจารย์มาตั้งแต่อายุ 39 ตั้งแต่เริ่มสอน Excel ตั้งแต่นั้นมาแทบไม่มีใครกล้าสอนผมอีก พอผมทำผิดก็แทบไม่มีใครเตือน จนผมต้องประกาศในห้องเรียนว่า ถ้าผมทำผิด ช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ ผมจะรู้สึกดีใจและเป็นบุญคุณเป็นอย่างมาก ไม่ได้รู้สึกว่าถูกทำให้เสียหน้าแม้แต่น้อย
เร็วๆนี้อีกนั่นแหละ คราวนี้เจอเด็กหนุ่มที่อยากเป็นโค้ชปิงปอง ตั้งใจจะเรียนปริญญาตรีทางด้านกีฬาทีเดียว อยากเป็นครูที่ช่วยสอนปิงปองให้กับเด็ก ด้วยเห็นว่ายังไม่มีครูในโรงเรียนที่สอนปิงปอง มีแต่ครูที่สอนกีฬาทั่วๆไป
ผมเลยแนะนำไปว่า ถ้าตั้งใจจะเป็นโค้ชปิงปอง ต้องทำให้ได้เหนือกว่าโค้ชคนอื่นๆนะ ภาษาเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เป็นโค้ชเก่งๆ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษต้องอ่านเขียนและพูดเป็น ภาษารองต้องหาทางเรียนภาษาญี่ปุ่น จีน หรือเกาหลีได้ด้วย จะได้ศึกษาตำราวิธีการเล่นปิงปองของชาติเหล่านี้ได้ด้วย
นอกจากภาษาแล้วถ้าอยากจะช่วยสอนปิงปองให้กับคนไทยให้ทั่วถึงกันมากขึ้น ต้องรู้จักการใช้โปรแกรมตัดแต่งภาพพวก PhotoShop สามารถถ่ายวิดีโอแล้วตัดต่อภาพมาช่วยในการสอน ควรทำเว็บเพื่อเผยแพร่ความรู้ของตน อย่าพึ่งแต่ facebook ซึ่งจะจำกัดการเข้าถึงมากขึ้นทุกที ค้นหาเรื่องเก่าๆที่อธิบายไว้ก็ยากแสนยาก ไม่แน่ด้วยซ้ำไปว่า facebook จะอยู่ไปได้ตลอด
ทางเลือกอื่นนอกจากการเข้าเรียนปริญญาตรีทางด้านกีฬาแล้ว น่าจะเรียนสาขาอื่นที่สามารถหาเงินเลี้ยงชีพได้มากกว่า ส่วนการเป็นโค้ชนั้นสามารถทำควบคู่กันไปก็ได้ การตัดสินใจเข้ามหาวิทยาลัยสำคัญมากกับชีวิตในวันข้างหน้าของตน พอผ่านไปแล้วจะย้อนกลับมาแก้ไขไม่ได้อีกนะครับ
สมัยนี้มีแหล่งให้ความรู้เกี่ยวกับการเล่นปิงปองมากกว่าแต่ก่อน ไม่ว่าจะเป็นวีดีโอที่เปิดดูได้เองจาก YouTube หรือเว็บต่างๆ ช่วยทำให้คนไทยได้เปิดหูเปิดตาได้เห็นได้เรียนรู้วิธีการตีปิงปองได้ง่ายขึ้น ทำให้นักกีฬาปิงปองหลายๆคนต่างมีความฝันอยากจะตีปิงปองให้ได้เหมือนกับที่แชมป์โลกเขาเล่นกัน โดยหารู้ไม่ว่ากว่าจะตีปิงปองในท่าทางเหล่านั้นได้ยังต้องเข้าใจในหลักการและเหตุผลอีกด้วย คนที่เพิ่งเริ่มตีปิงปองได้ไม่นานก็พยายามฝึกโยนลูกเสริฟสูงๆเลียนแบบโดยไม่เข้าใจว่าโยนขึ้นไปสูงๆทำไม หรือหันไปใช้ยางปิงปองหรือไม้ที่เด้งมากเกินไปจนยากจะควบคุมทิศทางของลูก
นอกจากนี้คนส่วนมากยังคงฝึกกันเองโดยไม่มีโค้ชคอยแนะนำวิธีการที่ถูกต้อง มีนักปิงปองน้อยคนนักที่เคยอ่านตำราปิงปองเพื่อเรียนรู้วิธีฝึกตีปิงปองที่ถูกต้อง ส่วนใหญ่ก็สอนต่อกันตามวิธีที่ตนฝึกกันมา อีกทั้งบางคนยังได้รับความรู้ผิดๆฝึกท่ายากๆตั้งแต่แรกเริ่ม ทำให้การพัฒนากีฬาเทเบิลเทนนิสหรือปิงปองของประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ที่นักกีฬาปิงปองส่วนใหญ่ต้องลองผิดลองถูกกันเอง จึงหวังว่าเว็บ TableTennisTip.com นี้ จะเป็นแหล่งความรู้ช่วยให้นักปิงปองของเรามีพื้นฐานที่ถูกต้องมากขึ้น
ผมเริ่มเล่นปิงปองตั้งแต่เรียนอยู่ประถมปีที่ 4 คุณแม่ซื้อไม้ปิงปองยี่ห้อ VIC มาให้เล่นกันในบ้าน โดยใช้โต๊ะนั่งเล่นแทนโต๊ะปิงปอง ต่อมาคุณพ่อเห็นผมสนใจเล่นปิงปองอย่างเอาจริงเอาจังจึงซื้อโต๊ะปิงปองจากห้างไนติงเกล-โอลิมปิกมาให้เล่นกัน ช่วงเด็กๆได้ฝึกตีปิงปองกับคุณประสิทธิ์ สิงหพันธ์แชมป์ปิงปองการรถไฟซึ่งเป็นคุณลุง พอเรียนชั้นมัธยมปีที่ 3 ได้มีโอกาสเป็นลูกศิษย์ของครูจันทร์ ชูสัตยานนท์ โค้ชทีมชาติซึ่งสอนปิงปองให้ฟรี ใช้ใต้ถุนอัฒจันทร์ของยิมเนเซียม 1 สนามกีฬาแห่งชาติที่ปทุมวันเป็นที่ฝึกซ้อม ภายหลังย้ายมาฝึกต่อที่สนามฝึกกีฬาในร่ม การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก
ครูจันทร์ ชูสัตยานนท์
พอเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็มุ่งเรียนมากกว่าเล่น มีฝีมือแค่ระดับท้ายๆของทีมปิงปอง เมื่อไปเรียนต่อระดับปริญญาโทที่อเมริกาก็สามารถแข่งขันจนชนะเลิศปิงปองของมหาวิทยาลัย พอจะเรียกได้ว่าเคยเก่งขนาดเป็นแชมป์กับเขาได้เหมือนกัน ซึ่งตลอดเวลาหลายสิบปีที่สนใจกีฬาปิงปองนั้นผมไม่ได้เอาแต่ฝึกหรือเรียนรู้จากโค้ชอย่างเดียว เพราะนิสัยของตัวเองที่เป็นคนชอบสงสัย ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ และพยายามหาเหตุผลมาประกอบเสมอว่าทำไมต้องวางหน้าไม้อย่างนั้น ทำไมต้องเหวี่ยงแขนอย่างนี้ จึงขวนขวายอ่านตำราปิงปองมากมายหลายเล่ม มีโอกาสได้เรียนรู้ลูกเล่นและฝึกกับโค้ชอีกหลายคน ซึ่งจะนำความรู้และประสบการณ์เหล่านั้นมาถ่ายทอดไว้ในเว็บ TableTennisTip.com นี้
อีเมล์ : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ปิงปองเป็นกีฬาที่ต้องการความรวดเร็วในการตัดสินใจเป็นอย่างมาก ยากที่จะตีโต้กันไปพร้อมกับคิดหาวิธีตีพร้อมกันไป ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องฝึกหัดตีปิงปองโต้กับคู่ซ้อมหลายๆแบบจนชิน จะได้คุ้นเคยจนชินติดเป็นนิสัย สามารถใช้จิตใต้สำนึกตีโต้กลับไปได้ทันทีโดยไม่ต้องคิด ซึ่งจะฝึกได้ดีหรือไม่นั้นต้องอาศัยคู่ฝึกซ้อมที่ดีตามไปด้วย
คู่ฝึกซ้อมที่ดีต้องอย่าเอาแต่ใจตัวเอง ควรคิดช่วยเพื่อนที่ซ้อมด้วยกันให้เก่งตามกันไปด้วย ถ้าฝ่ายหนึ่งฝึก topspin อีกฝ่ายหนึ่งควรทำหน้าที่ block ส่งลูกกลับไปให้ถูกตำแหน่งเดิมบนโต๊ะในความแรงที่เหมาะกับความสามารถของอีกฝ่ายที่จะตีโต้กลับมาได้ ไม่ใช่ว่าเขาแรงมาก็อยากจะแรงกลับไปให้เหมือนเขาหรือเอาแต่ตีฉีกโยกไปจนอีกฝ่ายหนึ่งโต้กลับไม่ทัน
การฝึกตีโต้กันไปมานั้น ใช่ว่าเอาแต่ตีโต้กันได้หลายสิบหลายร้อยครั้งก็ถือว่าใช้ได้แล้ว หากยังต้องฝึกตีให้ลูกปิงปองตกกระทบโต๊ะให้ใกล้กับเส้นขาวปลายโต๊ะให้มากที่สุดและต้องสามารถควบคุมตำแหน่งซ้ายขวาบนโต๊ะที่ต้องการได้ด้วย อีกทั้งยังต้องฝึกให้ตีลูกเลียดเน็ตก็ได้ หรือฝึกตีลูกให้โค้งย้อยลงไปที่ตำแหน่งบนโต๊ะที่ต้องการได้เสมอ
ตราบใดที่ยังไม่สามารถควบคุมทิศทางของลูกให้แม่นยำ ตราบนั้นอย่าเพิ่งตีแรงหรือมุ่งทำให้ลูกหมุนมากเกินไป หลังจากสามารถควบคุมลูกได้ตามต้องการแล้วจึงค่อยฝึกตีให้ลูกหมุนมากขึ้นและแรงมากขึ้น ถ้ายังตีไม่แม่นแล้วเอาแต่ใจตัวเองเอาแต่ตีแรงๆหรือหมุนมากๆ คงไม่มีทางหาคู่ซ้อมที่ดีๆได้หรอก
ปิงปองเป็นกีฬาที่ไม่ต้องใช้อะไรมาก แค่มีไม้ปิงปองกับลูกปิงปองติดตัวไปก็สามารถเล่นที่ไหนก็ได้แล้ว แต่ถ้าอยากจะเล่นปิงปองให้สนุกและปลอดภัยควรเตรียมองค์ประกอบต่อไปนี้ให้พร้อมก่อน
- ไม้ปิงปองที่มียางปิงปองคุณภาพดี หลีกเลี่ยงใช้ไม้ปิงปองที่ติดยางแบบสำเร็จรูป แต่ให้หาซื้อยางปิงปองมาติดจะได้ไม้ปิงปองที่เล่นได้สนุกมากขึ้น สำหรับผู้เริ่มต้นแนะนำให้เลือกซื้อไม้ที่ไม่ต้องกระเด้งมากแต่เน้นการควบคุม ส่วนยางปิงปองแนะนำให้ใช้ Butterfly รุ่น Sriver หรือ Yasaka รุ่น Mark V ซึ่งเป็นยางปิงปองที่นิยมใช้กันมานานนับสิบปีเพราะช่วยให้เรียนรู้ฝึกการควบคุมได้ง่าย ญี่ปุ่นจะแนะนำให้เด็กเริ่มใช้ยางเหล่านี้กันเรื่อยมา
- ลูกปิงปองยี่ห้อมาตรฐานที่มีน้ำหนัก 40+ ยี่ห้อใดก็ได้
- รองเท้าที่มีพื้นยางดิบ โดยเฉพาะส่วนของปลายนิ้วเท้าที่นักกีฬาต้องฝึกทิ้งน้ำหนักลงในส่วนนี้ต้องมีพื้นยางที่เกาะกับพื้นได้ดี จะได้ไม่ลื่นล้มง่ายๆ ไม่ควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นโค้ง
- แผ่นรองพื้นรองเท้าที่หนาเข้ากับรูปทรงของพื้นฝ่าเท้า
- ถุงเท้าที่มีพื้นด้านล่างหนานุ่ม จะได้ลดแรงกระทกจากพื้น
- เสื้อผ้าที่ไม่รัดรูปหรือยาวเกะกะ
ถ้านักปิงปองใช้แขนขวามือขวาตีปิงปอง ก็เป็นเรื่องของแขนซ้ายที่ไม่ได้ใช้ตีว่าควรเก็บไว้ที่ไหน เท่าที่เห็นนักปิงปองไทยใช้กันมักงอแขนซ้ายเก็บไว้ที่หน้าอกหรือปล่อยแขนลงตรงๆ กลายเป็นนักปิงปองที่มีแขนเดียว
แขนซึ่งไม่ได้ใช้ตีปิงปองเป็นอวัยวะที่ช่วยรักษาความสมดุลของร่างกายระหว่างการเคลื่อนไหว อีกทั้งช่วยเพิ่มแรงเหวี่ยงในการตีโฟร์แฮนด์ได้เป็นอย่างดี พอเหวี่ยงไม้ลงให้ยกอีกแขนขึ้น พอเหวี่ยงไม้ขึ้นให้เหวี่ยงอีกแขนลง ยิ่งต้องอาศัยแขนอีกข้างในการรักษาสมดุลในจังหวะที่ต้องกระโดดหรือต้องเอนตัววิ่งเข้าหาลูก แชมป์ปิงปองจะใช้แขนที่ไม่ได้ใช้ตีเหมือนรำมวยจีนทีเดียวตามวิดีโอต่อไปนี้
ผู้ฝึกสอนหรือโค้ชต้องรีบแก้ไขนักปิงปองหน้าใหม่ให้เปลี่ยนวิธีใช้แขนที่ไม่ได้ใช้ตี ถือเป็นเรื่องพื้นฐานแรกๆที่ต้องสอนก่อนที่จะกลายเป็นนิสัยเสียที่แก้ยากในภายหลัง โค้ชทำหน้าที่ได้ดีหรือไม่ดีดูได้จากเรื่องนี้
ไม่ว่าคุณจะตีปิงปองเพื่อแข่งขันหรือเป็นคู่ซ้อมปิงปองที่ดี ต้องสามารถส่งลูกไปยังตำแหน่งเดิมหรือตำแหน่งที่ต้องการได้เสมอโดยรักษาความสั้นความยาวของจุดกระทบโต๊ะและสามารถควบคุมความเร็ว ความแรง และความหมุนได้ด้วย ไม่ใช่ว่าเอาแต่ใจหวดลูกแรงหรือลูกหมุนไปตามยถากรรมแบบไม่รู้ตัวว่าตัวเองทำได้อย่างไร พอให้ตีแบบเดิมซ้ำอีกก็ทำไม่ได้เสียแล้ว
การตีลูกให้แม่นยำต้องรู้จักปรับวงเหวี่ยงไม้จากวงเหวี่ยงแบบทั่วไปที่เป็นวงกลมหรือวงรีที่มีหัวไหล่เป็นจุดศูนย์กลาง ให้เป็นวงเหวี่ยงเป็นเส้นตรงตามทิศทางของการส่งแรงในจังหวะที่ลูกกระทบไม้ (Dwell Time) โดยจังหวะเวลาที่ลูกกระทบไม้และกำลังจะกระเด้งออกไปจากไม้เป็นช่วงเวลาที่สั้นมาก ในช่วงจังหวะนี้ให้ส่งแรงไปยังลูกที่อยู่บนไม้ให้เป็นเส้นตรงชี้ไปยังทิศทางที่ต้องการ พอลูกกระเด้งออกจากไม้ไปแล้วจึงเหวี่ยงตามวงกลมแบบเดิม ซึ่งนอกจากจะปรับวงเหวี่ยงของแขนแล้ว สามารถใช้การถ่ายนำหนักของสะโพกให้เป็นเส้นตรงช่วยอีกแรงหนึ่ง
นักปิงปองที่ดีไม่จำเป็นต้องเป็นคนเก่ง ขอให้ทำตัวให้สมกับเป็นนักกีฬา มีน้ำใจเป็นนักกีฬารู้จักแพ้รู้จักชนะ ไม่เอาเปรียบคู่ต่อสู้
- มีสัมมาคารวะ ยกมือไหว้นักปิงปองที่อาวุโสกว่าหรือเป็นผู้ใหญ่กว่าเสมอ
- เวลาซ้อมก็ไม่เอาแต่ใจตัวเอง ตีแรงๆหรือเร็วเกินไปจนคู่ซ้อมตีไม่ทัน
- ช่วยกันเก็บลูกปิงปองที่ตีไม่ลงโต๊ะ ทั้งที่เป็นลูกของตัวเองหรือลูกที่คนอื่นเขาตีออก หากใครช่วยเก็บลูกให้ควรกล่าวขอบคุณเสมอ
- ถ้าลูกปิงปองจากโต๊ะอื่นกระเด็นมา ควรหยุดเล่นแล้วช่วยเก็บลูกปิงปองให้
- รู้จักอดทนรอจนกว่าโต๊ะปิงปองจะว่างหรือคู่ซ้อมของตนมา ไม่ใช่ว่าเห็นใครเขากำลังซ้อมกันอยู่ก็เดินเข้าไปบอกว่าให้ผลัดกันตีคนละลูกหรือขอซ้อมด้วยคน
- เอาลูกปิงปองของตัวมาตีบ้าง ไม่ใช่รอแต่ตีลูกปิงปองของคนอื่นเสมอ
- ลูกปิงปองกับไม้ปิงปอง ไม่ใช่สิ่งที่จะขอยืมกัน ถ้ายืมไปแล้วทำลูกแตกหรือไม้บิ่นจะหาของสภาพเดิมมาคืนเขาได้หรือ
- แต่งกายสวมเสื้อผ้าให้เหมาะสม โดยเฉพาะต้องสวมรองเท้ากีฬาเสมอ
- อย่ากระทืบเท้าแรงๆดังๆเพราะมีเจตนากลบเสียงที่ลูกกระทบไม้หรือกวนสมาธิของคนอื่น
- ช่วยแนะนำวิธีตีแก้ลูกที่คู่ซ้อมทำไม่ได้
- แทนการไหว้ก่อนและหลังแข่ง ถ้าใช้วิธีจับมือหรือแตะมือกัน ตามธรรมเนียมทางยุโรปต้องมองตาอีกฝ่ายด้วย (ไม่ใช่มองที่มือ)
ชัยชนะที่ขาวสะอาดย่อมทำให้เกิดความภาคภูมิใจไปตลอดกาล
ก่อนจะเช็ดทำความสะอาดหน้ายางเพราะมีฝุ่นเกาะเต็มไปหมด ขอให้สังเกตด้วยว่าฝุ่นเกาะตรงไหน ถ้าตีปิงปองได้แม่นยำต้องตีลูกกระทบตรงกลางหน้าไม้ปิงปองเสมอ ฝุ่นก็จะเกาะให้เห็นชัดตรงกลางหน้าไม้ แต่ถ้าตีไปแล้วไม่เห็นมีฝุ่นเกาะหรือรอยด่างตรงไหนเลย นั่นแสดงว่าตีลูกยังไม่แม่น
พื้นที่ตรงกลางหน้าไม้เป็นจุดที่ช่วยทำให้ลูกปิงปองกระเด้งได้แรงที่สุดพร้อมกับสามารถควบคุมทิศทางของลูกได้ดีที่สุดด้วย เขาเรียกจุดนี้ว่า Sweet Spot
แนวของวงสวิงเป็นปัญหาหนึ่งที่นักปิงปองมือใหม่มักสงสัยกันว่าเวลาเหวี่ยงไม้ตีลูก top spin ต้องเหวี่ยงจากไหนไปไหน ต้องเริ่มจากระดับไหนใต้โต๊ะ เหนือโต๊ะ แล้วไปหยุดไม้ที่ตรงไหน ผู้ฝึกสอนมักแนะนำให้ฝึกใช้วงสวิงคงที่ บอกให้เหวี่ยงไม้ในแนว 45 องศาบ้าง หรือเหวี่ยงจากล่างขึ้นบนให้ตั้งฉากให้มากที่สุดบ้าง แต่มักลืมแนะนำว่าแล้วหน้าไม้ต้องทำมุมอย่างไรด้วย
จากภาพนี้แนววงสวิงแบบ A ให้ความรุนแรงสู้แบบ B ไม่ได้
- วงสวิงแบบ A มักใช้กับการตี Loop ซึ่งมุ่งในการปั่นลูกให้หมุน top spin มากๆ
- วงสวิงแบบ B มักใช้กับการตี Drive ซึ่งต้องการตีลูกแรงกลับไป
ทั้งนี้มิใช่ว่าแนววงสวิงแบบ B จะมีความหมุนน้อยกว่าวงสวิงแบบ A เพราะถ้าปรับมุมหน้าไม้ให้คว่ำขนานกับแนววงสวิงแล้วเหวี่ยงไม้ปั่นที่หัวลูกให้ลูกหมุนแบบ top spin พร้อมกับการเหวี่ยงไม้ให้เร็ว จะทำให้ได้ลูกที่ตีโต้กลับได้แรง เร็ว และหมุนมากพร้อมกันไป
แนววงสวิงแบบ A เหมาะกับการโต้กลับลูกที่ตีมาแบบ back spin ถ้าโต้กลับลูกที่ back spin หนักก็จะปรับมุมหน้าไม้ให้หงายมากและตีให้โดนลูกในจุดที่ต่ำกว่ากลางลูกลงไปจนถึงจุดใต้ลูก ยิ่งโต้กลับลูกหมุนหนักมากก็ต้องยิ่งปรับแนวสวิงให้ตั้งฉากกับพื้นมากขึ้น หงายไม้มากขึ้น และโดนใต้ลูกมากขึ้น
อย่างไรก็ตามนักปิงปองที่ชำนาญนิยมใช้วงสวิงในแบบเดิมมากกว่าที่จะเปลี่ยนแนววงสวิงไปเรื่อยๆ โดยใช้การปรับมุมหน้าไม้และเลือกตีลูกในทุกจังหวะให้เป็น ไม่ว่าจะเป็นช่วงลูกกระเด้งขึ้น ลูกกระเด้งสูงสุด หรือจังหวะที่ลูกย้อยลงมา เพื่อทำให้คู่ต่อสู้อ่านท่าทางไม่ออกและคาดการณ์ลูกที่ตีโต้กลับไปได้ยาก นอกจากนี้ต้องฉวยโอกาสขณะที่ลูกยังลอยสูงกว่าเน็ตเพื่อทำให้วิถีของลูกปิงปองที่วิ่งลอยกลับไปต้องเลียดเน็ตหรือมีวิถีที่โค้งลงทันทีที่ลูกปิงปองกระเด้งออกจากไม้ (ไม่ใช่ตีลูกช้าต่ำกว่าเน็ตที่มีวิถีโค้งขึ้นแล้วโค้งลงแบบย้อยๆซึ่งเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้บุก)
ที่สำคัญวงสวิงแบบ A ที่ลากไม้จากใต้โต๊ะขึ้นมา จะใช้งานได้เฉพาะลูกที่ยาวกว่าโต๊ะเท่านั้น แต่ถ้าเจอลูกสั้นบนโต๊ะก็เหวี่ยงไม้ไม่ได้แรงแล้วเพราะจังหวะอัดแรงเหวี่ยงไปข้างหลังไม่ได้มาก พื้นโต๊ะกลายเป็นกำแพงขวางไม่ให้เหวี่ยงลงไปได้เลย ส่วนวงสวิงแบบ B ใช้งานได้ดีกว่ามาก สามารถตีลูกสั้นลูกยาวได้เสมอ อธิบายแบบนี้แล้วตอบได้ไหมว่า ควรฝึกเหวี่ยงวงสวิงแบบไหนดีกว่ากัน
สมมติว่าใช้มือขวาในการตีปิงปอง
FH = Forehand การตีจากทางด้านขวาของตัว หรือใช้หน้าไม้ด้านนิ้วโป้งกระทบลูก
BH = Backhand การตีจากทางด้านซ้ายของลำตัว หรือใช้หน้าไม้ด้านนิ้วชี้กระทบลูก
TS = Top Spin ลูกที่หัวลูกด้านบนหมุนไปด้านหน้าตามทิศทางที่ลูกลอยไป
BS = Back Spin ลูกที่ท้องลูกด้านล่างหมุนไปด้านหน้าตามทิศทางที่ลูกลอยไป
SS = Side Spin ลูกที่หมุนทางด้านข้างตั้งฉากกับทิศทางที่ลูกลอยไป
CS = Corkscrew Spin ลูกที่หมุนแบบควงสว่านพร้อมกับวิ่งไปด้านหน้า
Drive การตีลูกกลับไปให้เร็ว
Loop การตีลูกกลับไปให้หมุนแบบ top spin มากๆ
Block การตั้งหน้าไม้ให้ลูกกระเด้งกลับไปเองโดยไม่ต้องออกแรงนัก
Counter Attack การโต้กลับ
Flip/Flick การตีลูกสั้นบนโต๊ะด้วยการสบัดข้อมือ
Push การหงายหน้าไม้ตีลูกบนโต๊ะ ผลักลูกออกไปโดยอาจมี back spin เสริมหรือไม่ก็ได้
Smash การตบ
Lob การโยนลูกโด่ง
สมัยที่ผมฝึกตีปิงปองกับครูจันทร์ ชูสัตยานนท์ที่ยิมเนเซียม 1 สนามกีฬาแห่งชาติที่ปทุมวัน ครูจันทร์เป็นโค้ชให้กับพวกผมที่เป็นเด็กๆโดยไม่คิดเงิน ช่วงแรกที่ผมเริ่มฝึก ท่านปล่อยให้ผมตีปิงปองให้ดูระยะหนึ่งก่อนจากนั้นจึงค่อยให้คำแนะนำว่าต้องแก้ไขการตีอย่างไรบ้าง แม้ครูจันทร์มีอายุมากแล้วไม่สามารถตีท่าทางตามที่ท่านบอกได้ทุกท่า แต่ด้วยคำสอนที่เต็มไปด้วยเหตุและผลทำให้เข้าใจได้ไม่ยาก และสามารถดูนักปิงปองรุ่นพี่ที่ตีท่านั้นๆจนคล่องแล้วเป็นตัวอย่างที่ดีได้อีก ต่างจากยุคนี้ที่สนามปิงปองปล่อยให้นักกีฬาตีปิงปองกันเองโดยไม่มีผู้ฝึกสอนคอยควบคุมและให้คำชี้แนะ ทำให้นักปิงปองฝึกตามแบบคนที่ดูแล้วรู้สึกว่าเล่นเก่งเล่นดีหรือพยายามเลียนแบบท่าตีที่ดูจากยูทูบ ถึงมีนักปิงปองที่รับสอนปิงปองมาที่สนามด้วยก็มักสอนแต่คนที่จ่ายเงินจ้างเป็นรายชั่วโมง ชั่วโมงละ 200-300 บาท ไม่สนใจจะเข้าไปช่วยให้คำแนะนำคนอื่น
การได้เห็นการฝึกซ้อมอย่างเอาจริงเอาจังเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยาก ที่ยากกว่านั้นซึ่งหาดูไม่ได้แล้วคือการสอนของครูจันทร์นั่นเอง ท่านเข้มงวดเรื่องระเบียบวินัยเป็นอย่างยิ่ง พวกผมต้องแต่งตัวให้เรียบร้อย ไม่พูดคุยกันเล่นๆไปทำลายสมาธิการฝึกของคนอื่นเขา ทุกคนเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาฝึกตีปิงปอง ทุกครั้งใครตีไม่แม่น ตีลูกออกหรือติดเน็ต หรือตีไม่ลงตำแหน่งที่ฝึกซ้อมกันจะมีเสียงคำว่า ขอโทษครับ ขอโทษค่ะ ให้ได้ยินเสมอ ซึ่งคนที่พูดคำว่าขอโทษไม่ได้พูดมาจากคนที่ติดออกเสมอไปหรอก แต่กลับเป็นคู่ซ้อมอีกข้างหนึ่งต่างหากที่ต้องกล่าวคำว่าขอโทษ เพราะถ้าตัวเองส่งลูกตีโต้กลับไปได้ดี ไม่แรงหรือเร็วเกินไป และสามารถตีลงตำแหน่งที่ต้องการอย่างแม่นยำแล้ว คงไม่เป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งตีลูกออก
การฝึกซ้อมจนกระทั่งสามารถส่งลูกไปลงตำแหน่งที่ต้องการบนโต๊ะได้นั้นเป็นขั้นตอนแรกๆที่สำคัญมาก เพราะจากนั้นครูจันทร์จะสอนให้ตีลูกโฟร์แฮนด์สลับกับแบคแฮนด์โดยคู่ซ้อมฝ่ายหนึ่งตีลูกตรงในขณะที่อีกฝ่ายตีลูกทะแยงข้ามเน็ต
ทุกคนที่ฝึกกับครูจันทร์ต้องฝึกตีให้เป็นทุกท่า ไม่เว้นแม้แต่ลูก chop หรือการฝึกของมือรับเพื่อใช้รับลูกที่ top spin มาโดยการตี back spin ยาวๆกลับไป ต้องเรียนรู้ทั้งการสับลูกให้ back spin หนักก็ได้เบาก็ได้ แล้วสลับเป็นฝ่ายฝึก top spin กลับมาบ้าง
คนเรามักให้ความศรัทธาเชื่อคำสอนของนักปิงปองที่เป็นแชมป์หรือคนที่ตีปิงปองได้เก่งกว่าโดยลืมนึกไปว่า การเอาชนะในกีฬาปิงปองต้องอาศัยทั้งความสมบูรณ์ของร่างกาย ความชำนาญที่ได้จากการฝึกซ้อมอย่างหนัก และความฉลาด ถ้าเจอคู่ต่อสู้ที่มีคุณสมบัติสองอย่างแรกใกล้เคียงกัน คนที่เล่นเกมได้ฉลาดกว่าย่อมเอาชนะได้ในที่สุด แต่พออายุมากขึ้นเรี่ยวแรงลดถอยลงไปอีกทั้งมีครอบครัวมีภาระหน้าที่ไม่สามารถใช้เวลากับการฝึกฝนได้อย่างเดิม แม้ฉลาดกว่าก็ยากจะเคลื่อนตัวได้เร็วหรือออกแรงเหวี่ยงไม้เอาชนะนักปิงปองที่อายุอ่อนกว่า ส่วนนักปิงปองที่แข่งขันได้แชมป์อาจได้มาจากการใช้แรงและความชำนาญมากกว่าการใช้สมองทั้งๆที่เขามีท่าทางในการตีปิงปองผิดๆก็เป็นได้
หากต้องการเรียนรู้เทคนิคการตีปิงปองอย่างไม่รู้จักจบสิ้นควรยึดหลักอวดโง่ดีกว่าอวดฉลาด ไม่ควรทำตัวหยิ่งยะโส เลิกยกมือไหว้ทักทาย หรืออวดเบ่งว่าตัวเองรู้มากกว่าเขาเพียงเพราะเอาชนะเขาได้ ควรทำตัวเป็นผู้ฟัง พยายามถ่อมตัวให้มากเข้าไว้ เมื่อฝึกซ้อมกับใครก็ควรขอคำแนะนำจากคู่ซ้อมเสมอว่าตัวเองควรปรับปรุงแก้ไขการตีอย่างไรบ้าง ที่สำคัญการได้รู้จักกันในสนามฝึกเป็นจุดเริ่มของความสัมพันธ์ที่สามารถให้ความช่วยเหลือกันในเรื่องอื่นนอกเหนือจากปิงปอง
การได้ฟังคำแนะนำจากคนอื่น ไม่ว่าเขาจะเด็กกว่า แก่กว่า แม้จะเป็นเรื่องที่ตัวเองทราบอยู่แล้ว อย่ารีบเชื่อหรือคัดค้าน อย่าเชื่อแค่เพราะเขาเป็นแชมป์ อย่ารีบนำมาใช้เพราะอาจไม่เหมาะกับท่าตีของตัวเองก็ได้ เมื่อได้ฟังซ้ำตรงกับความเข้าใจเดิมย่อมเป็นการยืนยันว่าตัวเองเข้าใจถูก บางเรื่องที่ยังไม่ชัดก็ทราบชัดเจนขึ้น จะได้ทราบเรื่องที่ไม่เคยทราบ ได้เห็นมุมมองที่ไม่เคยคิดมาก่อน
น่าเสียดายว่าเมื่อนักปิงปองได้ขึ้นชื่อว่าเป็นครูหรือเป็นโค้ชปิงปองแล้ว คนอื่นมักเกรงใจไม่กล้าโต้แย้ง ไม่กล้าสอนคนที่เป็นครู ทำให้ครูหมดโอกาสได้รับคำแนะนำที่ดีไปมากทีเดียว